What is Nostr?
exchthaicrypto / exchthai
npub1vvd…ft3l
2023-08-05 05:06:51

exchthaicrypto on Nostr: 24 พฤศจิกายน 2565 ...

24 พฤศจิกายน 2565

วิธีจัดการกับระบบเงินเฟียต ของคนเป็นหนี้ แบบฮาร์ดคอร์
ตั้งแต่ทำงานมา ผมเคยคิดมาตลอดว่า ถ้าไม่กู้ ก็คงไม่มีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เราอยากได้ อยากมี เช่น บ้าน รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า จนปัจจุบัน แม้แต่การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ก็ยังต้องกู้ ผมยังจำได้ว่า ครั้งนึงผมเขียนในเอกสารคำขอกู้ โดยระบุในวัตถุประสงค์ “เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน” ซึ่งมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อเราทำงานในอาชีพที่เราคิดว่ามั่นคง โดยเฉพาะข้าราชการนั้น สิ่งที่ตามมาในระยะแรก นั่นคือ สินเชื่อต่างๆ จะเข้ามาหาคุณให้เลือกอย่างมากมาย จนเราคิดไม่ถึงว่า เงินเดือนแค่นี้ หมื่นสองหมื่น กู้เงินได้เป็นล้าน กันเลยทีเดียว และยังกู้ได้หลายๆ ที่ด้วย ถ้าเรายังมีเงินเดือนให้เขาหัก จึงไม่น่าแปลกใจที่ข้าราชการส่วนใหญ่จะเป็นหนี้สินมากมาย
จนทำให้ข้าราชการทุกวันนี้ ต้องทำงานเพื่อนำเงินเดือนไปชำระหนี้สินดังกล่าว ซึ่งบางครั้งอาจยาวนานจนเกษียณอายุราชการแล้ว ก็ยังไม่หมดหนี้สินนั้น โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่ซ่อนในหนี้สินนั้นคือภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มเติมเข้ามา จนทำให้เราอยู่ในวังวนแห่งหนี้ ส่วนที่มีคำถามว่า กู้หนี้ ไปเพื่ออะไร ก็คงตอบได้ใน 2 มิติ คือ กู้เพื่อการลงทุน และ กู้เพื่อซื้อความสะดวกสบายส่วนตัว ซึ่งล้วนแต่ก่อปัญหาให้เกิดได้ทั้งสิ้น การกู้เงินเพื่อมาลงทุน หากไม่มีความรู้ หรือมีความรู้บ้าง แต่เราอาจจะเจอปัญหาได้ ซึ่งปัญหาของการกู้ย่อมมีความเสี่ยงที่จะผิดพลาด เพราะถ้าการลงทุนผิดพลาดขึ้นมา สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ อาจต้องสูญเสียเงินทุนที่กู้มา และยังติดภาระหนี้สินอีกต่างหาก และส่วนการกู้มาเพื่อความสะดวกสบายส่วนตัว ซื้อสิ่งของเครื่องใช้ บ้าน รถยนต์ บางคนอาจจะซื้อที่ดินโดยคิดว่าคือการลงทุน แต่กลับไม่มีรายได้จากที่ดินดังกล่าว และกลับกลายเป็นภาระในการดูแลรักษา หรือใช้ประโยชน์โดยที่ไม่มีเวลาเพราะต้องทำงานประจำ ทำให้ในอนาคตผู้กู้จะโดนปัญหาที่ติดตามมาจากสิ่งของเหล่านั้นแน่นอน และเมื่อภาระหนี้สินที่มากมายรุมเร้าเข้ามา งานประจำที่ทำก็จะกลายเป็นงานที่เราไม่รู้จะวางตัวเองอย่างไรกับงานดังกล่าว จะเลิกทำก็มีภาระหนี้สินที่ต้องชำระ ไม่งั้นก็อาจโดนบังคับยึดทรัพย์สินต่างๆ การที่ต้องทำงานโดยที่เงินเดือนไม่ได้รับเพราะต้องชำระหนี้จนหมดก็จะทำให้ไม่มีความสุขในการทำงาน ขาดไฟ ขาดความกระตือรือร้น หมดพลัง กลายเป็นหนูถีบจักร ที่อยู่ในวังวนของสนามแข่งหนู เหมือนที่ โรเบิร์ต คิโยซากิ เจ้าของหนังสือชุดพ่อรวย กล่าวไว้
