What is Nostr?
Siam Nostr
npub1tr6…06fl
2024-07-19 05:01:35

Siam Nostr on Nostr: [BOT] 852843 สวัสดีตอนเที่ยง ...

[BOT] 852843
สวัสดีตอนเที่ยง น้องวัวได้รวบรวมโน๊ตที่ท่านอาจจะพลาดไป ลองไปชมกันเลย!


💰 เคล็ดลับนางฟ้า ยิ่งใช้ ยิ่งได้เยอะ

🪙 หลายคนมี Bitcoin แต่ไม่อยากใช้
เพราะมองว่ามันคือการเก็บออม อยากออมไว้อย่างเดียว เสียดายตอนใช้มัน
คำแนะนำของแอดจากประสบการณ์ของตัวเอง
แอดมองว่าการใช้ Bitcoin ตอนนี้เหมือนการใช้สิทธิพิเศษจากบัตรเครดิต ต่างกันตรงที่ Bitcoin จ่ายตอนนี้ แต่บัตรเครดิต จ่ายในอนาคต

💸 แล้วมันเหมือนกันยังไง?
ลองนึกภาพว่า หลังอาหารมื้อค่ำ คุณจะเลือกใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าอาหาร เมื่อมันให้ส่วนลดที่ดีที่สุด
กับ Bitcoin ก็เหมือนกัน ถ้าร้านค้าไหน รับ Bitcoin แล้วได้ราคาดีกว่าการใช้เงินเฟียต คุณก็ควรใช้มัน
ถ้าเรามองจากประโยชน์ที่ได้ทั้งฝั่งคนรับและคนให้แล้ว มันโคตรจะคุ้มค่าเลย

🤷 แล้วไม่เสียดายหรอ ถ้าราคามันขึ้น?
สิ่งที่คุณควรทำคือ เมื่อใช้แล้ว ให้ซื้อคืน และนั้นจะทำให้คุณได้รับ Bitcoin ในจำนวนที่มากขึ้นอีกด้วย

ยกตัวอย่างง่ายๆ แอดซื้อของราคา 100 บาท ร้านเสนอส่วนลดจ่ายด้วย Bitcoin ลด 10% เท่ากับแอดจะต้องจ่าย 3,860 sats
หลังจากนั้นแอดก็ไปซื้อคืนในราคาปัจจุบัน($64,200)
ด้วยเงิน 100 บาทที่แอดจะต้องจ่ายให้ร้านค้า
ทีนี้แอดก็จะได้กลับคืนมา 4,295 sats
แอดก็จะได้ sats เพิ่มมาอีก 436 sats อีซี่
พอเห็นภาพไหมว่าการใช้งานมันง่ายกว่าที่คิด และไม่ได้ซีเรียสอะไรขนาดนั้น

⚡️ แล้วถ้ามีคำถามต่อไปว่า
โห! แอด ใครจะไปรอ 10 นาที Confirm ใครจะไปจ่ายค่า Fee ไหว
ถึงเวลาที่คุณต้องคำถามรู้จัก Bitcoin Lightning แล้ว
เพราะถ้าหากเป็นการใช้ย่อย จ่ายเล็กๆน้อยๆ ในชีวิตประจำวัน Lightning เอาอยู่และแทบไม่มีค่า fee เลยสักกะ sats เดียว

🧡 ส่วนใครจะเลือกจัดการกับ Bitcoin ที่ตัวเองถืออย่างไร นั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล แอดไม่ได้บังคับให้ใครใช้ และนี่เป็นเพียงการบอกว่า
"ถ้าคุณมี คุณอยากใช้ ตอนนี้คุณยังใช้มันได้ ซื้อคืนได้ง่ายๆ ใช้แล้วได้กลับมามากขึ้นด้วย ไม่ต้องกลัวขนาดนั้น"

#siamstrupdate #Siamstr #Bitcoin #บิทคอยน์



🔥 🔥 จะเขียนยังไงก่อนลืมไปละ 🔥🔥
พอหลังจากเดินทางกลับจากโคราชตั้งแต่เที่ยงวันที่ 15 ก็ระยะเวลา 12 ชั่วโมงในการเดินทาง พอถึงบ้านสมองวูบดับทันทีเป็นการสลบไหลแบบไม่เคยมีมาก่อนและภาพตัดเช้านี้ก็ยังทำงานตามปกติ เหมือนตัวเองนิ่งขึ้น มองอะไรเปลี่ยนไป อะเครเดี๋ยวๆ จะลืมมึงเขียนก่อน = ="

ตอนแรกแค่คอมเมนต์เล่นๆ ว่าจะไปยังไม่ได้ตัดสินใจจะไปอย่างเป็นทางการ ตอนที่เปิดให้ลงทะเบียนไปก็ไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะกลายเป็นคนแรกที่ลงทะเบียนในแบบฟอร์มไปงาน #korat102 ชะงั้น (มึงต้องโทษตัวเองเว้ยที่รีบกรอกแบบฟอร์ม/ใจง่ายจังวะ) ไหนๆก็ลงทะเบียนแล้ว คงต้องไปแล้วละ เราจะไป sats ในงานนั้น และอีกเหตุผลหนึ่งก็ไปฉลองวันเกิดย้อนหลังตัวเองด้วย ช่วงนั้นก็ลุ้นๆว่าจะมีงานชนอะไรหรือไม่จนถึงวันที่เดินทางจริงๆ

