MissPoriuz on Nostr: ขอ copy ...
ขอ copy ที่เคยแชร์ไว้หลายวันในเซนะมีอาจารย์จุฬาทำวิจัยไว้ และเราสรุปไว้ค่ะ
เมื่อวานนั่งฟังคลิปนี้ มันจะมีประเด็นในเรื่องของศาสนาจักรที่เข้ามาตัดสินผู้หญิงในสมัยนั้นว่าเป็นแม่มดแล้วก็แต่จริงๆมันไม่ใช่แค่ศาสนจักรที่ทำเรื่องนี้ เหมือนผู้วิจัยเค้ามาเล่าให้เราฟังว่าสมัยก่อนมันมีสิทธิพิเศษบางอย่างสำหรับคนที่เป็นพ่อมด ซึ่งเป็นกลุ่มของเพศชายที่มีความรู้เรื่องเดียวกันกับที่ผู้หญิงอาจจะรู้ เพราะว่าพวกเขาสามารถเข้าถึงกลุ่มคนที่เป็นผู้มีอำนาจในสังคม ณ เวลานั้น ส่วนคนที่เป็นผู้หญิงเนี่ยก็ถูกกดขี่
.
ในเรื่องของไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของคนยุคนั้นมันจะเป็นอารมณ์ประมาณว่ามันมีคนเอามาตรการของการล่าแม่มดในยุคนั้นน่ะมาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นเพื่อนบ้านที่ตัวเองไม่ชอบขี้หน้าก็มี
.
โดยรวมก็คือผู้วิจัยเล่าให้เราฟังในคลิปนี้ว่า สมมุติว่าเราไปเกิดในยุคนั้นนะแล้วเราถูกใครบางคนเนี่ยกล่าวหาว่าเป็นแม่มด มันจะมีเวลาในการแต่เหมือนกับว่าถูกจับไปขังเนี่ยไปจนถึงการประหาร ไม่กี่วันเท่านั้น เรียกว่ายังไม่ทันที่จะสืบสวนสอบสวน หาพยานหลักฐาน หรือว่าอะไรเลยทุกอย่างมันจะดูเป็นกระบวนการยุติธรรมที่เร่งรัดให้เกิดการประหารชีวิตโดยเร็ว คือคนที่โดนคดีนี้รอดยาก ต่อให้รอดก็จะใช้ชีวิตต่อจากเนี่ยลำบากเพราะว่าเหมือนโดนตีตราไปแล้วว่า เป็นแม่มด ผู้วิจัยก็จะเล่าให้เราฟังว่าเหมือนหลายๆ คดี เป็นการทึกทักไปเอง ที่น่าประหลาดใจก็คือการอนุญาตให้เด็กเป็นพยานในชั้นศาล แล้วมันก็จะเกิดปรากฏการณ์ที่แบบนำมาสู่การชี้ตัวว่าคนนั้นเป็นแม่มดคนนี้เป็นแม่มด แล้วก็เกิดปรากฏการณ์ที่ทำให้หลายคนถูกจับมาตัดสินแล้วก็โดนล่า
.
บางทีก็อยากจะได้ไปเจอกับหนังสือเล่มนั้นแล้วก็แบบลองอ่านดูเหมือนกันนะแต่ว่ามันเป็นหนังสือของศูนย์หนังสือจุฬา ซึ่งเป็นงานวิจัยของอาจารย์จุฬาที่เค้ามาทำเรื่องพวกนี้ ประหลาดใจอยู่เรื่องนึงก็คือหน้าปกอ่ะมัน ออกแบบมาสวยมาก มันไม่เหมือนดีไซน์เดิมๆ ที่เป็นเชิงตำราวิชาการ มันเหมือนหนังสืออ่านเพลินๆ มากกว่า ทั้งๆ ที่เล่มเนี่ยมันคืองานวิจัย
.