แล้วเราจะทำยังไง หลายคนผมเชื่อว่าคงได้แต่โทษตัวเอง ยิ่งไปเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟัง ก็จะยิ่งโดนตำหนิอย่างรุนแรง ทำให้ยิ่งหมดความเชื่อถือตัวเองไปเลยทีเดียว หรือหลายคนอาจจะคิดกับตัวเอง ว่าเราทำอะไรผิดไปหรือ เราก็อยากได้อยากมีเหมือนคนอื่น เราก็อยากพัฒนาตนเอง ลงทุนสร้างรายได้ให้งอกเงยมากกว่าเงินเดือนที่ได้รับ พยายามทำงานที่สอง สาม สี่ แต่ก็ยังประสบปัญหานี้อยู่ ผมอยากจะชวนท่านๆ ทั้งหลายที่ประสบปัญหาหนี้สินแบบนี้ มามองปัญหานี้ใหม่ แล้วคิดแบบคนเห็นแก่ตัวบ้างว่า มันก็เป็นที่สถาบันการเงินต่างๆ ที่ปล่อยสินเชื่อนี้แหละที่สร้างปัญหา ระบบเงินเฟียต ที่รัฐสามารถสร้างเงินขึ้นมาได้ มีระบบอุปถัมภ์ และการดูแลพรรคพวกเพื่อนพ้องนั่นแหละ คือปัญหา ทำมาเสนอสินเชื่อต่างๆ ให้เรา ใช้เงินมาล่อหลอก ปล่อยกู้ให้เราแบบง่ายๆ แล้วก็คิดดอกเบี้ยจากเรา ปล่อยกู้จนเราต้องติดอยู่ในกับดักแห่งหนี้สิน จนไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้ ต้องติดในวังวนแห่งหนี้ ต้องกู้วนซ้ำๆ จนหาทางออกไม่เจอและหลุมแห่งหนี้ก็ลึกลงไปทุกที เราจะมาหาวิธีแก้เผ็ดคนเหล่านี้กันบ้าง
วิธีการ.. ก่อนอื่นต้อง โนสนโนแคร์ ใดๆ แล้ว ขายทรัพย์สินเฟียตๆ ทั้งหลายออกไปให้หมด ขายบ้าน รถยนต์ ที่ดิน ฯลฯ ที่บรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลายจะมาบังคับให้เราต้องขาย เมื่อต้องฟ้องร้องเรียกหนี้สินคืน ซึ่งไอ้ที่เราคิดว่าเป็นทรัพย์สินนี่แหละคือตัวปัญหาอีกอย่างของมนุษย์ เพราะสิ่งของต่างๆ ที่เราหามา ล้วนทำเพื่อหน้าตาทางสังคม ซึ่งก็คือปัญหาใหญ่ของมนุษย์ ผมขอเรียกว่า มนุษย์หน้าใหญ่ ตามภาษาบ้านผมก็แล้วกัน ซึ่งปัญหาใหญ่ของมนุษย์หน้าใหญ่ ผมจะขอเขียนเรื่องนี้ในอีกบทความนึง
บ่อยครั้งที่เราเป็นหนี้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ และนั่นเป็นปัญหาที่ต้องจัดการ เราต้องจัดการภาพลักษณ์จอมปลอมทั้งหลายออกให้หมด ไม่ต้องไปแคร์ใคร ไม่ต้องไปอวดมั่งอวดมีบนหนี้กองมหึมา ขายออกไปให้หมด แล้วไปอยู่บ้านเช่า ถ้าบ้านยังเป็นหนี้ก็ขายให้คนส่งต่อ ถ้าหนี้มีปริมาณมากไม่มีคนซื้อได้ ก็ปล่อยให้เขามายึด ไม่ต้องส่ง เตรียมวางแผนย้ายออก หรือใครเป็นราชการก็ไปอยู่บ้านพักหลวง รถก็ใช้คันเล็กๆ มือสอง