saltymanth on Nostr: ผมมีเรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟัง ...
ผมมีเรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับการเป็น #VTuberTH ให้ชาว #siamstr ที่ทั้งเก็ตและไม่เก็ตให้อ่านเล่นครับ
เมื่อวานผมแอบกลับเข้าไปที่ X เพื่อโหลด Archive ล่าสุดอีกครั้ง เพราะกำลังอยู่ในจุดที่ตัดสินใจว่าจะลบแอคทิ้ง
ปรากฎว่าผมดันเหลือบไปเห็นโพสต์นึงในนั้นโดยบังเอิญ (เพราะมันขึ้นมาในหน้าแรก)
ขอไม่โควทมาตรง ๆ แต่เนื้อหาโพสต์นั้นประมาณว่าเขาอิจฉา VTuber ที่ได้เป็น VTuber จัง เพราะตัวเขานั้นอยากเป็นแต่ไม่สามารถเป็นได้เพราะไม่มีงบและขี้เกียจ ราว ๆ นี้
ก่อนอื่น...ผมก็ไม่ใช่คนขยันอะไรหรอกครับ ผมก็แค่คนที่ไม่ชอบให้ตัวเองว่าง และชอบทำงานอดิเรก(?)
ชีวิตของโซล (เผื่อคนที่ไม่เก็ต คำว่า Soul ในวงการนี้หมายถึงตัวคนที่อยู่หลังจอคอยพูดคอยนั่งไลฟ์นั่งทำคลิปนั่นแหละ) ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาทำ VTuber เหมือนกันครับ ผมเคยเล่าไว้ในไลฟ์เก่า ๆ นานแล้วว่ามาเป็นเพราะ "บังเอิญ" ล้วน ๆ จากวันนั้นที่เผลอไปโหลดแอปตัวหนึ่งเพราะเข้าใจว่าเป็นแอปทำ 3D Avatar เล่น ๆ แต่มันก็เปลี่ยนชีวิตให้มานั่งไลฟ์เป็น VTuber ในสไตล์ตัวเองแบบนี้นี่แหละ
ง่าย ๆ ก็คือชีวิตนี้ไม่มีเคยมีความฝันว่าจะเป็น VTuber หรือทำอะไรเกี่ยวกับคอนเทนต์วิดีโอด้วยซ้ำ ความฝันของโซลเป็นเรื่องอื่น
แล้วทำไม Saltyman ถึงมีตัวตนอยู่ในมุมเล็ก ๆ ของโลก VTuber แล้วมานั่งพิมพ์ #Nostr อยู่นี่ล่ะ ?
ถ้าเราไม่นับเรื่องที่เผลอไปโหลดแอปดังกล่าวมาเล่นแล้วติดใจ มันก็เกิดจากสาเหตุหลายข้อเหมือนกัน
1) ช่วงนั้นว่างเพราะวิกฤต COVID-19
ผมเริ่มปั้นตัวตนขึ้นมาช่วงปลายปี 2021 ในโซเชียลมีเดียตัวหนึ่งที่ตายไปแล้ว ชื่อว่า Twitter (ยอมรับเถอะครับ นกฟ้าตายไปแล้ว ที่เหลืออยู่มันคือซอมบี้ที่สมมุติว่าชื่อ X ซึ่งเป็น Centralized Social Media Platform ที่เฮงซวยที่สุดในโลก และผมจะด่ามันต่อไป) ปั้นจากที่ช่วงนั้นไม่มีเงิน มีแค่มือถือเครื่องเก่าหนึ่งเครื่อง กับ Condenser Mic ราคาห้าร้อยกว่าบาทที่ไม่มี Phantom Power 48W ด้วยซ้ำ ผมเริ่มมาจากแค่นี้เลย และไม่ต้องสืบว่าช่วงนั้นไม่มีรายได้อะไรทั้งนั้น ร้านรวงผิดหมด งานก็ไม่มี กิจการญาติพี่น้องไม่ต้องพูดถึง
ช่องนี้จึงเกิดมาจากการเปิดแอคทวิตโง่ ๆ หนึ่งแอค แล้วใช้ฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Space จัดไลฟ์คุยเสียงแบบสด ๆ เป็นระยะ และแนวทางก็เป็นหัวข้อแนว ๆ Hard Talk เสมอมาไม่เคยเปลี่ยนจนถึงทุกวันนี้
2) ความล้มเหลวจากความฝันของตัวโซล
โซลมีความฝันที่อยากจะทำหนังสือครับ เขียนหนังสือ เขียนบทความ เขียนนิยาย วาดภาพประกอบ ฯลฯ และมันเป็นการฝันที่จริงจังมาก จริงจังถึงขนาดที่ว่ามีเวิร์คช็อบเกี่ยวกับการเขียนวาดก็ไปหมด ทั้งเวิร์คช็อบฟรีครึ่งวัน เสวนานักเขียน เข้า Boot Camp แบบสองวันเพื่อฝึกการเขียนและร่างโปรเจกต์ทำพล็อตเรื่อง คอร์สไม่ฟรีก็เรียน บ้านไกลแค่ไหนก็ไป (ถ้าเงินมีจ่าย)
