journaling_our_journey on Nostr: ...
![](https://image.nostr.build/9ef8db03c2d71a1f3b1dd360b9f0f03f2d6f74471e75eac5eaa0387671057ef7.jpg)
เวลาที่หลายคนเกิดความขัดแย้ง
กับแฟนของพวกเขา
พวกเขาจะมีท่าทีที่ “นิ่งเฉย”
.
ไม่เถียง
ไม่ชักสีหน้า
ไม่ตอบสนองใดใด
.
ซึ่งในหลายๆกรณี
แฟนของพวกเขาก็ไม่ชอบ
ท่าทีที่ “นิ่งเฉย” นี้อย่างแรง
.
เพราะมันเป็นท่าทีที่ดู “ไม่แคร์” แฟนของพวกเขาเลย
.
แต่ในความเป็นจริงนั้น
พวกเขาไม่ใช่ว่าจะ “ไม่แคร์” แฟน
.
พวกเขาเพียงแค่เป็นคนที่มีธรรมชาติตอบสนองต่อ
ความขัดแย้งด้วยการ freeze หรือ “นิ่งตัวแข็ง”
(เหมือนเวลาเจอเสือและนอนนิ่งตัวแข็งทื่อแกล้งตาย)
.
…ต่างจากบางคนที่มีธรรมชาติตอบสนอง
ต่อความขัดแย้งด้วยการ fight หรือ “เถียงสู้กลับ”
.
อย่างไรก็ตาม
เนื่องจากแฟนอาจไม่ได้รู้จัก
ธรรมชาติ freeze ของพวกเขา
.
พอแฟนเห็นว่าพวกเขา “นิ่งเฉย”
แฟนจึงมีแนวโน้มที่จะ “ไล่บี้” พวกเขามากขึ้น
เพื่อหวังว่ามันจะกระตุ้นให้พวกเขา
มีปฏิกิริยาตอบสนองบางอย่างออกมาบ้าง
.
แต่ยิ่งแฟน “ไล่บี้” พวกเขามากเท่าไหร่
พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกไม่ปลอดภัย
ส่งผลให้พวกเขายิ่ง freeze และ “นิ่งเฉย” เข้าไปใหญ่!
.
ในสถานการณ์เช่นนี้
หนึ่งในหนทางที่จะช่วยให้พวกเขากับแฟน
ออกจาก “วังวนความขัดแย้ง” นี้ได้
คือการหาโอกาสนั่งจับเข่าพูดคุยทำความเข้าใจกับแฟน
.
ทำความเข้าใจมุมมองของแฟนที่มองว่า “นิ่งเฉย = ไม่แคร์”
ทำความเข้าใจธรรมชาติของพวกเขาที่ freeze เมื่อเจอความขัดแย้ง
.
เมื่อความเข้าใจเกิดขึ้นแล้ว
พวกเขากับแฟนก็อาจจะตั้งข้อตกลงร่วมกันต่อไปว่า
.
ในอนาคต หากพวกเขากับแฟนเกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก
แฟนก็จะลดการ “ไล่บี้” ลง ในขณะที่พวกเขาก็จะ
เพิ่มการหันหน้าพูดคุยกับแฟน (ไม่ “นิ่งเฉย”) มากขึ้น
.
ทั้งหมดนี้ถือเป็นหนึ่งหนทางที่สามารถ
ช่วยให้พวกเขากับแฟนออกจาก
“วังวนความขัดแย้ง” ที่ผมเล่าให้ฟังในวันนี้ได้ครับ
#จิตวิทยา #siamstr