Black_memories on Nostr: อยู่ ๆ ...
อยู่ ๆ เช้านี้แว๊บแรกอยากสร้างเหรียญทำยังไง
ต่อมาก็สนใจเรื่องการสร้าง บล็อกเชน เพื่อให้ระบบสมบูรณ์ ไม่ว่าจะความรวดเร็ว ประหยัดพลังงาน ความปลอดภัย ทำยังไง
เลยมีความคิดโดยการแบ่งบล็อกเป็น layer โครงสร้างชั้นของบล็อก เพื่อทำให้ระบบรวดเร็ว
มี ชั้นหลัก (Main Layer)
ทำหน้าที่รวบรวมธุรกรรมทั้งหมดในเครือข่าย ซึ่งจะเป็นการบันทึกข้อมูลที่สำคัญและจำเป็นเกี่ยวกับธุรกรรม เช่น การโอนเหรียญ การตรวจสอบสถานะ และข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการเก็บในบล็อกเชนหลัก
ชั้นที่สอง: บล็อกย่อยแบบ Lightning (Lightning Block)
จะทำหน้าที่เป็นบล็อกย่อยที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมโดยการใช้ Lightning Network ซึ่งช่วยให้ธุรกรรมสามารถทำได้ทันที โดยไม่ต้องรอการยืนยันจากบล็อกหลัก
ชั้นที่สาม: Super Lightning Block
บล็อกนี้จะทำหน้าที่คล้ายกับบล็อกที่สอง แต่จะมีขนาดที่เล็กลงและทำให้ธุรกรรมที่ต้องการการยืนยันทันทีสามารถทำได้เร็วขึ้นอีก โดยรวบรวมธุรกรรมจำนวนมากจากบล็อกส่งไปบล็อกที่สองและส่งต่อไปยังบล็อกหลัก
บล็อกนี้การประมวลผลธุรกรรมที่มีความละเอียดต่ำกว่า ซึ่งช่วยลดการทำงานหนักในบล็อกที่สองและบล็อกหลัก
โดยทุกชั้นของบล็อกจะมีการกำหนดลำดับการยืนยันที่ชัดเจน โดยลำดับนี้อาจขึ้นอยู่กับระดับของความปลอดภัยที่ต้องการ เช่น บล็อกที่มีความสำคัญสูงกว่าจะต้องได้รับการยืนยันก่อน สามารถมีการตรวจสอบซ้ำในแต่ละชั้น โดยมีการยืนยันจากชั้นที่สูงกว่าถึงชั้นที่ต่ำกว่า เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกรรมทั้งหมดมีความถูกต้อง
และจัดลำดับความสำคัญ ธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงหรือสำคัญอาจถูกจัดลำดับให้มีการยืนยันก่อนในแต่ละชั้น
ใช้โครงสร้าง Merkle Trees ในการจัดระเบียบธุรกรรม ซึ่งช่วยให้สามารถยืนยันและตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมได้ง่ายและรวดเร็ว
สามารถใช้กลไกการเห็นชอบ (Consensus Mechanisms) ที่แตกต่างกันในแต่ละชั้น เช่น ใช้ Proof of Stake (PoS) สำหรับชั้นที่สองและ Delegated Proof of Stake (DPoS) สำหรับชั้นที่สาม
ผู้ตรวจสอบในแต่ละชั้นจะต้องทำการยืนยันธุรกรรม และการยืนยันจะต้องมีการลงคะแนนจากหลายฝ่ายในเครือข่ายเพื่อป้องกันการโกง
ทุกธุรกรรมจะถูกบันทึกและตรวจสอบย้อนกลับได้ ซึ่งช่วยให้การตรวจสอบความถูกต้องในอนาคตสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบแจ้งเตือนเมื่อมีธุรกรรมที่ไม่ตรงตามลำดับการยืนยันที่กำหนด เพื่อให้สามารถตรวจสอบและดำเนินการได้ทันที
โดยนำเทคโนโลยีใหม่เช่น sharding หรือ sidechains เข้ามาช่วยในการจัดการธุรกรรม สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ
ในแต่ละชั้นสามารถมีวิธีการยืนยันที่แตกต่างกัน เช่น การตรวจสอบจากผู้ใช้หลายคน (Multi-signature) หรือการใช้ผู้ตรวจสอบที่ได้รับการเลือกตั้งจากผู้ถือเหรียญ