แต่โซลมาเจอความจริงอันโหดร้ายสามสี่อย่างที่ทำให้ฝันนี้ไม่ประสบความสำเร็จ
- ตัวเองคิดตื้นเกินไป ไม่มีความรู้เรื่องการเงินปละบริหารจัดการที่ดี ทำให้ไม่มีทุนสะสมและกำลังคนพอจะสานความฝัน
- ตัวเองไม่มีความสามารถมากพอที่จะวาดรูปให้เร็วได้ (เขียนน่ะเร็ว...แต่วาดภาพเดียวใช้เวลา 3 วัน - 2 เดือน ซึ่งผิดวิสัยจากนักวาดคนอื่นมาก และผมก็มีปัญหานี้จนถึงวันนี้)
- ไปทำสัญญากับแพลต์ฟอร์มนิยายเจ้าหนึ่ง (ขอไม่เอ่ยชื่อ) ที่สัญญาว่าจะสนับสนุนผลักดันโปรโมตงานเขียนให้ แต่กลับกลายเป็นว่าโดนยุบโครงการแล้วลอยแพในเวลาไม่ถึงเดือน และได้รับการโปรโมต "1 ครั้งถ้วน" สุดท้ายก็โดนตัดหางปล่อยวัดแล้วต้องดันงานคนเดียว
- งบทำหนังสือแบบ On Demand สูงจนแบกรับไม่ไหว ต้นทุนต่อเล่นมันแพงเกินไปที่จะทำเองคนเดียวแล้วหมุนทัน
จากที่เล่ามานี้เป็นความผิดพลาดของตัวเองซะเยอะ แต่นั่นแหละครับ...ผลสุดท้ายความฝันนี้ก็ต้องล้มเหลวไปตามระเบียบ
พอหลังจากเข้าสู่ช่วง COVID-19 แล้วได้สนใจแนวทางการทำ VTuber จึงตั้งหลักใหม่แล้วสัญญากับตัวเองว่าจะทำสิ่งนี้ไปจนกว่าจะตายไปข้างหนึ่ง เรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตของตัวเอง จะไม่ทำอะไรเกินตัวและไม่เป็นตัวของตัวเองแบบสมัยทำหนังสืออีกแล้ว บทเรียนมันราคาแพงมากจริง ๆ
3) อาศัยจังหวะนี้เรียนรู้ทักษะและโปรแกรมใหม่ ๆ
จากช่วงที่โซลทำหนังสือเองนั้นก็มีทักษะในการเขียนและวาดภาพในระดับหนึ่ง ซึ่งใคร ๆ ก็ทำกันได้โดยเฉพาะโลกของวงการ Pop Culture ที่มีนักวาดเก่ง ๆ นักเขียนเจ๋ง ๆ เพียบ ผนวกกับเทคโนโลยีการขยับภาพนิ่งที่เรียกว่า Live2D ที่โซลผมเคยเห็นครั้งแรกสมัยเรียนมหาวิทยาลัยมันก็ก้าวไปไกลมากจนสามารถสร้างงาน Live2D ที่ขยับได้เนียนขึ้นลื่นไหลขึ้น
การผันตัวมาทำ VTuber ของผมจึงต้องเรียนรู้อะไรหลายอย่างซึ่งเป็นของใหม่ที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
ทั้งการวางระบบไลฟ์ของ OBS Studio การหัดทำ Live2D Rigging ด้วยโปรแกรม (เคสนี้คือ Live2D Cubism ที่มีตัวฟรีให้ลอง) การหัดใช้โปรแกรมวาดรูปใหม่ ๆ อย่าง ibisPaint และ GIMP รวมถึงแพลตฟอร์ม Canva (ซึ่งตอนนี้ไม่ได้ใช้อันหลังแล้ว) ภายหลังก็จะได้เรียนรู้การใช้งานโปรแกรม InkScape ที่ใช้แทน Adobe Illustrator (ซึ่งซื้อไว้นานแล้วจนมันตกรุ่น) การหัดใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโออย่าง DaVinci Resolve และในภายหลังก็จะได้หัดใช้ Kdenlive ไหนจะความรู้เพิ่มเติมที่ได้มาในภายหลังอีกมากมาย และทุกวันนี้ก็ยังเรียนรู้เพิ่มเติมอยู่เรื่อย ๆ
ตั้งแต่เป็น VTuber คือได้เรียนรู้หลายอย่างไม่สิ้นสุด และสนุกกับสิ่งนี้มาก ๆ เลยด้วย
4) ผมมองเห็นอนาคตของการทำสิ่งนี้ (ในแบบของผมเอง)