เริ่มต้นจากการเดินทางเวลา 18.00 น. ของวันที่ 12 นั่งรถโดยสารเข้าหมอชิตและนั่งรถไฟต่อไปปากช่องโดยมีเสียงเพลงที่ชอบและสปอยอนิเมะนรกตลอดทางจนมาถึงปากช่อง เวลา 09.00 น. ของเช้าอีกวัน (ระยเวลา 15 ชั่วโมง ที่นั่งอยู่บนรถและรถไฟแมร่งทรมาณตูดชิบหาย/เจ็บก้นกบ/เมื่อยคอ ในใจนั่งคิดกูมาทำอะไรที่นี้ ชอบทรมาณตัวเองสินะ) แต่ระหว่างทางตอนนั่งรถไฟผมก็เห็นสิ่งก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงที่ขนานกับเส้นทางรถไฟเดิม (มันสูงจังเลยว้า) แต่ก็คิดว่าการเดินทางหลังจากการสร้างทางรถไฟเสร็จน่าจะเพิ่มความสะดวกให้คนได้เดินทางได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น

พอถึงสถานีแล้วก็นั่งอาบแดดแปบหนึ่ง คุณวิน Win Vee (npub1ckq…ce2q) ก็มารับไปยังร้านกาแฟที่ไปนัดหมายไว้ตอน 10 โมง เป็นเจ้าภาพที่ดีมากยิ้มแย้มแจ่มใส เราเดินทางมายังร้าน Ja-Kae Coffee Space เป็นสองคนแรก ช่วง 9.30 น. ก็นั่งคุยกันชักพักและก็ทยอยๆ เข้ามาในร้านกัน แต่ละคนก็สั่งกาแฟกัน แอบมีกิจกรรมแซวเล็กๆ ขำๆทายว่าใครไม่สั่งอเมริกาโน่ก็ออกจากสมาคมไป ก็ขำๆกัน คุยกันเพลินๆ จากนั้นผมก็ได้ทดลองเล่นเครื่องกระปุกออมสิน ของพี่ Eddie (npub142m…5fyh) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ใช้สำหรับภายในครอบครัวให้ลูกหลานหยอดแลกกับ SATS ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจการทำงานมัน (อ่อผมเข้าใจผิดนี่เอง) แปบหนึ่งก่อนเดินทางไปกินข้าวก็ได้พูดคุยกับ npub1evyyvw07frve02gdqxk5f3y66k8pw6tvu63enm0u3xadgtck2q4q0ld6wx (npub1evy…d6wx) เกี่ยวกับดอกไม้ที่ปลูกไว้และสรรพคุณในการใช้งานพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเล็กน้อย พอเกือบเที่ยงวันก็หลายคนยังไม่ได้กินข้าวอะไรมาก็ย้ายไปไปกินที่ร้านเบอเกอร์ Bigger' Burger & steak และมีท่านหนึ่งสั่งเบียร์มากินกันก่อนเลย และแต่ละท่านก็มาทักทายผมสลับกันไป ก็คุยเรื่องนั้นนี่ตามประสากันไป

จากนั้นก็เดินทางไปยังที่พัก คราวนี้ผมแอบเกาะกับรถบัสกับ rightshift ไปยังที่พัก Nowadays pool villa khaoyai ระหว่างเดินทางก็แวะชื้อของเล็กน้อยก่อนที่จะเข้าที่พัก ก่อนที่จะต่างคนจะเริ่มกิจกรรมกัน แยกย้ายตามประสาแต่ละคนก็ทยอยๆกันเข้ามา ก็ได้ทักทายหลายๆท่านแนะนำตัว สลับเข้าห้องบ้างเปิดเพลงร้องเพลงกันบ้าง ประเดิมด้วยเบียร์ที่มีให้เลือกอยู่ 2 แบรน ราคาแพงอยู่นะ ราคา 2,100 sats และ 2,400 sats แต่ก็จัดมา ก็ได้พูดคุยแนะนำตัวกันเล็กน้อย ช่วงนี้ก็เริ่มจิบเบียร์กันละจัดมาหนึ่งกระป๋อง

ผมก็ได้พูดคุยทักทายหลายๆท่านที่อยู่ที่นั่งด้านหน้าสระน้ำ และได้สอบถามพี่เอก Ekaphol (npub1pkw…e9eq) เรื่องเดินเขาใหญ่ พี่เอกก็ชวนผมไปแต่ก็ไม่ได้ไปเพราะตื่นเลทหน่อยหนึ่ง 555+ (แต่คราวหน้าท่าจะไม่พลาด** อยากเดินแบบกางเต้นนอนชักคืน ฮ่าๆ) และ พี่เป็ด ped66 (npub1ysv…54x4) ก็มาแว๊บมาทักทายก่อนที่จะเริ่มกิจกรรมพิเศษของพี่เป็ด ฝากดูแลทางนี้ด้วยนะ และพี่เป็ดก็เข้าห้องเริ่มกิจกรรมกันไป พี่แชมป์ PIGROCK (npub16un…cn35) ก็เอาซองจดหมายสุ่มมาแจกให้กับทุกๆท่าน ต่างคนต่างแกะซองออกมาก็ได้คละกันไป จนพี่เป็ดจบกิจกรรมผมเองก็ไปถามสปอยจากคนร่วมกิจกรรมซึ่งแต่ละท่านก็ไม่บอกชะด้วยฮ่าๆ ก็เลยถามพี่เป็ดแทนพร้อมจิบเบียร์พูดคุยไป ซึ่งผมก็ได้ตกกระกอนบางอย่างในสิ่งที่พี่เป็ดพูด มันก็แค่นี้เองสินะ มองบรรยากาศรอบๆ กินเนื้อจิบเบียร์ คุยกับหลายๆท่าน ชักพักก็พาตัวเองลงสระ ซึ่งคุณวินก็ว่ายอยู่ก่อนละไปสไลด์เดอร์ ว่ายน้ำไปกลับ เหมือนออกกำลังกายทั้งๆ ทีตัวเองก็เหนื่อยกับการเดินทางมาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ในใจนั่งคิดอย่างอยู่ในน้ำนานๆจังเลยเว้ย ลืมความเหนื่อยให้หมดกับสิ่งที่ผ่านมา ลอยละล่องในสระชักพักก็กลับห้องว่ายน้ำแต่งตัวละก็มาจิบเบียร์ ร้องเพลงสลับกันไป ชักพักพี่แชมป์ก็เอาเสื้อผ้าลายพิเศษมาจำหน่าย ผมก็เลือกดูกะจะชื้อ ก็คิดว่าจะชื้อตอนเช้าอีกวันแต่กลายเป็นว่าพี่แชมป์น่าจะกลับก่อน (พลาดเลยกูเหมือนกับเจอใครครั้งเดียวในชีวิตแล้วอยากคุยด้วย แต่ไม่กล้าทัก 555+)

