tangnibbana on Nostr: #ปัจจยาการแม้เพียงอาการเดียว ...
#ปัจจยาการแม้เพียงอาการเดียว ก็ยังตรัสเรียกว่า #ปฏิจจสมุปบาท (อิทิปปัจจยตา)
(๑) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #ชาติ เป็นปัจจัย ชรามรณะย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, จะไม่บังเกิดขึ้นก็ตาม, ธรรมธาตุนั้น ย่อมตั้งอยู่แล้วนั่นเทียว; คือความตั้งอยู่แห่งธรรมดา(ธัมมัฏฐิตตา), คือความเป็นกฎตายตัวแห่งธรรมดา (ธัมมนิยามตา), คือความที่ เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น (อิทัปปัจจยตา).
.
ตถาคตย่อมรู้พร้อมเฉพาะ ย่อมถึงพร้อมเฉพาะ ซึ่งธรรมธาตุนั้น; ครั้นรู้ พร้อมเฉพาะแล้ว ถึงพร้อมเฉพาะแล้ว, ย่อมบอก ย่อมแสดง ย่อมบัญญัติ ย่อมตั้งขึ้นไว้ ย่อมเปิดเผย ย่อมจำแนกแจกแจง ย่อมทำให้เป็นเหมือนการหงายของที่คว่ำ และ ได้กล่าวแล้วในบัดนี้ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงมาดู : เพราะชาติ เป็นปัจจัย ชรามรณะย่อมมี” ดังนี้.
.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุดังนี้แล : ธรรมธาตุใด ในกรณีนั้น อันเป็น #ตถตา คือ #ความเป็นอย่างนั้น , เป็น อวิตถตา คือความไม่ผิดไปจาก ความเป็นอย่างนั้น, เป็น อนัญญถตา คือความไม่เป็นไปโดยประการอื่น, เป็น อิทัปปัจจยตา คือความที่เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น;
.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ธรรมนี้ เราเรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท (คือธรรมอัน เป็นธรรมชาติ อาศัยกันแล้วเกิดขึ้น)
.
.
(๒) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #ภพ เป็นปัจจัย ชาติย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม,...ฯลฯ… …ฯลฯ …
(๓) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #อุปาทาน เป็นปัจจัย ภพย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม,..ฯลฯ… …..ฯลฯ …..
(๔) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #ตัณหา เป็นปัจจัย อุปาทานชาติย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, ...ฯลฯ… …ฯลฯ …
(๕) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #เวทนา เป็นปัจจัย ตัณหาย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, ...ฯลฯ... …ฯลฯ …
(๖) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ ผัสสะ เป็นปัจจัย เวทนาย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, ...ฯลฯ… …ฯลฯ …
(๗) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #สฬายตนะ เป็นปัจจัย ผัสสะย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, ...ฯลฯ… …ฯลฯ …
(๘) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #นามรูป เป็นปัจจัย สฬายตนะย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, ...ฯลฯ… …ฯลฯ …
(๙) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #วิญญาณ เป็นปัจจัย นามรูปย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, ...ฯลฯ... ....ฯลฯ …
(๑๐) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #สังขาร เป็นปัจจัย วิญญาณย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, ...ฯลฯ… …ฯลฯ …
.
.
(๑๑) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! #เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย #สังขารทั้งหลาย ย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, จะไม่บังเกิดขึ้นก็ตาม, ธรรมธาตุนั้น ย่อมตั้งอยู่แล้วนั่นเทียว; คือความตั้งอยู่ แห่งธรรมดา (ธัมมัฏฐิตตา), คือความเป็นกฎตายตัวแห่งธรรมดา (ธัมมนิยามตา), คือความที่เมื่อสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น (อิทัปปัจจยตา).
.
ตถาคตย่อมรู้พร้อมเฉพาะ ย่อมถึงพร้อมเฉพาะ ซึ่งธรรมธาตุนั้น; ครั้นรู้ พร้อมเฉพาะแล้ว ถึงพร้อมเฉพาะแล้ว, ย่อมบอก ย่อมแสดง ย่อมบัญญัติ ย่อมตั้งขึ้นไว้ ย่อมเปิดเผย ย่อมจำแนกแจกแจง ย่อมทำให้เป็นเหมือนการหงาย ของที่คว่ำและได้กล่าวแล้วในบัดนี้ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงดู: เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารทั้งหลายย่อมมี” ดังนี้.
.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุดังนี้แล : ธรรมธาตุใดในกรณีนั้น อันเป็น ตถตา คือความเป็นอย่างนั้น, เป็น อวิตถตา คือ ความไม่ผิดไปจากความเป็น อย่างนั้น, เป็น อนัญญถตา คือ ความไม่เป็นไปโดยประการอื่น, เป็น อิทัปปัจจยตา คือความที่เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น;
.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ธรรมนี้ เราเรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท (คือธรรมอัน เป็นธรรมชาติ อาศัยกันแล้วเกิดขึ้น).
.