ถ้ารถยนต์ที่ใช้อยู่ยังติดหนี้ไฟแนนซ์ก็ ขายหาคนส่งต่อ ถ้าหนี้มีปริมาณมาก ก็ปล่อยให้เขายึดรถไป แล้วใช้รถคันเล็กๆ มือสองเพื่อเดินทางก็พอ ไม่ต้องไปโชว์ไปอวดใคร กินอยู่ตามควรแก่อัตภาพ ไม่ต้องอวดหรูกินตามร้านสวยๆ โชว์ลงโซเชียล และอื่นๆ ที่ซื้อมาอวด มาโชว์ ขายทิ้งให้หมด เหลือแค่ของจำเป็นจริงๆ ก็พอ จนได้เงินก้อนมาจำนวนหนึ่ง ถามว่าเราจะนำเงินส่วนนี้ไปใช้หนี้ใช่ใหม คำตอบคือ ไม่ใช่ครับ
ที่นี้ เราก็จะนำเงินดังกล่าวแปลงไปเป็น bitcoin ให้หมด แยกกระเป๋าต่างๆ นาๆ ใช้กระบวนการอันสลับซับซ้อน จนไม่สามารถจะรู้ได้ว่า เรามี bitcoin แล้วจากนั้นต้องทำอย่างไงต่อ ส่วนที่ทำงาน ก็ตั้งหน้าตาทำงานต่อไป หากถูกฟ้องนำเงินเดือนไปใช้ชำระหนี้ ในเมื่อทำงานไม่ได้เงินเดือน ไม่ได้ผลตอบแทน จะทำไปทำไมล่ะครับ เราก็ลาออกจากงานนั้น แล้วไป proof of work งานใหม่เพื่อดำรงชีพ เป็นอาชีพอิสระ ที่ไม่สามารถจะมายึดเงินเราได้ ซึ่งระหว่างนี้ เราก็จะเข้าสู่กระบวนการทวงหนี้สินจากสถาบันต่างๆ มีการขึ้นโรงขึ้นศาล เพื่อพิจารณา สืบทรัพย์ ยึดทรัพย์ต่อไป ซึ่งเราก็มีแค่ห้องเช่า กับรถเก่าๆ โดยที่เขาอาจจะไปสืบเส้นทางทางการเงิน เพราะการแปลงเงินเฟียตนั้น จะสืบเส้นทางได้อยู่แล้ว เราก็แค่แจ้งไปว่า นำไปลงทุนในคริปโต เจ๊งหมดแล้ว เท่านี้ก็เรียบร้อย
คนก็จะบอกว่า หมดเครดิต กู้เงินไม่ได้ ไม่มีความน่าเชื่อถือ โอ้โหคุณ มาจนขนาดนี้ เงินจะซื้อข้าวกินยังไม่มี ยังจะคิดเรื่องเครดิต เรื่องกู้เงินอีกหรือ เชื่อถือในตัวเองก็พอครับ ไม่มีใครมาหาข้าวให้คุณกินหรอก ตั้งใจทำงานใหม่ให้ดี มีรายได้เก็บออมใน btc ส่วนปัญหาของเจ้าหนี้สถาบันการเงิน เขาก็จะไปหามาตรการใหม่เพื่อป้องกัน และเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เมื่อคุณมักง่าย ปล่อยสินเชื่อง่ายๆ ใช้เงินมาล่อหลอก สถาบันก็ต้องยอมรับความเสี่ยงนี้ด้วย จะได้ไม่ต้องเสกเงินขึ้นมาง่ายๆ อีก

อาจจะออกแนวหลุดโลก คนอื่นมองว่าเห็นแก่ตัว แต่เมื่อเราเลือกที่จะไม่สนใจภาพลักษณ์ใดๆ และไม่แคร์ความคิดใครแล้ว และคนที่พูดก็ไม่รู้ไปเดือดร้อนอะไรตรงไหน เราก็ไม่ต้องไปสนใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะต้องไม่เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้คนที่เกี่ยวข้องอื่นๆ นอกจากสถาบันการเงิน และระบบการเงินภาครัฐที่เอารัดเอาเปรียบเรา เช่น หนี้ที่มีผู้ค้ำประกัน ส่วนนี้เราคงต้องหาวิธีแก้ไขในอีกรูปแบบอื่น เพื่อไม่ให้ผู้ค้ำประกันเดือดร้อนด้วยนะครับ


Exch Thai Crypto
Author Public Key
npub1vvd8hvrj4czrrhmrgrggan6n97q7pjgpnv3anwxr4kksugw3ukksffft3l