ช่วงเย็นๆจนถึงมืดผมก็ขึ้นไปด้านบนสลับลงมาห้องคาราโอเกะเพื่อเติมเบียร์บ้างอะไรบ้าง ด้านบนก็เสวนาประสาทั่วไปในบรรยากาศอันเงียบสงบและมีลมเย็นมาเป็นพักๆ เสียงเพลงบรรเลงกีตาร์และแคนเป็นอะไรที่ผ่อนคลายและอยากเชิ้งด้วยเลย ส่วนด้านล่างก็เฮฮาปาจิงโก๊ะร้องเพลงเต็มที่ นึกไม่ออกว่าคุยอะไรกันบ้างละ มึนเบียร์+เหล้าพิเศษจาก Jingjo (npub15l5…7rgk) npub1hwaqxl6lh5mf5r5gly5jpjh0xfucc4ltrl7pclxqzdrfxv7a2ekqsmns92 (npub1hwa…ns92) และนักร้องสลับวงกันไป npub1evyyvw07frve02gdqxk5f3y66k8pw6tvu63enm0u3xadgtck2q4q0ld6wx (npub1evy…d6wx) nickydev (npub18k6…202m) itssara (npub1z7k…xre4) (ตัวเองก็จัดไปเพลงหลายเพลงเหมือนกันแต่ที่จำได้ก็ ฮานิบ่ะเอ้ย / ไปขายนา เหียก่อน 😄 ) และขอให้น้องอิทร้องเพลงโปรด Saint Seiya ทำเอาขนลุกในช่วงที่ร้องสุดยอดจริง ช่วงนั้นด้านล่างก็มีแจกรางวัลจากผู้ที่จ่ายด้วย lighting ส่วนพี่แจ็ค Jakk Goodday (npub1mqc…nz85) ก็วีดีโอคลอมาทักทายทุกคนๆ ผ่านไปจนดึกหลายๆท่านที่อยู่ด้านบนก็ลงมาละมาหากับข้าวรอบดึก (นึกว่าข้าวผัดจะหายไปที่ไหนได้กุ้งในข้าวผัดหายไป) ช่วงนี้เหมือนตัวเองได้สลับอารมณ์ต่างๆ ช้าบ้างเร็วบ้างตามสติที่มีที่อยู่ในช่วงเวลานั้น

แต่ละท่านก็ได้แยกย้ายกันออกไป ไม่แน่ใจ nickydev (npub18k6…202m) เมาจริงหรือเล่นเลย แต่เจ้าตัวบอกไม่ไหวละ เลยต้องแบกคอไปที่ห้องแล้วให้เจ้าตัวเลือกเตียงเอง(โยนทิ้งตัวลงนอน) และผมก็กลับมาห้องส่วนกลางอีกครั้ง จนเหลือเพียงไม่กี่ท่าน ก็นั่งพูดคุยต่อกับ xyzy (npub1p2c…0r2c) พยัคฆ์หมอบ (npub16n9…cea7) chontit (npub1r27…hxu8) Bosthai (npub147g…anr0) และ npub1evyyvw07frve02gdqxk5f3y66k8pw6tvu63enm0u3xadgtck2q4q0ld6wx (npub1evy…d6wx) น่าจะเรื่องการเรียนของลูกๆ ที่มีเพลงธรรมดาคลออยู่ด้านหลังพร้อมเบียร์และกับแกล้ม ผมก็คุยถามพี่ใหญ่อย่างสนุกสนานพอสมควร (ทักษะที่มนุษย์ควรจะมีในปัจจุบันกลับเป็นสิ่งที่หายไป ได้เห็นมุมมองการเปรียบเทียบคนสมัยก่อนและสมัยนี้) ผมนั่งฟังด้านในแต่ด้านนอกก็เหมือนมีสภายาแดงนิดๆ หน่อย อยากแยกร่างไปฟังด้านนอกจังเลยวุ๊ย จากนั้นคุณบีเริ่มง่วงขอแยกไปนอนผมก็ขอตามไปด้วย ฮ่าๆ ไอ้เราก็ง่วงๆ แต่ก็อยากฟังต่อแต่ฝืนตัวเองไม่ไหว

