sitt on Nostr: หนึ่งแสนแล้ว !! ...
หนึ่งแสนแล้ว !! ไม่ใช่ราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลบิทคอยน์ที่อยู่บนระบบกระจายศูนย์ตัวเดียวของโลกหรอกนะ แต่เป็นจำนวนเหตุผลที่เราต้องเรียนรู้ถึงความสามารถของการโปรแกรมสัญญาอิเล็คโทรนิกอัตโนมัติ
หลายคนถามว่าทำไมเราถึงไม่มีวงการ DeFi อยู่ "บน" บิทคอยน์บ้าง ทั้ง ๆ ที่เรากำลังเป็นพยานการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเกิดการ financing ของโลกที่สาม ผ่านระบบเงินกระจายศูนย์ที่ไม่สร้างหนี้ จับอนาคตของประเทศกำลังพัฒนาเป็นตัวประกัน
DeFi (Decentralized Finance) หรือระบอบกองทุนไร้ศูนย์กลาง เป็นนิยามที่เด็ฟเวล็อปเปอร์ตั้งให้กับ กลุ่มโปรแกรมสลากกระจายทิพย์ ที่โคจรรอบตัวเหรียญสเตเบิ้ลคอยน์ และกองสลากข้างเคียงที่ใช้การพิมพ์กองสลาก โทเค่น ในการแทนที่บัญชีหนี้ (aave, compound), สร้างกลจักรตอบโจทย์ตัณหาไม่ปรีกษาผู้ใช้ (...), แตกตัวสร้างระบบนิเวศน์แข่ง (bsc, tron), รวมตัวสร้างระบบนิเวศน์รอง (base, polygon), แจกจ่ายหนี้รัฐบาลโลกตะวันตกให้แรงงานคนรุ่นใหม่จากตะวันออก (blackrock buidl) เรียกร้องความสนใจ (meme, pump) หรือกระตุ้นสภาพคล่องให้กับสินทรัพย์ขึ้นคาน (rwa) โดยใช้โปรแกรม automated market maker ในการหมุนเวียนทุนกลางที่ ทำให้กลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า สถุล (degen) ได้ถือสลากจากหลากหลายกอง แล้วเห็นเงินทุนที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อละลายหายไปเหมือนก้อนน้ำแข็ง เนื่องจากกลไกของตลาดที่ป้อนข้อมูลมากล้น เอื้ออำนวยกับผู้ขายฝันมากกว่าผู้สร้างฝัน
มากกว่านั้นเอง หลายการพัฒนาที่เราเห็นกันในดีไฟหรือเว็บสาม สามารถถูกตีกรอบได้ว่าเป็นการซ่อมแซมระบบนิเวศน์รอบตัวเอง ให้คงความยุติธรรมที่ไม่สามารถพึ่งพา stakeholders ได้ เนื่องจากเทคโนโลยีกระจายศูนย์ถูกต้อนกลับ ให้เอื้ออำนวยการหมุนเวียนดอลล่าร์สหรัฐได้ดีขี้น
ผลงานวิจัยของ Human Rights Foundation เมื่อไม่กี่ปีก่อนได้สอดส่องเข้าไปดูการใช้งานของสเตเบิ้ลคอยน์ และการเติบโตของดีไฟก่อนและหลังการหนุนหลังจากนายทุนเช่นกลุ่ม Alameda Research ได้พบว่า สเตเบิ้ลคอยน์จำนวนมาก ไม่ได้เป็นการลงทุนใด ๆ ให้กับนักพัฒนา ผู้ก่อตั้ง หรือมูลนิธิที่จับต้องช่องโหว่ของตลาดในหลาย ๆ ประเทศ เราเห็นบิทคอยเน่อร์อุดปิดช่องโหว่เหล่านี้ ด้วยการนำเงินกระจายศูนย์แจกจ่ายผู้ประสบภัยทางการเงินทั่วโลกที่ปัญหาหลักคือการเสื่อมสลายของเงินรัฐบาลแบกหนี้ไม่มีขีดจำกัด เราเห็นการใช้สเตเบิ้ลคอยน์มากกว่าบิทคอยน์ในบางประเทศ บนระบบนิเวศน์ที่ไร้ค่าธรรมเนียมอย่างเช่น tron ที่เศรษฐีกินกล้วย และ... มีวิสัยทรรศน์โคจรรอบสังคมเฟียต
คำถามที่สำคัญที่อยากทิ้งไว้ ความโกลาหลที่เราเห็นในดีไฟ สามารถกระตุ้นผู้ประกอบการ entrepreneur ให้ทำดีได้ดีในระบอบการเงินแบบไหนมากกว่ากัน ??