ถ้าว่ากันตามตรงจากการสังเกตวงการนี้มาตลอด การทำ VTuber มันเป็นอะไรที่โคตรจะ Fiat ในบางมิติ
แม้หลักใหญ่ใจความของมันคือการไลฟ์/ทำคลิปอะไรสักอย่างเพื่อสนองความต้องการของคนดูและรับการสนับสนุนจากพวกเขา แต่เราจะเห็นหลายครั้งที่เกิดเหตุการณ์ที่ตัว VTuber ทำทุกวิถีทางเพื่อปั่น Demographic และปั๊มยอดโดเนทจากคนดูเพื่อหวังเอาชื่อเสียงและรวยแบบรวดเร็วจากการมีวาฬมาโดเนทตูมเดียวหลายตังค์กับรับสปอนเซอร์เจ้าดัง (ซึ่งความเป็นจริงคนที่ทำแบบนั้นแล้วไปรอดมันมีน้อยมาก และไม่ได้ผิดอะไรหรอก เรื่องของเขา ผมไม่ตัดสินอะไรด้วย)
แต่ผมมาทำ VTuber ด้วยเหตุผลที่ต่างออกไปนิดหน่อย...
ผมรู้สึกว่านิยามของ VTuber โดยหลัก ๆ ก็คือการสวมร่าง Avatar เพื่อทำคอนเทนต์วิดีโอ/ไลฟ์ นั่นหมายความว่าเราสามารถทำอะไรก็ได้ที่อยากทำภายใต้รูปลักษณ์สมมุตินี้ ซึ่งมันสามารถดึงสกิลที่ผมมีออกมาใช้ได้ในทุกด้านที่กล่าวมาข้างต้น...และมันก็สะท้อนว่าเราตั้งใจทำมันตั้งแต่ 0 ด้วยตัวเองอย่างแท้จริง หากมีคนมาเห็นข่องนี้แล้วได้ศึกษาดูใจ(?)ก็จะรู้ว่าผมทำช่องนี้ด้วยความตั้งใจทุกกระเบียดนิ้วแค่ไหน
และที่สำคัญ ด้วยอัตลักษณ์นี้ทำให้ผมมีความกล้าที่จะนำเสนอคอนเทนต์ในแบบของผมมากขึ้น เปิดเผยมุมมองและตัวตนได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ผมจึงสามารถนั่งพูดคุยได้หลายชั่วโมงในหัวข้อ Hard Talk (และบางอย่างก็เป็น Unpopular Opinion) ทั้งประเด็นทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจ ปรัชญา จิตวิทยา ฯลฯ ที่ผมกำลังสนใจหรือเพิ่งได้เรียนรู้มาในจังหวะนั้น ๆ มีหัวข้อเกาะกระแสบ้างประปรายตามจังหวะและโอกาสเพื่อเอาสนุก
ทั้งหมดนี้มันไม่ใช่เพื่อระบายอารมณ์หรือแสดงอีโห้คับฟ้าของตัวเอง แต่ผมเลือกที่จะหยิบมาพูดและพยายามสื่อ Message ให้กับคนที่ดูด้วยว่าผมเรียนรู้อะไรจากมัน ผมเติบโตขึ้นจากเรื่องเหล่านี้อย่างไร และมันคงจะดีกว่าถ้าเราได้แบ่งปันให้คนที่ดูเราอยู่ได้เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน มันคือการสร้างประโยชน์ทางความคิดให้ทั้งกับตัวเองและคุณผู้ดูทั้งสองฝ่าย ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้คือ Value4Value ในความคิดของคนอื่นหรือเปล่า ? แต่ผมก็ทำเพื่อให้ความรู้และไอเดียกับคนอื่นในแบบที่ผมจะทำได้ ส่วนเรื่องของรายได้หรือการสนับสนุนจากคุณผู้ดูนั้นก็เป็นเรื่องที่ผมปล่อยให้พวกคุณตัดสินใจ ถ้าคุณคิดว่าสิ่งที่ผมทำมันมีค่าก็สนับสนุนกันได้ ถ้ารู้สึกว่ามีคุณค่าแต่ไม่มีอะไรสนับสนุนก็แวะมาพูดคุยกันได้ แต่ถ้าคิดว่ามันไม่มีคุณค่าอะไรก็ปล่อยผ่ายไปตามกลไกตลาด
และด้วยสิ่งนี้แหละผมจึงเห็นว่าการทำ VTuber ของผมมันสามารถทำได้ในระยะยาวและสรมารถสร้างคุณค่า (ในแบบของผม) ให้สังคมได้ เรื่องชื่อเสียงหรือกระแสตอบรับจะเป็นอย่างไรก็อีกเรื่อง แต่ผมอนาคตของช่องนี้และอยากทำอะไรให้สังคมผ่านช่องนี้ต่อไป...ถ้าไม่หมดตูดกับการทำช่องไปซะก่อนน่ะนะ