เช้าตื่นมาตอนนั้นแสงแยงเข้าตาละ เหมือนเฮียนิกก็เหมือนแว๊บตื่นไปเปิดแอร์และกลับมานอนต่อ ลืมเปิดแอร์ก่อนนอนฮะ(ขอโทษครับ) ชักพักผมก็ตื่นก็เขากำลังจะออกไปตัวเองก็วูบต่อชักพักก็ตื่นมาเจออาจารย์ขิงออกมาหน้าห้องพร้อมกันพอดี กรุ๊ปที่เดินทางไปเขาใหญ่เขาก็ออกเดินทางกันละเลยไม่ได้ไป ผมก็เลยไปหาน้ำกิน และเดินเหยียบก้อนหินที่เรียงตามขอบสระ(อย่างเจ็บ/แต่ก็นวดเท้าได้ดี) จากนั้นก็ขึ้นไปรับแสงด้านบน คุณบีก็ขึ้นมาด้านบนพูดคุยเรื่องแหวน ผมก็จิบเบียร์แก้แฮงค์ยามเช้าอีกกระป๋อง แอบงีบด้านบนจนชักพักแดดลงมาก็ลงมาด้านล่างเหมือนเดิม ชักพักกาแฟดริปยามเช้าก็มา เอาเข้าจริงดื่มกาแฟจำได้น่าจะประมาณ 4-5 แก้วกันเลย(ดื่มอย่างเยอะ แต่สมองเบลอๆไปละเหมือนกัน) จากนั้นก็จิบข้าวต้ม ผมก็เห็นพี่ใหญ่ก็ลงน้ำรอบเช้าอีกรอบก็นั่งคุยกันชักพักใหญ่ๆเลย จากนั้นทุกๆท่านที่ไปเขาใหญ่ก็กลับเข้ามา ผมเองก็เตรียมเก็บของ และได้รับของฝากดอกไม้จาก npub1evyyvw07frve02gdqxk5f3y66k8pw6tvu63enm0u3xadgtck2q4q0ld6wx (npub1evy…d6wx) และพริกไทยจาก npub1hwaqxl6lh5mf5r5gly5jpjh0xfucc4ltrl7pclxqzdrfxv7a2ekqsmns92 (npub1hwa…ns92) ขอบคุณครับ แล้วพอถึงเวลาแล้วก็ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกก่อนแต่ละท่านจะเดินทางกลับ ก่อนกลับก็กอดกันตามประสากันไป

- ขอบคุณทีมงานปรุงเนื้อทุกท่าน ถึงอาจจะทำตกพื้นบ้างก็ไม่เป็นไรฮะ(แซวเน้อ) กินได้หมดแหละ😄
- ขอบคุณ Win Vee (npub1ckq…ce2q) มากครับ สำหรับการจัดงาน #korat102 ในครั้งนี้ ถ้าไม่ได้จัดงานนี้ปากช่องและโคราชผมก็คงไม่ได้มา 😉
- ขอบคุณ unh (npub1ne2…zsl9) สำหรับภาพบรรยากาศ ถึงแม้จะไม่ได้ค่อยคุยกันเลย ถ้าขาดภาพบรรยากาศผมก็ลืมช่วงเวลานั้นเหมือนกันครับ ความเมาทำให้ลืมบางอย่างได้เหมือนกัน เอิ๊กๆ🍺 😃

จบการรีวิว #korat102 #siamstr
เจอกันงานถัดไปฮะ TBC2024
----------------------------------------------------------------------------------
🚌 🚌 ภาคต่อเนื่องอันนี้ข้ามกันไปได้ 🚌 🚌
ผมเองก็จะเดินทางไปตัวเมืองโคราชต่อเพื่อพักต่ออีกคืน เมื่อคืนในวันงานพี่เจน Thita@98 (npub1wjc…79nf) และครูโบว์ Bowchonlada (npub1zt3…lwwz) ก็แว๊บๆถามผมละว่าผมจะไปโคราชต่อ ก็เลยให้ผมติดรถไปด้วย ผมก็ตอบตกลงแต่ตอนเช้าวันนั้นก็แทบไม่ได้คุยกันเลย ผมก็เตรียมจะชื้อตั๋วรถไฟละ ตอนสิบโมงเช้า เปิดแอพมาอ้าวไม่ให้จองออนไลน์ชะละ ก็คิดแหละว่าออกจากที่พักโดยติดขอติดรถคุณวินไปส่งที่สถานีรถไฟ เพื่อไปชื้อตั๋วเหมือนเคย ซึ่งตอนนั้นเอากระเป๋าเข้ารถคุณวินละ ผมก็เจอพี่เจนพอดีก็ถามผมว่าจะไปโคราชรึ ติดรถด้วยกันนี่มา ก็ต้องย้ายกระเป๋าไปยังรถครูโบว์ ช่วงระหว่างเดินทางพี่เจนก็หิวก็เลยทักคุณวินไปกินข้าวก่อน ร้านลาบชักร้านหนึ่งนี่แหละ จากนั้นครูโบว์ก็ไปส่งผมกับพี่เจนมาจนถึงโคราชและส่งที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ระหว่างทางก็คุยกันเพลินๆ ขอโทษที่พูดเยอะไปหน่อย(อย่าไปสนใจเลย เอิ๊กๆ) หลังจากถึงลานย่าโมเรียบร้อยแล้ว ผมก็ได้แยกกับพี่เจน ไปเข้าที่พักที่แต่ละคนได้จองกันไว้

ยามเย็นผมก็มาไหว้ย่าโม และลองลอดประตูชุมพล เห็นว่ามีตำนานประตูชุมพล เชื่อว่าใครมาลอดซุ้มประตูนี้แล้วจะได้มาอยู่โคราช (เลยลอดไป 1 ครั้ง/ไม่กล้าลอด 3 ครั้ง ฮ่าๆ กลัวจะได้แฟนที่นี้ ฮ่าๆ) ตอนนั้นก็พี่เจนก็แว๊บมาไหว้ย่าโมพอดี ก็เลยได้นั่งคุยกัน ก็เดินไปเจอร้านนมดิบก็ไปกินก็แวะคุยกันยาวเลยในบริเวณแถวนั้น ความรู้สึกตอนนั้นผมเองเหมือนอยู่ในรังนกแต่อันนี้เจอกันต่อหน้า ( ลุคพี่เจนก็เหมือนกับในรังนกก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยน ) ก็ได้พูดคุยกันหลายๆเรื่องส่วนใหญ่ก็ธรรมมะ เจตสิก และอื่นๆ บางเรื่องผมก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างตามประสา บางเรื่องผมก็พึ่งรู้จากพี่เจนเหมือนกัน ขอบคุณครับ จากนั้นก็เดินทางกลับที่พักก็แยกย้ายกันไปนอน