แหะ ๆ ประมาณนี้ก่อน
ถ้าทำได้จริงน่าจะเวิร์ก ^ ^
ต่อมาก็สนใจเรื่องการสร้าง บล็อกเชน เพื่อให้ระบบสมบูรณ์ ไม่ว่าจะความรวดเร็ว ประหยัดพลังงาน ความปลอดภัย ทำยังไง
เลยมีความคิดโดยการแบ่งบล็อกเป็น layer โครงสร้างชั้นของบล็อก เพื่อทำให้ระบบรวดเร็ว
มี ชั้นหลัก (Main Layer)
ทำหน้าที่รวบรวมธุรกรรมทั้งหมดในเครือข่าย ซึ่งจะเป็นการบันทึกข้อมูลที่สำคัญและจำเป็นเกี่ยวกับธุรกรรม เช่น การโอนเหรียญ การตรวจสอบสถานะ และข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการเก็บในบล็อกเชนหลัก
ชั้นที่สอง: บล็อกย่อยแบบ Lightning (Lightning Block)
จะทำหน้าที่เป็นบล็อกย่อยที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมโดยการใช้ Lightning Network ซึ่งช่วยให้ธุรกรรมสามารถทำได้ทันที โดยไม่ต้องรอการยืนยันจากบล็อกหลัก
ชั้นที่สาม: Super Lightning Block
บล็อกนี้จะทำหน้าที่คล้ายกับบล็อกที่สอง แต่จะมีขนาดที่เล็กลงและทำให้ธุรกรรมที่ต้องการการยืนยันทันทีสามารถทำได้เร็วขึ้นอีก โดยรวบรวมธุรกรรมจำนวนมากจากบล็อกส่งไปบล็อกที่สองและส่งต่อไปยังบล็อกหลัก
บล็อกนี้การประมวลผลธุรกรรมที่มีความละเอียดต่ำกว่า ซึ่งช่วยลดการทำงานหนักในบล็อกที่สองและบล็อกหลัก
โดยทุกชั้นของบล็อกจะมีการกำหนดลำดับการยืนยันที่ชัดเจน โดยลำดับนี้อาจขึ้นอยู่กับระดับของความปลอดภัยที่ต้องการ เช่น บล็อกที่มีความสำคัญสูงกว่าจะต้องได้รับการยืนยันก่อน สามารถมีการตรวจสอบซ้ำในแต่ละชั้น โดยมีการยืนยันจากชั้นที่สูงกว่าถึงชั้นที่ต่ำกว่า เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกรรมทั้งหมดมีความถูกต้อง
และจัดลำดับความสำคัญ ธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงหรือสำคัญอาจถูกจัดลำดับให้มีการยืนยันก่อนในแต่ละชั้น
ใช้โครงสร้าง Merkle Trees ในการจัดระเบียบธุรกรรม ซึ่งช่วยให้สามารถยืนยันและตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมได้ง่ายและรวดเร็ว
สามารถใช้กลไกการเห็นชอบ (Consensus Mechanisms) ที่แตกต่างกันในแต่ละชั้น เช่น ใช้ Proof of Stake (PoS) สำหรับชั้นที่สองและ Delegated Proof of Stake (DPoS) สำหรับชั้นที่สาม
ผู้ตรวจสอบในแต่ละชั้นจะต้องทำการยืนยันธุรกรรม และการยืนยันจะต้องมีการลงคะแนนจากหลายฝ่ายในเครือข่ายเพื่อป้องกันการโกง
ทุกธุรกรรมจะถูกบันทึกและตรวจสอบย้อนกลับได้ ซึ่งช่วยให้การตรวจสอบความถูกต้องในอนาคตสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบแจ้งเตือนเมื่อมีธุรกรรมที่ไม่ตรงตามลำดับการยืนยันที่กำหนด เพื่อให้สามารถตรวจสอบและดำเนินการได้ทันที
โดยนำเทคโนโลยีใหม่เช่น sharding หรือ sidechains เข้ามาช่วยในการจัดการธุรกรรม สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ
ในแต่ละชั้นสามารถมีวิธีการยืนยันที่แตกต่างกัน เช่น การตรวจสอบจากผู้ใช้หลายคน (Multi-signature) หรือการใช้ผู้ตรวจสอบที่ได้รับการเลือกตั้งจากผู้ถือเหรียญ
แหะ ๆ ประมาณนี้ก่อน
ถ้าทำได้จริงน่าจะเวิร์ก ^ ^