Triple Gem V.2 on Nostr: ...
การทำสมาธิเป็นสิ่งที่กระทำกันมาอย่างความยาวนานและแพร่หลายในวัฒนธรรมทั่วโลก
โดยมีเป้าหมายหลักในการสร้างความสงบและความเป็นหนึ่งเดียวกับจิตใจและร่างกาย
การทำสมาธิไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องของความสงบในใจและการลดความเครียด แต่ยังมี
ผลดีต่อการนอนหลับ ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนประสบในปัจจุบัน
การทำสมาธิมีผลต่อระบบประสาทอัตโนมัติ ซึ่งประกอบด้วยสองส่วนหลัก คือ
ระบบประสาทซิมพาเทติก (Sympathetic Nervous System) และ
ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic Nervous System)
การทำสมาธิช่วยในการกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติก
ซึ่งมีหน้าที่ช่วยให้ ร่างกายผ่อนคลายและเตรียมพร้อมสำหรับการนอนหลับ
เมื่อระบบประสาทนี้ถูกกระตุ้น ร่างกายจะปล่อยสารเคมีที่ช่วยให้รู้สึกสงบ
เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) และเมลาโทนิน (Melatonin)
ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการนอนหลับ
นอกจากการปรับสมดุลของระบบประสาทแล้ว การทำสมาธิยังช่วยลดระดับฮอร์โมน
ความเครียด เช่น คอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งมักจะเพิ่มขึ้นในสภาวะเครียด การลด
ระดับคอร์ติซอลช่วยให้ร่างกายและจิตใจเข้าสู่ภาวะที่พร้อมสำหรับการพักผ่อน
การทำสมาธิยังช่วยในการควบคุมความคิดและอารมณ์ ซึ่งมักจะเป็นสาเหตุที่ทำให้
หลายคนไม่สามารถนอนหลับได้ง่าย เมื่อฝึกสมาธิอย่างสม่ำเสมอ เราจะสามารถเรียนรู้
วิธีการรับมือกับความคิดและความรู้สึกที่รบกวนจิตใจได้ดีขึ้น ทำให้สามารถนอนหลับ
ได้ลึกและยาวนานขึ้น
การทำสมาธิยังช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับในทางกายภาพ เช่น การหายใจช้า
และลึก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำสมาธิ ช่วยในการเพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือด
และลดอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะที่ผ่อนคลายและพร้อมสำหรับ
การนอนหลับ การฝึกสมาธิยังสามารถช่วยลดอาการของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
(Sleep Apnea) ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนที่มีปัญหาการนอนหลับ
การทำสมาธิช่วยสร้างสภาพจิตใจที่พร้อมรับการนอนหลับ การฝึกสมาธิในช่วงเย็น
หรือก่อนนอนช่วยในการสร้างนิสัยการนอนหลับที่ดี เนื่องจากการทำสมาธิเป็นการ
สร้างกิจวัตรที่สม่ำเสมอ ซึ่งช่วยให้สมองรับรู้ว่าใกล้ถึงเวลาที่ต้องนอนหลับแล้ว
#siamstr
โดยมีเป้าหมายหลักในการสร้างความสงบและความเป็นหนึ่งเดียวกับจิตใจและร่างกาย
การทำสมาธิไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องของความสงบในใจและการลดความเครียด แต่ยังมี
ผลดีต่อการนอนหลับ ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนประสบในปัจจุบัน
การทำสมาธิมีผลต่อระบบประสาทอัตโนมัติ ซึ่งประกอบด้วยสองส่วนหลัก คือ
ระบบประสาทซิมพาเทติก (Sympathetic Nervous System) และ
ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic Nervous System)
การทำสมาธิช่วยในการกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติก
ซึ่งมีหน้าที่ช่วยให้ ร่างกายผ่อนคลายและเตรียมพร้อมสำหรับการนอนหลับ
เมื่อระบบประสาทนี้ถูกกระตุ้น ร่างกายจะปล่อยสารเคมีที่ช่วยให้รู้สึกสงบ
เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) และเมลาโทนิน (Melatonin)
ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการนอนหลับ
นอกจากการปรับสมดุลของระบบประสาทแล้ว การทำสมาธิยังช่วยลดระดับฮอร์โมน
ความเครียด เช่น คอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งมักจะเพิ่มขึ้นในสภาวะเครียด การลด
ระดับคอร์ติซอลช่วยให้ร่างกายและจิตใจเข้าสู่ภาวะที่พร้อมสำหรับการพักผ่อน
การทำสมาธิยังช่วยในการควบคุมความคิดและอารมณ์ ซึ่งมักจะเป็นสาเหตุที่ทำให้
หลายคนไม่สามารถนอนหลับได้ง่าย เมื่อฝึกสมาธิอย่างสม่ำเสมอ เราจะสามารถเรียนรู้
วิธีการรับมือกับความคิดและความรู้สึกที่รบกวนจิตใจได้ดีขึ้น ทำให้สามารถนอนหลับ
ได้ลึกและยาวนานขึ้น
การทำสมาธิยังช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับในทางกายภาพ เช่น การหายใจช้า
และลึก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำสมาธิ ช่วยในการเพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือด
และลดอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะที่ผ่อนคลายและพร้อมสำหรับ
การนอนหลับ การฝึกสมาธิยังสามารถช่วยลดอาการของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
(Sleep Apnea) ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนที่มีปัญหาการนอนหลับ
การทำสมาธิช่วยสร้างสภาพจิตใจที่พร้อมรับการนอนหลับ การฝึกสมาธิในช่วงเย็น
หรือก่อนนอนช่วยในการสร้างนิสัยการนอนหลับที่ดี เนื่องจากการทำสมาธิเป็นการ
สร้างกิจวัตรที่สม่ำเสมอ ซึ่งช่วยให้สมองรับรู้ว่าใกล้ถึงเวลาที่ต้องนอนหลับแล้ว
#siamstr