ก่อนที่จะเดินทางกลับ ผมก็คิดละว่าจะนั่งรถไปสถานีขนส่ง เช้าๆมาคุณเอ็ม chontit (npub1r27…hxu8) ก็ทักมาสอบถามว่าเดินทางกี่โมง ผมเดินทางเที่ยงวันครับ คุณเอ็มก็อาสามารับไปส่งที่สถานีขนส่งแห่งที่ 2 ก่อนเดินทางกลับก็แวะร้านกาแฟละมุนก่อนกลับ ระหว่างเดินทางผมก็ถามเรื่องความเชื่อเรื่องประตูชุมพล เอาเข้าจริงมันก็มีความเกี่ยวข้องนะสำหรับคุณเอ็มเองที่เคยไปลอดประตูชุมพล ( พอถึงร้านก็ลองชิมกาแฟประจำร้าน คนเสริฟนี่ดีจริงๆเลยเชียว มีแซวมีมุกให้ชงตลอดเหมือนชวนให้มาที่ร้านอีก ผมคงพูดเยอะและกินน้ำเยอะด้วยแหละ ) ช่วงระยะเกือบหนึ่งชั่วโมงที่คุยที่ร้าน ผมก็ได้เล่าเรื่องประสบการณ์การเดินทางส่วนตัวช่วงมีนาคมที่ผ่านมาและสิ่งที่ได้จากการเดินทางในครั้งนั้น และก็แลกเปลี่ยนเรื่องระบบราชการนิดหน่อย จากนั้น คุณเอ็มก็ส่งผมมาสถานีขนส่งใหม่จนถึงทางขึ้นรถและก็ลาจากกันก่อนที่ผมนั่งรถกลับบ้าน ( มีแพลนอยู่ว่าจะกลับมาอีกรอบแน่ๆ อันเนื่องมาจากค้างคาเรื่องเดินที่เขาใหญ่กับร้านเนื้อในโคราช อยากลองกิน/หาเหตุอีกละ พอๆที่จะอยากไปนครพนมอีกรอบเลย เง้อ/ก่อนไม่ได้เที่ยว ฮ่าๆ )

ระยะเวลาที่ 12 ชั่วโมงในการเดินทางกลับบ้านของผมเอง ผมก็มานั่งทบทวนในสิ่งที่ผ่านไปในงาน #korat102 ที่ผ่านมา ผมก็มองไปยังหน้าต่างบนรถโดยสารที่กำลังเคลื่อนที่ออกไป ผ่านทุ่งนาภูเขา ผ่านชุมชน ผ่านเมือง เหตุการณ์ที่ผ่านมามันก็ช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน หลังจากจบงานนี้ระหว่างการเดินทาง ผมรู้สึกนิ่งมากขึ้น ผมมองปัจจุบันมากขึ้น แต่ก็วางแพลนคร่าวๆ ถึงอนาคตและเป้าหมายที่อยากจะทำ แต่ละคนมีหน้าที่ของตัวเองเพื่อเอาตัวรอดในชีวิตที่มีความยากในปัจจุบัน เป็นเราเองหรือระบบที่ทำให้เราใช้ชีวิตยากขึ้น? สำหรับการเดินทางนั่งรถไปกลับระยะเวลารวมวันกว่าๆ (28 ชั่วโมง) เกือบ 1500km ที่ผมนั่งรถโดยสารประจำทางสำหรับผมเองก็ถือว่าคุ้มค่าในการเดินทางมาครั้งนี้จริงๆ ถึงแม้จะบ่นกับตัวเองว่าเมื่อยตัวชิบหาย ขอบคุณครับ :)

ว่าแล้วก็ 🍺 🍺 🍺
ชนแก้วและถือไมค์ร้องเพลงกันต่อ...


## **ช๊อตโน๊ต รีบอ่านก่อนเข้าคลาสพี่ Wichit Saiklao (nprofile…jvsz) เย็นนี้

> * "Humanity's symphony of progress is orchestrated by the tireless conductor of labor, wielding the instruments of capital and technology, fueled by the boundless energy of innovation."*



## **แรงงาน (Labor)**

ชีวิตเรามีแค่วันละ 24 ชม. แล้วเราเอาเวลาที่แสนมีค่าเหล่านี้ไปทำอะไรกันบ้าง?

เวลาถูกแบ่งออกเป็น 2 อย่างง่ายๆ ตามมุมมองของสำนักออสเตรียน

**Leisure** (เวลาว่าง) คือเวลาที่เราเอาไปทำอะไรก็ได้ที่มันฟิน เล่นเกม ดูซีรีย์ กินย่างเนื้อ ไปเที่ยวทะเล อะไรก็ได้ที่มันแฮปปี้ เป็นเวลาที่เราใช้ไปเพื่อตัวเอง โดยไม่ต้องสนใจผลลัพธ์อะไรทั้งนั้น

**Labor** (แรงงาน) คือเวลาที่เราเอาไปทำงาน ซึ่งแน่นอน.. ส่วนใหญ่แม่มไม่ค่อยสนุกหรอก แต่เราต้องทำ เพราะมันจะทำให้เราได้ผลลัพธ์ที่เราต้องการในอนาคต เช่น เงินเดือน ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ฯลฯ

แรงงานมันคือการเสียสละความสุขในปัจจุบัน เพื่อแลกกับผลตอบแทนในอนาคต

แรงงานคือพลังแห่งการสร้างสรรค์ที่สามารถเปลี่ยนโลกใบนี้ได้อย่างแท้จริง

เราลองนึกภาพโลกที่ไม่มีแรงงานกันดูสิ..

ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีมือถือ ไม่มีเสื้อผ้าสวย ๆ ไม่มีอาหารอร่อย ๆ ไม่มี Netflix ไม่มี Nostr ไม่มีอะไรเลย

ทุกอย่างที่เราเห็น ทุกอย่างที่เราใช้ ล้วนเกิดจาก "แรงงาน" ของใครสักคนทั้งนั้น

ยิ่งผลผลิตของแรงงานสูง เราก็ยิ่งรวย แลมีความสุขกันมากขึ้น เพราะเราสามารถผลิตสินค้าและบริการได้มากขึ้น ในเวลาที่น้อยลง

แล้วอะไรล่ะ ที่ทำให้ผลผลิตของแรงงานเพิ่มขึ้น?

**ทุน** (Capital) เครื่องมือ เครื่องจักร เทคโนโลยี ที่ช่วยให้เราทำงานได้เร็วขึ้น และ มีประสิทธิภาพมากขึ้น

**เทคโนโลยี** (Technology) ความรู้ นวัตกรรม ที่ช่วยให้เราทำงานได้ฉลาดขึ้น และ แก้ปัญหาได้ดีขึ้น

**การแบ่งงานกันทำ** (Division of Labor) การที่แต่ละคนเชี่ยวชาญ"ในงานที่ตัวเองถนัด แล้วนำมาแลกเปลี่ยนกัน ทำให้ทุกคนต่างได้ประโยชน์

เหล่านี้คือตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ผลผลิตของงานเพิ่มขึ้น และทำให้ทุกคนในสังคมอยู่ดีกินดีมากขึ้น

ส่วน “การว่างงาน” สำนักออสเตรียนมองว่าที่มันเกิดขึ้น มันไม่ใช่ความผิดของตลาดเสรีหรอก แต่มันเป็นผลมาจาก "การแทรกแซง" ของรัฐบาลต่างหาก เช่น การพิมพ์เงิน การออกกฎหมายค่าแรงขั้นต่ำ ฯลฯ

ในตลาดเสรี ทุกคนมีอิสระที่จะทำงานหรือไม่ทำงานก็ได้ และเรียกร้องค่าจ้างที่ตัวเองต้องการได้ ถ้าคุณไม่พอใจกับค่าจ้าง คุณก็ลาออกไปหางานใหม่ได้ หรือออกไปเป็นนายตัวเองก็ได้

ตลาดเสรีมัน "แฟร์" กว่าที่เราคิด เพราะมันให้ "โอกาส" กับทุกคน

และหลายคนก็ชอบด่า "นายทุน" ว่ามักจะ "เอารัดเอาเปรียบ" แรงงาน แต่สำนักออสเตรียนเค้าอธิบายว่านายทุนไม่ได้ขูดรีดแรงงา หรอก แต่มันเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรมต่างหากล่ะ นายทุนเค้าลงทุนเงินเพื่อสร้างธุรกิจและจ้างงาน เพื่อผลิตสินค้าและบริการ เพื่อขายให้กับผู้บริโภค

ถ้าธุรกิจกำไรนายทุนก็ได้ผลตอบแทนจากการลงทุน และแรงงานก็ได้ค่าจ้างจากการทำงาน
ถ้าธุรกิจขาดทุนนายทุนก็เสียเงินและแรงงานก็ตกงาน.. มันเป็นเกมที่มี "กฎ" ชัดเจน และ "แฟร์" กับทุกฝ่าย

"แรงงานของมนุษย์” มันมีคุณค่าที่ไม่สิ้นสุด เพราะมนุษย์เรามี "ความคิดสร้างสรรค์" และ "ความสามารถในการปรับตัว" ที่เหนือกว่าหุ่นยนต์ หุ่นยนต์มันทำได้แค่งานซ้ำ ๆ แต่มนุษย์เราสามารถ "คิดค้น" และ "สร้างสรรค์" สิ่งใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา

สำหรับสำนักออสเตรียน.. แรงงานมันไม่ใช่แค่ "งานหนัก" หรือ "ภาระ" แต่มันคือโอกาส ในการสร้างสรรค์ และพัฒนาตัวเองและสังคม

## **ทุน (Capital)**

> *"Capital is the bridge between present sacrifice and future abundance, a testament to the power of foresight and delayed gratification."*

“ทุน” มันไม่ใช่แค่เงินอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่มันคือ "ทุกสิ่งทุกอย่าง" ที่เราใช้ในการผลิตสินค้าและบริการ เช่น เครื่องมือ เครื่องจักร โรงงาน ที่ดิน วัตถุดิบ ฯลฯ

ทุน มันคืออาวุธลับที่ช่วยทำให้เราทำงานได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ ผลิตสินค้าได้มากขึ้น ซึ่งหมายความว่าเราก็จะรวยขึ้นนั่นเอง..

