TATUN on Nostr: “ คำถามคือในทางเทคนิคฝั่งของ ...
“ คำถามคือในทางเทคนิคฝั่งของ Bitcoin เอง มีอะไรพัฒนาบ้างในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา? ”
แค่ไฮไลท์ก็ขนลุกแล้ว
#Siamstr
https://youtu.be/_GKBe0JW3TY?si=Ou-jxOjavIdt_2a9
ต่อๆ ผมพยายามหาข้อมูลเบื้องต้นมาให้ครับ ใครมีข้อมูลสามารถพูดคุยเพิ่มเติมได้นะครับ เพื่อนๆจะอัพเดทกันด้วย
ผมหาคำตอบใน GPT (Don't trust, verify ด้วยนะครับ) 🙂
------
ผมถามด้วยคำถามด้านบน...
คำตอบที่ได้ : การพัฒนาทางเทคนิคในฝั่งของ Bitcoin ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
- การอัปเกรด Taproot (2021) : เพิ่มความเป็นส่วนตัว และ เพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลธุรกรรม
- การพัฒนา Lightning Network : เพิ่มความเร็ว และ ลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมด้วยการสร้างเครือข่ายชั้นที่สอง
- การปรับปรุง Segregated Witness (SegWit) : เพิ่มขนาดบล็อก และ ปรับปรุงความยืดหยุ่นของธุรกรรม
- การพัฒนา Schnorr Signatures : เพิ่มความปลอดภัย และ เพิ่มประสิทธิภาพในการยืนยันธุรกรรม
- การพัฒนา MAST (Merkelized Abstract Syntax Trees) : เพิ่มความซับซ้อนของสคริปต์ และ เพิ่มความเป็นส่วนตัวของธุรกรรม
การพัฒนาเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความสามารถในการขยายตัวของเครือข่าย Bitcoin
------
ผมถามต่อ ... มีส่วนไหนป้องกันควอนตัมได้บ้าง เอาเป็นด้านปัจจัย เพราะควอนตัมและบิตคอยน์เองยังต้องพัฒนาต่อไป
คำตอบที่ได้ : ยังไม่มีการป้องกันควอนตัมโดยตรงใน Bitcoin ขณะนี้ แต่มีการศึกษาการใช้ Schnorr Signatures และการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสแบบควอนตัมเซฟ (Post-Quantum Cryptography) เป็นแนวทางในอนาคต
ยังเป็นเพียงการศึกษาและการทดลองในเชิงวิจัย ยังไม่มีการนำมาใช้จริงในเครือข่าย Bitcoin หลัก แต่บางโครงการหรือระบบที่เกี่ยวข้องเริ่มทดลอง Post-Quantum Cryptography เพื่อเตรียมพร้อมในอนาคต
เริ่มในช่วง 2017 และเริ่มมีความถี่ในการวิจัยมากขึ้นในช่วง 2020 เป็นต้นมา
------
ผมถามต่อ... โดยทั่วไป Bitcoin เอง มีระบบอะไรบ้างที่สามารถเป็นเกราะป้องกันที่แน่นหนาที่สามารถป้องกันควอนตัมได้
คำตอบที่ได้ : โดยทั่วไป Bitcoin ยังไม่มีระบบที่ป้องกันควอนตัมได้โดยตรง แต่มีปัจจัยบางอย่างที่ช่วยชะลอความเสี่ยง
- การใช้ Address ใหม่ทุกครั้ง : ลดความเสี่ยงจากการแฮกระบบ Public Key
- Proof of Work : ต้องการพลังประมวลผลมหาศาล แม้ควอนตัมจะช่วยได้ แต่ยังไม่เร็วพอที่จะโจมตีเครือข่ายทั้งหมด
- Hashing (SHA-256) : การแฮชยังคงปลอดภัยจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมในระยะสั้น
อย่างไรก็ตามยังต้องพัฒนาต่อในอนาคตเพื่อรองรับการป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้น
------
Don't trust, must Verify 🙂
แค่ไฮไลท์ก็ขนลุกแล้ว
#Siamstr
https://youtu.be/_GKBe0JW3TY?si=Ou-jxOjavIdt_2a9
ต่อๆ ผมพยายามหาข้อมูลเบื้องต้นมาให้ครับ ใครมีข้อมูลสามารถพูดคุยเพิ่มเติมได้นะครับ เพื่อนๆจะอัพเดทกันด้วย
ผมหาคำตอบใน GPT (Don't trust, verify ด้วยนะครับ) 🙂
------
ผมถามด้วยคำถามด้านบน...
คำตอบที่ได้ : การพัฒนาทางเทคนิคในฝั่งของ Bitcoin ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
- การอัปเกรด Taproot (2021) : เพิ่มความเป็นส่วนตัว และ เพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลธุรกรรม
- การพัฒนา Lightning Network : เพิ่มความเร็ว และ ลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมด้วยการสร้างเครือข่ายชั้นที่สอง
- การปรับปรุง Segregated Witness (SegWit) : เพิ่มขนาดบล็อก และ ปรับปรุงความยืดหยุ่นของธุรกรรม
- การพัฒนา Schnorr Signatures : เพิ่มความปลอดภัย และ เพิ่มประสิทธิภาพในการยืนยันธุรกรรม
- การพัฒนา MAST (Merkelized Abstract Syntax Trees) : เพิ่มความซับซ้อนของสคริปต์ และ เพิ่มความเป็นส่วนตัวของธุรกรรม
การพัฒนาเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความสามารถในการขยายตัวของเครือข่าย Bitcoin
------
ผมถามต่อ ... มีส่วนไหนป้องกันควอนตัมได้บ้าง เอาเป็นด้านปัจจัย เพราะควอนตัมและบิตคอยน์เองยังต้องพัฒนาต่อไป
คำตอบที่ได้ : ยังไม่มีการป้องกันควอนตัมโดยตรงใน Bitcoin ขณะนี้ แต่มีการศึกษาการใช้ Schnorr Signatures และการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสแบบควอนตัมเซฟ (Post-Quantum Cryptography) เป็นแนวทางในอนาคต
ยังเป็นเพียงการศึกษาและการทดลองในเชิงวิจัย ยังไม่มีการนำมาใช้จริงในเครือข่าย Bitcoin หลัก แต่บางโครงการหรือระบบที่เกี่ยวข้องเริ่มทดลอง Post-Quantum Cryptography เพื่อเตรียมพร้อมในอนาคต
เริ่มในช่วง 2017 และเริ่มมีความถี่ในการวิจัยมากขึ้นในช่วง 2020 เป็นต้นมา
------
ผมถามต่อ... โดยทั่วไป Bitcoin เอง มีระบบอะไรบ้างที่สามารถเป็นเกราะป้องกันที่แน่นหนาที่สามารถป้องกันควอนตัมได้
คำตอบที่ได้ : โดยทั่วไป Bitcoin ยังไม่มีระบบที่ป้องกันควอนตัมได้โดยตรง แต่มีปัจจัยบางอย่างที่ช่วยชะลอความเสี่ยง
- การใช้ Address ใหม่ทุกครั้ง : ลดความเสี่ยงจากการแฮกระบบ Public Key
- Proof of Work : ต้องการพลังประมวลผลมหาศาล แม้ควอนตัมจะช่วยได้ แต่ยังไม่เร็วพอที่จะโจมตีเครือข่ายทั้งหมด
- Hashing (SHA-256) : การแฮชยังคงปลอดภัยจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมในระยะสั้น
อย่างไรก็ตามยังต้องพัฒนาต่อในอนาคตเพื่อรองรับการป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้น
------
Don't trust, must Verify 🙂