5) อยากให้คนจดจำผลงานของตัวเอง
ไม่ว่าจะคอนเทนต์ที่ทำ นามปากกา Saltyman ที่มาจากความบังเอิญ หรือ Goods ที่จะทยอยออกมาทั้งในอดีตและอนาคต
สำหรับผมมันไม่ใช่แค่การทำสินค่าที่ระลึกใน IP ของ Saltyman เฉย ๆ แต่มันคือการให้มันกลายเป็นไอเทมสะสมในอนาคตที่แม้จะมไ่ได้มีค่าพอที่จะเป็นที่นิยมในวงกว้างหรือราคาดีดพอจะเก็งกำไร แต่ชองเหล่านี้ก็ทำหน้าที่ในการเป็น Footprint ทิ้งเอาไว้ให้โลกนี้ว่าช่วงชีวิตหนึ่งของโลกเคยมี VTuber ที่ใช้นามปากกาว่า Saltyman บนโลกนะเว้ย ทำคอนเทนต์พูดมากรากแตกแบบ Hard Talk นะเว้ย มันทำอะไรหลายอย่างด้วยตัวเอง (จนกลายเป็นมีมประจำช่อง) นะเว้ย ฯลฯ
นอกจาก Goods จะเอาไว้ขายได้ถ้ามีคนสนใจ มันยังเป็นสิ่งที่ตัวผมก็สะสมไว้เองและเก็บมันอย่างดีไม่ต่างจากของสะสมอื่น เพราะมันมีคุณค่าทางจิตใจต่อตัวผมเองมาก แถมวันที่เราจากไปแล้วก็ยังกลายเป็นหนึ่งในหลักฐานของโลกใบนี้ว่าเคยมีตัวตนนี้อยู่...ถ้ามันไม่แหลกเป็นผงไปซะก่อนตามกาลเวลาเพราะเก็บรักษาไว้ไม่ดีน่ะนะ
อ้อ ! ผมเก็บ Goods ของเพื่อน VTuber บางคนที่มีโอกาสได้อุดหนุนไว้เพื่อการนี้ด้วยนะ ให้พวกเขาเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ผมจะเก็บรักาาไปด้วยกันในฐานะคนที่รู้จักและเป็นเพื่อนร่วมวงการนั่นแหละ
ผมก็ไม่รู้หรอกว่าความหมายในการเป็น VTuber ของคนอื่นเป็นอย่างไร แต่ของผมคือแบบนี้ และคิดว่าน่าจะมีหลายอย่างต่างจากคนอื่น
ช่อง Saltyman Ch. มันจึงเป็นมากกว่าการทำตามกระแสเพื่อหาเงินในอุตสาหกรรม VTuber ที่ผุดขึ้นเยอะเป็นดอกเห็ดมาตั้งแต่ปี 2020 มันเป็นผลงานที่ผมทุ่มเทที่สุด ตั้งใจที่สุด และให้ความหมายในการดำรงชีวิตกับผมแบบสุด ๆ และทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดจากความฝันที่อยากเป็นด้วยซ้ำ
และ Note นี้บน Nostr คือหลักฐานที่อยากบอกให้รู้ว่า... ถ้าคุณอยากเป็น VTuber หรือเป็น Content Creator สายอื่นน่ะ... คุณเป็นได้เสมอแหละถ้าคุณจริงจังและศึกษาหาความรู้ให้เพียงพอต่อการทำมัน...ส่วนจะไปรอดมั้ย ? ก็ให้ตลอดเสรีของโลกนี้ตัดสินกันไป
แต่ถ้าคุณไม่ได้ทำเพียงเพื่อแค่หาเงินไปวัน ๆ แต่มีจุดประสงค์อื่นอย่างผม... การมีช่องทางและตัวตนของคุณอยู่ให้คนอื่นได้เห็นก็คือหนึ่งใน Small Win แล้วครับ
ปล. ไม่ตรวจคำผิดนะ ยาวจัด พอดีว่าโพสต์เสร็จแล้วต้องไปทำอย่างอื่นด้วย 5555555555555
เมื่อวานผมแอบกลับเข้าไปที่ X เพื่อโหลด Archive ล่าสุดอีกครั้ง เพราะกำลังอยู่ในจุดที่ตัดสินใจว่าจะลบแอคทิ้ง
ปรากฎว่าผมดันเหลือบไปเห็นโพสต์นึงในนั้นโดยบังเอิญ (เพราะมันขึ้นมาในหน้าแรก)
ขอไม่โควทมาตรง ๆ แต่เนื้อหาโพสต์นั้นประมาณว่าเขาอิจฉา VTuber ที่ได้เป็น VTuber จัง เพราะตัวเขานั้นอยากเป็นแต่ไม่สามารถเป็นได้เพราะไม่มีงบและขี้เกียจ ราว ๆ นี้
ก่อนอื่น...ผมก็ไม่ใช่คนขยันอะไรหรอกครับ ผมก็แค่คนที่ไม่ชอบให้ตัวเองว่าง และชอบทำงานอดิเรก(?)