ลองนึกภาพถึงชาวประมงคนนึงที่อยากจะจับปลาให้ได้เยอะๆ

ถ้าเค้าจับปลาด้วยมือเปล่า เค้าก็จะจับได้แค่ไม่กี่ตัว..
แต่ถ้าเค้ามีเบ็ดตกปลา เค้าก็จะจับได้มากขึ้น

ถ้าเค้ามีเรือ เค้าก็จะออกไปจับปลาในทะเลได้ ซึ่งมีปลาเยอะกว่าในแม่น้ำ..
ถ้าเค้ามีเรือประมงขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์ไฮเทค เค้าก็จะจับปลาได้มหาศาล

เห็นไหมว่า.. ยิ่งมีทุนมาก เราก็ยิ่งผลิตได้มาก และ รวยมากขึ้น

แต่ทว่า.. ทุนมันไม่ได้หล่นมาจากฟ้านะครับ มันต้องสร้างขึ้นมา
ซึ่งการสร้างทุนมันต้องใช้ "เวลา" และ "ความพยายาม"

กลับไปที่ชาวประมงคนเดิม..

ก่อนที่เค้าจะมีเบ็ดตกปลา เค้าต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหาไม้มาเหลาเพื่อทำเบ็ด
ก่อนที่เค้าจะมีเรือ เค้าต้องใช้เวลาหลายวันในการตัดไม้มาต่อทำเรือ
ก่อนที่เค้าจะมีเรือประมงขนาดใหญ่ เค้าต้องใช้เวลาหลายปี ในการออกแบบ สร้าง และรวบรวมเงินทุน

การสร้างทุนมันยาก และใช้เวลานาน แต่มันก็ "คุ้มค่าในระยะยาว” เพราะมันจะทำให้เรารวยและสบายในอนาคต

คำตอบง่ายๆ ในการสร้างทุนก็คือ “การออม”

การออม มันคือการเสียสละความสุขจากการบริโภคในปัจจุบัน เพื่อเก็บเงินไว้ลงทุนในอนาคต..

เรายังอยู่กับชาวประมงคนนั้น..

ถ้าเค้ากินปลาทั้งหมดที่จับได้ เค้าก็จะไม่มีเงินเหลือเก็บ
แต่ถ้าเค้าขายปลาบางส่วน และเก็บเงินเอาไว้ เค้าก็จะมีเงินทุนในการสร้างเบ็ด สร้างเรือ หรือลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ

การออมจึงเป็นก้าวแรกสู่ความร่ำรวย..

ระบบที่นิยมในทุน ถูกเรียกว่าทุนนิยม และมันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลายๆ คนคิด เพราะมันคือระบบที่ทำให้ทุกคนมีโอกาสที่จะรวยและมีความสุข มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตตามแบบฉบับของตัวเอง

ในโลกที่ไม่มีทุนนิยม ทุกคนอาจก้าวไปสู่ความอดอยาก ยากจน เพราะไม่มีใครกล้าลงทุนเพื่อสร้างธุรกิจและจ้างงานใดๆ

ทุน จึงเป็นเพื่อน ไม่ใช่ศัตรู..

## **เทคโนโลยี (Technology)**

> *"Technology is the extension of human ingenuity, a force multiplier that amplifies our abilities and expands the horizons of possibility."*

คำว่า “เทคโนโลยี” ไม่ได้หมายความแค่ว่า Gadget หรือ เครื่องจักร แบบตรงไปตรงมาแบบนั้น มันหมายรวมถึงความรู้ วิธีการ และกระบวนการที่เราใช้ในการแก้ปัญหา และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ด้วย

มันช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น สะดวกสบายขึ้น มีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ต่างอะไรกับเวทมนตร์

ในโลกที่ไม่มีเทคโนโลยี..

เราคงต้อง "เดินเท้า" ไปไหนมาไหน
เราต้อง "เขียนจดหมาย" ส่งหากัน
เราต้อง "จุดตะเกียง" ส่องสว่าง
เราต้อง "ใช้แรงงานคน" ทำทุกอย่าง

มันคลาสสิกนะ แต่ก็โคตรลำบาก

แต่เรามี "รถยนต์" "รถไฟ" "เครื่องบิน"
เรามี "โทรศัพท์" "อินเทอร์เน็ต" "โซเชียลมีเดีย"
เรามี "ไฟฟ้า" "เครื่องใช้ไฟฟ้า"
เรามี "หุ่นยนต์" ช่วยทำงาน (มียันเอไอ)

ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้าชีวิตเราก็ยิ่งจะสะดวกสบายมากขึ้น (เอาจริงๆ สินค้าก็ควรจะถูกลงด้วย)

สำนักออสเตรียนบอกว่า.. เทคโนโลยีมันไม่ได้เข้ามาทำลายงาน แต่มันเปลี่ยนแปลงลักษณะของงานต่างหาก

สมัยก่อน คนต้องทำงานในไร่นากันทั้งวัน
พอมีรถไถเข้ามา คนก็ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนเดิมอีกต่อไป

แต่คนก็ไม่ได้ตกงาน..
คนก็ไปทำงานอย่างอื่นแทน เช่น เป็น ช่างซ่อมรถไถ หรือไปทำงานในโรงงานที่ผลิตรถไถ

เทคโนโลยีมันไม่ได้ "แย่งงาน" แต่มัน "สร้างงาน" ใหม่ ๆ ขึ้นมา

สมัยก่อน ความรู้มันถูกผูกขาดโดยกลุ่มคนรวย และชนชั้นสูง แต่เทคโนโลยีการพิมพ์ก็ทำให้ทุกคนเข้าถึงความรู้ได้

พอทุกคนมีความรู้ เราก็ยิ่งคิดค้น และ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้มากขึ้น

ยิ่งเทคโนโลยีแพร่หลาย พวกเราก็ยิ่งก้าวหน้ามากขึ้น

ดังนั้น.. จง "เปิดรับ" เทคโนโลยี และ "เรียนรู้" ที่จะใช้มันให้เกิดประโยชน์

## **พลังงาน (Energy)**

> *"Energy is the lifeblood of civilization, the animating force that fuels progress and empowers us to transcend the limitations of our physical existence."*

“พลังงาน” มันไม่ใช่แค่น้ำมันหรือไฟฟ้าที่เราใช้ แต่มันคือ "ทุกสิ่งทุกอย่าง" ที่ทำให้สิ่งของเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนแปลงได้

คุณยกของได้ เพราะคุณมีพลังงานในร่างกาย
รถยนต์วิ่งได้ เพราะมีพลังงานจากน้ำมัน
โทรศัพท์ทำงานได้ เพราะมีพลังงานจากแบตเตอรี่

พลังงาน มันอยู่รอบตัวเรา..