#Bitcoin #Siamstr #DeFi #DecentralizedFinance #TokenFi
หลายคนถามว่าทำไมเราถึงไม่มีวงการ DeFi อยู่ "บน" บิทคอยน์บ้าง ทั้ง ๆ ที่เรากำลังเป็นพยานการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเกิดการ financing ของโลกที่สาม ผ่านระบบเงินกระจายศูนย์ที่ไม่สร้างหนี้ จับอนาคตของประเทศกำลังพัฒนาเป็นตัวประกัน
DeFi (Decentralized Finance) หรือระบอบกองทุนไร้ศูนย์กลาง เป็นนิยามที่เด็ฟเวล็อปเปอร์ตั้งให้กับ กลุ่มโปรแกรมสลากกระจายทิพย์ ที่โคจรรอบตัวเหรียญสเตเบิ้ลคอยน์ และกองสลากข้างเคียงที่ใช้การพิมพ์กองสลาก โทเค่น ในการแทนที่บัญชีหนี้ (aave, compound), สร้างกลจักรตอบโจทย์ตัณหาไม่ปรีกษาผู้ใช้ (...), แตกตัวสร้างระบบนิเวศน์แข่ง (bsc, tron), รวมตัวสร้างระบบนิเวศน์รอง (base, polygon), แจกจ่ายหนี้รัฐบาลโลกตะวันตกให้แรงงานคนรุ่นใหม่จากตะวันออก (blackrock buidl) เรียกร้องความสนใจ (meme, pump) หรือกระตุ้นสภาพคล่องให้กับสินทรัพย์ขึ้นคาน (rwa) โดยใช้โปรแกรม automated market maker ในการหมุนเวียนทุนกลางที่ ทำให้กลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า สถุล (degen) ได้ถือสลากจากหลากหลายกอง แล้วเห็นเงินทุนที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อละลายหายไปเหมือนก้อนน้ำแข็ง เนื่องจากกลไกของตลาดที่ป้อนข้อมูลมากล้น เอื้ออำนวยกับผู้ขายฝันมากกว่าผู้สร้างฝัน
มากกว่านั้นเอง หลายการพัฒนาที่เราเห็นกันในดีไฟหรือเว็บสาม สามารถถูกตีกรอบได้ว่าเป็นการซ่อมแซมระบบนิเวศน์รอบตัวเอง ให้คงความยุติธรรมที่ไม่สามารถพึ่งพา stakeholders ได้ เนื่องจากเทคโนโลยีกระจายศูนย์ถูกต้อนกลับ ให้เอื้ออำนวยการหมุนเวียนดอลล่าร์สหรัฐได้ดีขี้น
ผลงานวิจัยของ Human Rights Foundation เมื่อไม่กี่ปีก่อนได้สอดส่องเข้าไปดูการใช้งานของสเตเบิ้ลคอยน์ และการเติบโตของดีไฟก่อนและหลังการหนุนหลังจากนายทุนเช่นกลุ่ม Alameda Research ได้พบว่า สเตเบิ้ลคอยน์จำนวนมาก ไม่ได้เป็นการลงทุนใด ๆ ให้กับนักพัฒนา ผู้ก่อตั้ง หรือมูลนิธิที่จับต้องช่องโหว่ของตลาดในหลาย ๆ ประเทศ เราเห็นบิทคอยเน่อร์อุดปิดช่องโหว่เหล่านี้ ด้วยการนำเงินกระจายศูนย์แจกจ่ายผู้ประสบภัยทางการเงินทั่วโลกที่ปัญหาหลักคือการเสื่อมสลายของเงินรัฐบาลแบกหนี้ไม่มีขีดจำกัด เราเห็นการใช้สเตเบิ้ลคอยน์มากกว่าบิทคอยน์ในบางประเทศ บนระบบนิเวศน์ที่ไร้ค่าธรรมเนียมอย่างเช่น tron ที่เศรษฐีกินกล้วย และ... มีวิสัยทรรศน์โคจรรอบสังคมเฟียต
คำถามที่สำคัญที่อยากทิ้งไว้ ความโกลาหลที่เราเห็นในดีไฟ สามารถกระตุ้นผู้ประกอบการ entrepreneur ให้ทำดีได้ดีในระบอบการเงินแบบไหนมากกว่ากัน ??
#Bitcoin #Siamstr #DeFi #DecentralizedFinance #TokenFi