ชีวิตของโซล (เผื่อคนที่ไม่เก็ต คำว่า Soul ในวงการนี้หมายถึงตัวคนที่อยู่หลังจอคอยพูดคอยนั่งไลฟ์นั่งทำคลิปนั่นแหละ) ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาทำ VTuber เหมือนกันครับ ผมเคยเล่าไว้ในไลฟ์เก่า ๆ นานแล้วว่ามาเป็นเพราะ "บังเอิญ" ล้วน ๆ จากวันนั้นที่เผลอไปโหลดแอปตัวหนึ่งเพราะเข้าใจว่าเป็นแอปทำ 3D Avatar เล่น ๆ แต่มันก็เปลี่ยนชีวิตให้มานั่งไลฟ์เป็น VTuber ในสไตล์ตัวเองแบบนี้นี่แหละ
ง่าย ๆ ก็คือชีวิตนี้ไม่มีเคยมีความฝันว่าจะเป็น VTuber หรือทำอะไรเกี่ยวกับคอนเทนต์วิดีโอด้วยซ้ำ ความฝันของโซลเป็นเรื่องอื่น
แล้วทำไม Saltyman ถึงมีตัวตนอยู่ในมุมเล็ก ๆ ของโลก VTuber แล้วมานั่งพิมพ์ #Nostr อยู่นี่ล่ะ ?
ถ้าเราไม่นับเรื่องที่เผลอไปโหลดแอปดังกล่าวมาเล่นแล้วติดใจ มันก็เกิดจากสาเหตุหลายข้อเหมือนกัน
1) ช่วงนั้นว่างเพราะวิกฤต COVID-19
ผมเริ่มปั้นตัวตนขึ้นมาช่วงปลายปี 2021 ในโซเชียลมีเดียตัวหนึ่งที่ตายไปแล้ว ชื่อว่า Twitter (ยอมรับเถอะครับ นกฟ้าตายไปแล้ว ที่เหลืออยู่มันคือซอมบี้ที่สมมุติว่าชื่อ X ซึ่งเป็น Centralized Social Media Platform ที่เฮงซวยที่สุดในโลก และผมจะด่ามันต่อไป) ปั้นจากที่ช่วงนั้นไม่มีเงิน มีแค่มือถือเครื่องเก่าหนึ่งเครื่อง กับ Condenser Mic ราคาห้าร้อยกว่าบาทที่ไม่มี Phantom Power 48W ด้วยซ้ำ ผมเริ่มมาจากแค่นี้เลย และไม่ต้องสืบว่าช่วงนั้นไม่มีรายได้อะไรทั้งนั้น ร้านรวงผิดหมด งานก็ไม่มี กิจการญาติพี่น้องไม่ต้องพูดถึง
ช่องนี้จึงเกิดมาจากการเปิดแอคทวิตโง่ ๆ หนึ่งแอค แล้วใช้ฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Space จัดไลฟ์คุยเสียงแบบสด ๆ เป็นระยะ และแนวทางก็เป็นหัวข้อแนว ๆ Hard Talk เสมอมาไม่เคยเปลี่ยนจนถึงทุกวันนี้
2) ความล้มเหลวจากความฝันของตัวโซล
โซลมีความฝันที่อยากจะทำหนังสือครับ เขียนหนังสือ เขียนบทความ เขียนนิยาย วาดภาพประกอบ ฯลฯ และมันเป็นการฝันที่จริงจังมาก จริงจังถึงขนาดที่ว่ามีเวิร์คช็อบเกี่ยวกับการเขียนวาดก็ไปหมด ทั้งเวิร์คช็อบฟรีครึ่งวัน เสวนานักเขียน เข้า Boot Camp แบบสองวันเพื่อฝึกการเขียนและร่างโปรเจกต์ทำพล็อตเรื่อง คอร์สไม่ฟรีก็เรียน บ้านไกลแค่ไหนก็ไป (ถ้าเงินมีจ่าย)
แต่โซลมาเจอความจริงอันโหดร้ายสามสี่อย่างที่ทำให้ฝันนี้ไม่ประสบความสำเร็จ
- ตัวเองคิดตื้นเกินไป ไม่มีความรู้เรื่องการเงินปละบริหารจัดการที่ดี ทำให้ไม่มีทุนสะสมและกำลังคนพอจะสานความฝัน
- ตัวเองไม่มีความสามารถมากพอที่จะวาดรูปให้เร็วได้ (เขียนน่ะเร็ว...แต่วาดภาพเดียวใช้เวลา 3 วัน - 2 เดือน ซึ่งผิดวิสัยจากนักวาดคนอื่นมาก และผมก็มีปัญหานี้จนถึงวันนี้)