ยิ่งเรามีพลังงานมาก เราก็ยิ่งทำอะไร ๆ ได้มากขึ้น

สมัยก่อน เราต้องใช้แรงงานคนหรือสัตว์ในการขนส่งสินค้า ซึ่งโคตรเหนื่อย ใช้เวลานาน แถมยังขนส่งได้ทีละนิดเดียวเท่านั้น

แต่พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลมันทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป..

เรามีรถบรรทุก รถไฟ เครื่องบิน ที่ขนส่งสินค้าได้ในปริมาณมหาศาล รวดเร็ว และทั่วโลก..

พลังงาน มันทำให้เศรษฐกิจเติบโต และทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะ

สำนักออสเตรียนบอกว่า.. พลังงานบนโลกเรามันมีอยู่เหลือเฟือ

พลังงานแสงอาทิตย์ ส่องมาที่โลกทุกวัน
พลังงานลม ก็พัดอยู่ตลอดเวลา
พลังงานน้ำ ไหลจากภูเขาลงสู่ทะเล
เชื้อเพลิงฟอสซิล มีอยู่ใต้ดิน
พลังงานนิวเคลียร์ ก็มีศักยภาพสูง

เราไม่ต้องกลัวพลังงานหมด แต่เราต้องฉลาดในการใช้มัน

ปัญหาของพลังงานมันไม่ได้อยู่ที่ "ปริมาณ" แต่มันอยู่ที่ "วิธีคิด" ของเราต่างหาก

ถ้าเรายึดติดกับวิธีการเดิม ๆ เราก็จะติดกับดักพลังงาน แต่ถ้าเราเปิดใจรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เราก็จะปลดล็อคศักยภาพของพลังงานได้

ถ้าเราขาดแคลนพลังงาน เราก็ต้องพึ่งพาคนอื่น
แต่ถ้าเรามีพลังงานเหลือเฟือ เราก็เลือกที่จะทำอะไรก็ได้ที่เราต้องการ

พลังงาน มันทำให้เรา "เป็นนายตัวเอง" ได้

#siamstr #jakkstr #principlesofeconomic


ฟังกี่ครั้งก็ยังตกใจ
โค๊ชหนุ่มบอกว่าตอนนี้กลุ่มที่มีปัญหาการเงินมากที่สุดคือ เงินเดือน 70k+ มันเป็นไปแล้ว

เมื่อก่อนปัญหาการเงินมักจะอยู่กับคนรายได้ขั้นต่ำเยอะ ตอนนี้คือคนรายได้กลางค่อยบน (แม้ว่าอีกไม่กี่ปีก็เป็นกลางไม่ค่อยบนแล้วก็ตามจากเงินเฟ้อ)

จริงๆคนเหล่านี้ น่าจะหลุดรอดสภาพความจนได้ด้วยซ้ำ เพราะถ้าเข้าใจกลไกดอกเบี้ยทบต้น หนี้จะเสื่อมสภาพได้เรื่อยๆ แต่ปัญหาอยู่ที่ life style หรือเปล่า หรือถ้าพูดให้ตรงคือการจับจ่าย

เมื่อคนเราเสพติดการเสพอะไรอย่างนึงที่ชอบไปแล้ว มันก็ลำบากนะ วันก่อนเพื่อนผมคนนึงยังบ่นปัญหางานอยู่ว่าตอนนี้แย่มาก แต่อาทิตย์ต่อไป บิน BC เที่ยวยุโรป โอ้วแม่เจ้า แล้วที่คุยกะกรูคืออะไร
ทำงานในอุตสาหกรรมที่ธุรกิจเป็นขาลง ปากบอกไม่ไหว แต่ใจต้องได้เที่ยว 🙃

ถ้าตีกันแบบกลมๆ รายได้ 70k
กินอย่างหรูวันละ 1000 ค่าเดินทาง 300 คูณ 30 = 39,000
ผ่อนคอนโด ผ่อนบ้านซัก 20,000
อืมมม ไม่พอจริงๆ 🤣 หรืออาจจะเฉียดๆ

เอาใหม่ กินแบบคนทั่วไป วันละ 500 เดินทาง 300
ก็คงที่ 24,000 ต่อเดือน
ที่ิิอยู่ 25,000 รวม 49,000
จิปาถะ 10,000 รวม 59,000
ชีวิตดีมากๆแล้วนะ ทำไมไม่พอ(วะ)

ส่วนมากน่าจะไม่พอเพราะค่าใช้จ่ายระหว่างทางมากกว่า อย่างที่โค๊ชบอกไว้ คนกลุ่มนี้ปัญหามาจากการบริโภค ไม่ใช่รายได้

#Siamstr


#siamstr
Author Public Key
npub1tr66yvqghfdgwv9yxhmg7xx6pvgvu5uvdc42tgdhsys8vvzdt8msev06fl