Tim S on Nostr: “it so hard to regain trust” ...
“it so hard to regain trust” บทเรียนที่ผมได้รับรู้เมื่อไม่นานมานี้
ตอนแรกลังเลว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีไหม เพราะว่า อาจจะกระทบหรือมีมุมมองที่ผิดไปจากคนอื่น แต่คิดว่าอย่างน้อยก็อาจจะได้ feedback จากคนในทุ่งบ้าง
เรื่องก็คือ ช่วงก่อนหน้านี้ หลังจากที่อะไรกำลังไปได้ด้วยดี ผมกลับรู้สึกแปลกๆ อาจจะเซ้นด้วย หรืออะไร ทำให้ผมตัดสินใจทำอะไรบางอย่างที่ไม่คิดที่จะทำ แล้วมันก็กระทบกับความรู้สึก รวมถึงทำให้ผมรวนไปในช่วงๆนึง
ผลปรากฎว่า มันก็คือสิ่งที่ผมไม่คิดไว้ว่าจะเจอ ผมขอไม่เล่า Detail ดีกว่า
กลับมาเรื่อง Trust
ความเชื่อใจนี่ ส่วนตัวผมคิดว่ามันคือความรู้สึกล้วนๆเลย มันอาจจะเป็นผลลัพธ์หลังจากเราใช้ตรรกะหรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วก็เลือกที่จะเชื่อ ซึงมันก็มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ในส่วนของข้อดีที่ผมพอจะคิดออกคือ ทำให้เรามั่นใจ หรือทำให้รู้สึกปลอดภัยกับเรื่องนั้นๆ
แต่ข้อเสียของมันก็คือ ถ้าวันนึง ถ้าเราเชื่อใจมากๆแล้วมันกลับเป็นคนละแบบ มันก็เป็นเรื่องยากมากที่จะทำใจรับได้ และกลับมาเชื่อใจได้อีกครั้ง
ผมเลยลองพยายามทำทุกๆวิธีเท่าที่จะคิดออกในเวลานั้น ทั้งปล่อยใจ ปล่อยวาง หรือ เลือกที่จะทุ่ม Focus ไปที่เรื่องอื่นๆ แต่ก็เหมือนจะไม่ค่อยเห็นผลเท่าไร
ผมเลยกลับมาคิดว่า หรือจริงๆ เราไม่ควรเชื่อใจใครเลย แต่ก็อาจจะดูแปลกๆในหลายๆเรื่อง หรือดูเป็นคนระแวงตลอดเวลา ซึ่งอาจจะไม่เป็ฯผลดีกับสุขภาพจิตเท่าไร ผมเลยคิดว่าหรือจะ Don’t trust, Verify คือไม่เชื่ออะไรเลยจนกว่าจะพิสูจน์หรือให้มันพิสูจน์ แล้วต่อให้มันพิสูจน์หรือเราพิสูจน์ก็พึงระวังไว้ว่า ยังไงซะมันก็ไม่Sustainable อยู่ดี ซึ่ง concept อาจจะทำให้เราระวังการเชื่อใจใครมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไง แต่อย่างน้อย ก็ดึงตัวเองกลับมาได้เกิน 50% ซึ่งผมก็อยากจะหา idea หรือวิธีอะไรที่ช่วยให้มันกลับมาได้ ไม่ต้องถึง100 แค่ 90-95 มันก็โอเคแล้ว
มีความเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ เอาจริงเรื่องนี้มันทำให้ผมเป๋หนักมากๆ มันทำลายอะไรหลายๆอย่างไปในพริบตา
ใจจริงผมก็อยากฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง เผื่อว่ามุมมองของผมจะแคบเกินไป หรือมีคำแนะนำอะไรเพิ่มเติมให้ผมได้ตกตะกอนเพิ่ม
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
+ รูปไม่เกี่ยวครับ เห็นว่ารูปเก่าๆมันสวยดี
#siamstr #nostr
ตอนแรกลังเลว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีไหม เพราะว่า อาจจะกระทบหรือมีมุมมองที่ผิดไปจากคนอื่น แต่คิดว่าอย่างน้อยก็อาจจะได้ feedback จากคนในทุ่งบ้าง
เรื่องก็คือ ช่วงก่อนหน้านี้ หลังจากที่อะไรกำลังไปได้ด้วยดี ผมกลับรู้สึกแปลกๆ อาจจะเซ้นด้วย หรืออะไร ทำให้ผมตัดสินใจทำอะไรบางอย่างที่ไม่คิดที่จะทำ แล้วมันก็กระทบกับความรู้สึก รวมถึงทำให้ผมรวนไปในช่วงๆนึง
ผลปรากฎว่า มันก็คือสิ่งที่ผมไม่คิดไว้ว่าจะเจอ ผมขอไม่เล่า Detail ดีกว่า
กลับมาเรื่อง Trust
ความเชื่อใจนี่ ส่วนตัวผมคิดว่ามันคือความรู้สึกล้วนๆเลย มันอาจจะเป็นผลลัพธ์หลังจากเราใช้ตรรกะหรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วก็เลือกที่จะเชื่อ ซึงมันก็มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ในส่วนของข้อดีที่ผมพอจะคิดออกคือ ทำให้เรามั่นใจ หรือทำให้รู้สึกปลอดภัยกับเรื่องนั้นๆ
แต่ข้อเสียของมันก็คือ ถ้าวันนึง ถ้าเราเชื่อใจมากๆแล้วมันกลับเป็นคนละแบบ มันก็เป็นเรื่องยากมากที่จะทำใจรับได้ และกลับมาเชื่อใจได้อีกครั้ง
ผมเลยลองพยายามทำทุกๆวิธีเท่าที่จะคิดออกในเวลานั้น ทั้งปล่อยใจ ปล่อยวาง หรือ เลือกที่จะทุ่ม Focus ไปที่เรื่องอื่นๆ แต่ก็เหมือนจะไม่ค่อยเห็นผลเท่าไร
ผมเลยกลับมาคิดว่า หรือจริงๆ เราไม่ควรเชื่อใจใครเลย แต่ก็อาจจะดูแปลกๆในหลายๆเรื่อง หรือดูเป็นคนระแวงตลอดเวลา ซึ่งอาจจะไม่เป็ฯผลดีกับสุขภาพจิตเท่าไร ผมเลยคิดว่าหรือจะ Don’t trust, Verify คือไม่เชื่ออะไรเลยจนกว่าจะพิสูจน์หรือให้มันพิสูจน์ แล้วต่อให้มันพิสูจน์หรือเราพิสูจน์ก็พึงระวังไว้ว่า ยังไงซะมันก็ไม่Sustainable อยู่ดี ซึ่ง concept อาจจะทำให้เราระวังการเชื่อใจใครมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไง แต่อย่างน้อย ก็ดึงตัวเองกลับมาได้เกิน 50% ซึ่งผมก็อยากจะหา idea หรือวิธีอะไรที่ช่วยให้มันกลับมาได้ ไม่ต้องถึง100 แค่ 90-95 มันก็โอเคแล้ว
มีความเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ เอาจริงเรื่องนี้มันทำให้ผมเป๋หนักมากๆ มันทำลายอะไรหลายๆอย่างไปในพริบตา
ใจจริงผมก็อยากฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง เผื่อว่ามุมมองของผมจะแคบเกินไป หรือมีคำแนะนำอะไรเพิ่มเติมให้ผมได้ตกตะกอนเพิ่ม
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
+ รูปไม่เกี่ยวครับ เห็นว่ารูปเก่าๆมันสวยดี
#siamstr #nostr