- ไปทำสัญญากับแพลต์ฟอร์มนิยายเจ้าหนึ่ง (ขอไม่เอ่ยชื่อ) ที่สัญญาว่าจะสนับสนุนผลักดันโปรโมตงานเขียนให้ แต่กลับกลายเป็นว่าโดนยุบโครงการแล้วลอยแพในเวลาไม่ถึงเดือน และได้รับการโปรโมต "1 ครั้งถ้วน" สุดท้ายก็โดนตัดหางปล่อยวัดแล้วต้องดันงานคนเดียว
- งบทำหนังสือแบบ On Demand สูงจนแบกรับไม่ไหว ต้นทุนต่อเล่นมันแพงเกินไปที่จะทำเองคนเดียวแล้วหมุนทัน
จากที่เล่ามานี้เป็นความผิดพลาดของตัวเองซะเยอะ แต่นั่นแหละครับ...ผลสุดท้ายความฝันนี้ก็ต้องล้มเหลวไปตามระเบียบ
พอหลังจากเข้าสู่ช่วง COVID-19 แล้วได้สนใจแนวทางการทำ VTuber จึงตั้งหลักใหม่แล้วสัญญากับตัวเองว่าจะทำสิ่งนี้ไปจนกว่าจะตายไปข้างหนึ่ง เรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตของตัวเอง จะไม่ทำอะไรเกินตัวและไม่เป็นตัวของตัวเองแบบสมัยทำหนังสืออีกแล้ว บทเรียนมันราคาแพงมากจริง ๆ
3) อาศัยจังหวะนี้เรียนรู้ทักษะและโปรแกรมใหม่ ๆ
จากช่วงที่โซลทำหนังสือเองนั้นก็มีทักษะในการเขียนและวาดภาพในระดับหนึ่ง ซึ่งใคร ๆ ก็ทำกันได้โดยเฉพาะโลกของวงการ Pop Culture ที่มีนักวาดเก่ง ๆ นักเขียนเจ๋ง ๆ เพียบ ผนวกกับเทคโนโลยีการขยับภาพนิ่งที่เรียกว่า Live2D ที่โซลผมเคยเห็นครั้งแรกสมัยเรียนมหาวิทยาลัยมันก็ก้าวไปไกลมากจนสามารถสร้างงาน Live2D ที่ขยับได้เนียนขึ้นลื่นไหลขึ้น
การผันตัวมาทำ VTuber ของผมจึงต้องเรียนรู้อะไรหลายอย่างซึ่งเป็นของใหม่ที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
ทั้งการวางระบบไลฟ์ของ OBS Studio การหัดทำ Live2D Rigging ด้วยโปรแกรม (เคสนี้คือ Live2D Cubism ที่มีตัวฟรีให้ลอง) การหัดใช้โปรแกรมวาดรูปใหม่ ๆ อย่าง ibisPaint และ GIMP รวมถึงแพลตฟอร์ม Canva (ซึ่งตอนนี้ไม่ได้ใช้อันหลังแล้ว) ภายหลังก็จะได้เรียนรู้การใช้งานโปรแกรม InkScape ที่ใช้แทน Adobe Illustrator (ซึ่งซื้อไว้นานแล้วจนมันตกรุ่น) การหัดใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโออย่าง DaVinci Resolve และในภายหลังก็จะได้หัดใช้ Kdenlive ไหนจะความรู้เพิ่มเติมที่ได้มาในภายหลังอีกมากมาย และทุกวันนี้ก็ยังเรียนรู้เพิ่มเติมอยู่เรื่อย ๆ
ตั้งแต่เป็น VTuber คือได้เรียนรู้หลายอย่างไม่สิ้นสุด และสนุกกับสิ่งนี้มาก ๆ เลยด้วย
4) ผมมองเห็นอนาคตของการทำสิ่งนี้ (ในแบบของผมเอง)
ถ้าว่ากันตามตรงจากการสังเกตวงการนี้มาตลอด การทำ VTuber มันเป็นอะไรที่โคตรจะ Fiat ในบางมิติ