ก็ ใครสนใจก็ลองไปฟังแล้วก็ลองไปหาอ่านเอาเองนะสรุปมาประมาณนี้ 
https://m.youtube.com/watch?v=9M6xtax9Zwc
เมื่อวานนั่งฟังคลิปนี้ มันจะมีประเด็นในเรื่องของศาสนาจักรที่เข้ามาตัดสินผู้หญิงในสมัยนั้นว่าเป็นแม่มดแล้วก็แต่จริงๆมันไม่ใช่แค่ศาสนจักรที่ทำเรื่องนี้ เหมือนผู้วิจัยเค้ามาเล่าให้เราฟังว่าสมัยก่อนมันมีสิทธิพิเศษบางอย่างสำหรับคนที่เป็นพ่อมด ซึ่งเป็นกลุ่มของเพศชายที่มีความรู้เรื่องเดียวกันกับที่ผู้หญิงอาจจะรู้ เพราะว่าพวกเขาสามารถเข้าถึงกลุ่มคนที่เป็นผู้มีอำนาจในสังคม ณ เวลานั้น ส่วนคนที่เป็นผู้หญิงเนี่ยก็ถูกกดขี่
.
ในเรื่องของไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของคนยุคนั้นมันจะเป็นอารมณ์ประมาณว่ามันมีคนเอามาตรการของการล่าแม่มดในยุคนั้นน่ะมาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นเพื่อนบ้านที่ตัวเองไม่ชอบขี้หน้าก็มี
.
โดยรวมก็คือผู้วิจัยเล่าให้เราฟังในคลิปนี้ว่า สมมุติว่าเราไปเกิดในยุคนั้นนะแล้วเราถูกใครบางคนเนี่ยกล่าวหาว่าเป็นแม่มด มันจะมีเวลาในการแต่เหมือนกับว่าถูกจับไปขังเนี่ยไปจนถึงการประหาร ไม่กี่วันเท่านั้น เรียกว่ายังไม่ทันที่จะสืบสวนสอบสวน หาพยานหลักฐาน หรือว่าอะไรเลยทุกอย่างมันจะดูเป็นกระบวนการยุติธรรมที่เร่งรัดให้เกิดการประหารชีวิตโดยเร็ว คือคนที่โดนคดีนี้รอดยาก ต่อให้รอดก็จะใช้ชีวิตต่อจากเนี่ยลำบากเพราะว่าเหมือนโดนตีตราไปแล้วว่า เป็นแม่มด ผู้วิจัยก็จะเล่าให้เราฟังว่าเหมือนหลายๆ คดี เป็นการทึกทักไปเอง ที่น่าประหลาดใจก็คือการอนุญาตให้เด็กเป็นพยานในชั้นศาล แล้วมันก็จะเกิดปรากฏการณ์ที่แบบนำมาสู่การชี้ตัวว่าคนนั้นเป็นแม่มดคนนี้เป็นแม่มด แล้วก็เกิดปรากฏการณ์ที่ทำให้หลายคนถูกจับมาตัดสินแล้วก็โดนล่า
.
บางทีก็อยากจะได้ไปเจอกับหนังสือเล่มนั้นแล้วก็แบบลองอ่านดูเหมือนกันนะแต่ว่ามันเป็นหนังสือของศูนย์หนังสือจุฬา ซึ่งเป็นงานวิจัยของอาจารย์จุฬาที่เค้ามาทำเรื่องพวกนี้ ประหลาดใจอยู่เรื่องนึงก็คือหน้าปกอ่ะมัน ออกแบบมาสวยมาก มันไม่เหมือนดีไซน์เดิมๆ ที่เป็นเชิงตำราวิชาการ มันเหมือนหนังสืออ่านเพลินๆ มากกว่า ทั้งๆ ที่เล่มเนี่ยมันคืองานวิจัย
.
ก็ ใครสนใจก็ลองไปฟังแล้วก็ลองไปหาอ่านเอาเองนะสรุปมาประมาณนี้ 
https://m.youtube.com/watch?v=9M6xtax9Zwc