-- 📙ชุดจากพระโอษฐ์ ๕ เล่ม เล่มที่ ๔ ปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ หน้าที่ ๓๔
-- ลิ้งค์อ้างอิงพระสูตร https://etipitaka.com/read/thaibt/4/34/
-- 📙พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๑๖ สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค หน้าที่ ๒๒
-- https://etipitaka.com/read/thai/16/22/
--------------------------
#อิทิปปัจจยตา #พุทธวจน #ทางนิพพาน #ธรรมะ #ທັມມະ #TangNibbana #BuddhaWajana #SiamStr
--------------------------
(๑) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #ชาติ เป็นปัจจัย ชรามรณะย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, จะไม่บังเกิดขึ้นก็ตาม, ธรรมธาตุนั้น ย่อมตั้งอยู่แล้วนั่นเทียว; คือความตั้งอยู่แห่งธรรมดา(ธัมมัฏฐิตตา), คือความเป็นกฎตายตัวแห่งธรรมดา (ธัมมนิยามตา), คือความที่ เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น (อิทัปปัจจยตา).
.
ตถาคตย่อมรู้พร้อมเฉพาะ ย่อมถึงพร้อมเฉพาะ ซึ่งธรรมธาตุนั้น; ครั้นรู้ พร้อมเฉพาะแล้ว ถึงพร้อมเฉพาะแล้ว, ย่อมบอก ย่อมแสดง ย่อมบัญญัติ ย่อมตั้งขึ้นไว้ ย่อมเปิดเผย ย่อมจำแนกแจกแจง ย่อมทำให้เป็นเหมือนการหงายของที่คว่ำ และ ได้กล่าวแล้วในบัดนี้ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงมาดู : เพราะชาติ เป็นปัจจัย ชรามรณะย่อมมี” ดังนี้.
.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุดังนี้แล : ธรรมธาตุใด ในกรณีนั้น อันเป็น #ตถตา คือ #ความเป็นอย่างนั้น , เป็น อวิตถตา คือความไม่ผิดไปจาก ความเป็นอย่างนั้น, เป็น อนัญญถตา คือความไม่เป็นไปโดยประการอื่น, เป็น อิทัปปัจจยตา คือความที่เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น;
.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ธรรมนี้ เราเรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท (คือธรรมอัน เป็นธรรมชาติ อาศัยกันแล้วเกิดขึ้น)
.
.
(๒) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #ภพ เป็นปัจจัย ชาติย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม,...ฯลฯ… …ฯลฯ …
(๓) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #อุปาทาน เป็นปัจจัย ภพย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม,..ฯลฯ… …..ฯลฯ …..
(๔) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #ตัณหา เป็นปัจจัย อุปาทานชาติย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, ...ฯลฯ… …ฯลฯ …
(๕) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #เวทนา เป็นปัจจัย ตัณหาย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, ...ฯลฯ... …ฯลฯ …
(๖) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ ผัสสะ เป็นปัจจัย เวทนาย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, ...ฯลฯ… …ฯลฯ …
(๗) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #สฬายตนะ เป็นปัจจัย ผัสสะย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, ...ฯลฯ… …ฯลฯ …
(๘) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #นามรูป เป็นปัจจัย สฬายตนะย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, ...ฯลฯ… …ฯลฯ …
(๙) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #วิญญาณ เป็นปัจจัย นามรูปย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, ...ฯลฯ... ....ฯลฯ …
(๑๐) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะ #สังขาร เป็นปัจจัย วิญญาณย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, ...ฯลฯ… …ฯลฯ …
.
.
(๑๑) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! #เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย #สังขารทั้งหลาย ย่อมมี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุที่พระตถาคตทั้งหลาย จะบังเกิดขึ้นก็ตาม, จะไม่บังเกิดขึ้นก็ตาม, ธรรมธาตุนั้น ย่อมตั้งอยู่แล้วนั่นเทียว; คือความตั้งอยู่ แห่งธรรมดา (ธัมมัฏฐิตตา), คือความเป็นกฎตายตัวแห่งธรรมดา (ธัมมนิยามตา), คือความที่เมื่อสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น (อิทัปปัจจยตา).
.
ตถาคตย่อมรู้พร้อมเฉพาะ ย่อมถึงพร้อมเฉพาะ ซึ่งธรรมธาตุนั้น; ครั้นรู้ พร้อมเฉพาะแล้ว ถึงพร้อมเฉพาะแล้ว, ย่อมบอก ย่อมแสดง ย่อมบัญญัติ ย่อมตั้งขึ้นไว้ ย่อมเปิดเผย ย่อมจำแนกแจกแจง ย่อมทำให้เป็นเหมือนการหงาย ของที่คว่ำและได้กล่าวแล้วในบัดนี้ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงดู: เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารทั้งหลายย่อมมี” ดังนี้.
.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุดังนี้แล : ธรรมธาตุใดในกรณีนั้น อันเป็น ตถตา คือความเป็นอย่างนั้น, เป็น อวิตถตา คือ ความไม่ผิดไปจากความเป็น อย่างนั้น, เป็น อนัญญถตา คือ ความไม่เป็นไปโดยประการอื่น, เป็น อิทัปปัจจยตา คือความที่เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น;
.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ธรรมนี้ เราเรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท (คือธรรมอัน เป็นธรรมชาติ อาศัยกันแล้วเกิดขึ้น).
.
-- 📙ชุดจากพระโอษฐ์ ๕ เล่ม เล่มที่ ๔ ปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ หน้าที่ ๓๔
-- ลิ้งค์อ้างอิงพระสูตร https://etipitaka.com/read/thaibt/4/34/
-- 📙พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๑๖ สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค หน้าที่ ๒๒
-- https://etipitaka.com/read/thai/16/22/
--------------------------
#อิทิปปัจจยตา #พุทธวจน #ทางนิพพาน #ธรรมะ #ທັມມະ #TangNibbana #BuddhaWajana #SiamStr
--------------------------