แม้หลักใหญ่ใจความของมันคือการไลฟ์/ทำคลิปอะไรสักอย่างเพื่อสนองความต้องการของคนดูและรับการสนับสนุนจากพวกเขา แต่เราจะเห็นหลายครั้งที่เกิดเหตุการณ์ที่ตัว VTuber ทำทุกวิถีทางเพื่อปั่น Demographic และปั๊มยอดโดเนทจากคนดูเพื่อหวังเอาชื่อเสียงและรวยแบบรวดเร็วจากการมีวาฬมาโดเนทตูมเดียวหลายตังค์กับรับสปอนเซอร์เจ้าดัง (ซึ่งความเป็นจริงคนที่ทำแบบนั้นแล้วไปรอดมันมีน้อยมาก และไม่ได้ผิดอะไรหรอก เรื่องของเขา ผมไม่ตัดสินอะไรด้วย)
แต่ผมมาทำ VTuber ด้วยเหตุผลที่ต่างออกไปนิดหน่อย...
ผมรู้สึกว่านิยามของ VTuber โดยหลัก ๆ ก็คือการสวมร่าง Avatar เพื่อทำคอนเทนต์วิดีโอ/ไลฟ์ นั่นหมายความว่าเราสามารถทำอะไรก็ได้ที่อยากทำภายใต้รูปลักษณ์สมมุตินี้ ซึ่งมันสามารถดึงสกิลที่ผมมีออกมาใช้ได้ในทุกด้านที่กล่าวมาข้างต้น...และมันก็สะท้อนว่าเราตั้งใจทำมันตั้งแต่ 0 ด้วยตัวเองอย่างแท้จริง หากมีคนมาเห็นข่องนี้แล้วได้ศึกษาดูใจ(?)ก็จะรู้ว่าผมทำช่องนี้ด้วยความตั้งใจทุกกระเบียดนิ้วแค่ไหน
และที่สำคัญ ด้วยอัตลักษณ์นี้ทำให้ผมมีความกล้าที่จะนำเสนอคอนเทนต์ในแบบของผมมากขึ้น เปิดเผยมุมมองและตัวตนได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ผมจึงสามารถนั่งพูดคุยได้หลายชั่วโมงในหัวข้อ Hard Talk (และบางอย่างก็เป็น Unpopular Opinion) ทั้งประเด็นทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจ ปรัชญา จิตวิทยา ฯลฯ ที่ผมกำลังสนใจหรือเพิ่งได้เรียนรู้มาในจังหวะนั้น ๆ มีหัวข้อเกาะกระแสบ้างประปรายตามจังหวะและโอกาสเพื่อเอาสนุก
ทั้งหมดนี้มันไม่ใช่เพื่อระบายอารมณ์หรือแสดงอีโห้คับฟ้าของตัวเอง แต่ผมเลือกที่จะหยิบมาพูดและพยายามสื่อ Message ให้กับคนที่ดูด้วยว่าผมเรียนรู้อะไรจากมัน ผมเติบโตขึ้นจากเรื่องเหล่านี้อย่างไร และมันคงจะดีกว่าถ้าเราได้แบ่งปันให้คนที่ดูเราอยู่ได้เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน มันคือการสร้างประโยชน์ทางความคิดให้ทั้งกับตัวเองและคุณผู้ดูทั้งสองฝ่าย ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้คือ Value4Value ในความคิดของคนอื่นหรือเปล่า ? แต่ผมก็ทำเพื่อให้ความรู้และไอเดียกับคนอื่นในแบบที่ผมจะทำได้ ส่วนเรื่องของรายได้หรือการสนับสนุนจากคุณผู้ดูนั้นก็เป็นเรื่องที่ผมปล่อยให้พวกคุณตัดสินใจ ถ้าคุณคิดว่าสิ่งที่ผมทำมันมีค่าก็สนับสนุนกันได้ ถ้ารู้สึกว่ามีคุณค่าแต่ไม่มีอะไรสนับสนุนก็แวะมาพูดคุยกันได้ แต่ถ้าคิดว่ามันไม่มีคุณค่าอะไรก็ปล่อยผ่ายไปตามกลไกตลาด
และด้วยสิ่งนี้แหละผมจึงเห็นว่าการทำ VTuber ของผมมันสามารถทำได้ในระยะยาวและสรมารถสร้างคุณค่า (ในแบบของผม) ให้สังคมได้ เรื่องชื่อเสียงหรือกระแสตอบรับจะเป็นอย่างไรก็อีกเรื่อง แต่ผมอนาคตของช่องนี้และอยากทำอะไรให้สังคมผ่านช่องนี้ต่อไป...ถ้าไม่หมดตูดกับการทำช่องไปซะก่อนน่ะนะ
5) อยากให้คนจดจำผลงานของตัวเอง
ไม่ว่าจะคอนเทนต์ที่ทำ นามปากกา Saltyman ที่มาจากความบังเอิญ หรือ Goods ที่จะทยอยออกมาทั้งในอดีตและอนาคต
สำหรับผมมันไม่ใช่แค่การทำสินค่าที่ระลึกใน IP ของ Saltyman เฉย ๆ แต่มันคือการให้มันกลายเป็นไอเทมสะสมในอนาคตที่แม้จะมไ่ได้มีค่าพอที่จะเป็นที่นิยมในวงกว้างหรือราคาดีดพอจะเก็งกำไร แต่ชองเหล่านี้ก็ทำหน้าที่ในการเป็น Footprint ทิ้งเอาไว้ให้โลกนี้ว่าช่วงชีวิตหนึ่งของโลกเคยมี VTuber ที่ใช้นามปากกาว่า Saltyman บนโลกนะเว้ย ทำคอนเทนต์พูดมากรากแตกแบบ Hard Talk นะเว้ย มันทำอะไรหลายอย่างด้วยตัวเอง (จนกลายเป็นมีมประจำช่อง) นะเว้ย ฯลฯ
นอกจาก Goods จะเอาไว้ขายได้ถ้ามีคนสนใจ มันยังเป็นสิ่งที่ตัวผมก็สะสมไว้เองและเก็บมันอย่างดีไม่ต่างจากของสะสมอื่น เพราะมันมีคุณค่าทางจิตใจต่อตัวผมเองมาก แถมวันที่เราจากไปแล้วก็ยังกลายเป็นหนึ่งในหลักฐานของโลกใบนี้ว่าเคยมีตัวตนนี้อยู่...ถ้ามันไม่แหลกเป็นผงไปซะก่อนตามกาลเวลาเพราะเก็บรักษาไว้ไม่ดีน่ะนะ
อ้อ ! ผมเก็บ Goods ของเพื่อน VTuber บางคนที่มีโอกาสได้อุดหนุนไว้เพื่อการนี้ด้วยนะ ให้พวกเขาเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ผมจะเก็บรักาาไปด้วยกันในฐานะคนที่รู้จักและเป็นเพื่อนร่วมวงการนั่นแหละ
ผมก็ไม่รู้หรอกว่าความหมายในการเป็น VTuber ของคนอื่นเป็นอย่างไร แต่ของผมคือแบบนี้ และคิดว่าน่าจะมีหลายอย่างต่างจากคนอื่น
ช่อง Saltyman Ch. มันจึงเป็นมากกว่าการทำตามกระแสเพื่อหาเงินในอุตสาหกรรม VTuber ที่ผุดขึ้นเยอะเป็นดอกเห็ดมาตั้งแต่ปี 2020 มันเป็นผลงานที่ผมทุ่มเทที่สุด ตั้งใจที่สุด และให้ความหมายในการดำรงชีวิตกับผมแบบสุด ๆ และทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดจากความฝันที่อยากเป็นด้วยซ้ำ
และ Note นี้บน Nostr คือหลักฐานที่อยากบอกให้รู้ว่า... ถ้าคุณอยากเป็น VTuber หรือเป็น Content Creator สายอื่นน่ะ... คุณเป็นได้เสมอแหละถ้าคุณจริงจังและศึกษาหาความรู้ให้เพียงพอต่อการทำมัน...ส่วนจะไปรอดมั้ย ? ก็ให้ตลอดเสรีของโลกนี้ตัดสินกันไป
แต่ถ้าคุณไม่ได้ทำเพียงเพื่อแค่หาเงินไปวัน ๆ แต่มีจุดประสงค์อื่นอย่างผม... การมีช่องทางและตัวตนของคุณอยู่ให้คนอื่นได้เห็นก็คือหนึ่งใน Small Win แล้วครับ
ปล. ไม่ตรวจคำผิดนะ ยาวจัด พอดีว่าโพสต์เสร็จแล้วต้องไปทำอย่างอื่นด้วย 5555555555555