apsang on Nostr: เมื่อวัยรุ่น low carb กินหมูกระทะ vs ...
เมื่อวัยรุ่น low carb กินหมูกระทะ vs กินอาหารข้างทาง ด้วยงบที่เท่ากัน
ท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วมที่แม่มจ่อมาที่สี่แยกอีกฝั่งแล้ว ผมดันบ้าพลังไม่ถูกเวลาถ่อไปหาค่าขนมถึงแถวสันกำแพง ซึ่งต้องขับออกจากตัวเมืองไปประมาณชั่วโมงนึง แต่นั่นก็ทำให้ผมมีอะไรเขียนในนี้หลังจากไม่ได้เขียนมานาน
หลังเสร็จงานผมอยากหาอะไรกินข้างทางแบบเน้นร้านที่ไม่เคยซื้อ ตอนแรกก็อยากกินอะไรเบาๆ เลยจัดหมูย่าง-ไส้ย่างมาหน่อย แล้วเดินหาของกินต่อ เดินไปเดินมาไปเจอร้านโจ๊ก-ต้มเลือดหมู เลยสั่ง ต้มเลือดหมู เพิ่มไข่เยี่ยวม้า 2 ฟอง (อยากกิน!) แล้วก้เห็นว่าหน้าเซเว่นมีร้านขนมจีบซาลาเปา เลยจัดขนมจีบไม้นึง เปาถั่วดำลูกนึง ก่อนจะขับรถกลับบ้านท่ามกลางความมืด
เอาละมาถึงเวลารีวิว
1. หมูย่าง2ไม้-ไส้ย่าง1ไม้ 30 บาท หมูที่ให้มาไม้ดูยาวใหญ่น่ากิน แต่พอซื้อมาแล้วพบว่าเหมือนเอาเนื้อหมูหมักความหนาประมาณหมูร้านหมูกระทะ เอามาเสียบไม้โดยให้มันดูแบนในแนวยาวตามไม้เสียบให้มากที่สุด อันนี้ไม้ละ 10 บาท ดูเหมือนให้เยอะ แต่ปริมาณจริงๆ พอๆ กะหมูย่างรถเข็นแถวหอ
2. ต้มเลือดหมู 50 บาท เพิ่มไข่เยี่ยวม้าสีชมพู 2 ฟอง 30 บาท รวม 80 บาท ต้มเลือดหมูไม่เอาเลือด มีแต่หมูเด้งชิ้นพอดีคำประมาณ 10 กว่าชิ้น กับเศษผักอีกเกือบครึ่งถ้วย ผมกินไปจนเริ่มจะรู้สึกหนักท้องนิดๆแบบไม่อิ่มดี แต่มาจากไข่ไม่ได้มาจากหมู
3. ขนมจีบไม้ละ 20 บาท 1 ไม้ ซาลาเปาถั่วดำลูกละ 10 บาท 1 ลูก รวม 30 บาท ขนมจีบลูกใหญ่ดี ตัวไส้หมูอร่อย ไม่แน่นมากนักแต่พอรับได้กับราคาและรสชาตินี้ ส่วนซาลาเปาถั่วดำ ใหญ่ประมาณอุ้งมือตัวเอง พอฉีกตรงกลางแล้วไส้ถั่วดำเทไปอยู่ข้างหนึ่ง ไส้น้อย แป้งหนาเว่อร์ประมาณ 1-2 เซนต์ ไส้ถั่วดำรสชาติดูคล้ายกับซาลาเปาจ้าวถูกๆ ที่เคยกิน น่าจะไส้ซื้อมา ผมคว้านแต่ไส้กินแล้วเหลือก้อนแป้งขาวๆเอาไว้บีบเล่น
ทั้งหมดนี่ผมเสียไป 140 บาท ไม่อิ่ม
ผมเลยนึกถึงเมื่อวานที่ไปกินชาบูราคาถูกๆ 99 บาท เครื่องดื่ม 39 บาท รวม 138 บาท แม้ว่าคุณภาพอาหารจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ผมกินเท่าไหร่ก็ได้ อิ่มชิบหาย
-ในภาวะเงินจะเฟ้อ อาหารข้างทางจะราคาเฟ้อตามก้จริงแต่คนทั่วไปก็ต้องจำใจกิน แต่พอเอาส่วนที่เป็นข้าวแป้งออกมา ปริมาณเนื้อสัตว์ต่อชามจะน้อยมาก การที่เราจะกินโปรตีนให้พอดีกับที่ร่างกายต้องการจึงต้องเสียค่าใช้จ่ายมากตาม ซึ่งเรามักจะอิ่มกับอาหารประเภทแป้งไปก่อน ถ้าอาหารในชามเรามีข้าวแป้งเยอะ เราจึงอิ่มเร็วก่อนที่ควรจะเป็น
-ในปัจจุบัน buffet มันตอบโจทย์มากกว่าสำหรับคนกินเยอะและเงินหนาพอสมควร ผมหมายถึงเงินหนาในการกินมื้อเดียว ส่วนสิ่งที่เค้าจะกินก็ขึ้นกับว่าเอาอะไรเข้าปากไป ถ้าดีหน่อยก็จะเป็นมื่อที่อุดมไปด้วยโปรตีนไปเลย ซึ่งการกินแบบนี้มันทำให้คนที่กินอิ่มไปได้ทั้งวันจากมื้อเดียวนั้น ได้สารอาหารครบ แม้ว่าราคาต่อมื้อจะสูง แต่ถ้าเทียบกับการกิน SAD สามมื้อที่ต่อมื้อราคาอาจถูกกว่า การกิน buffet มื้อเดียวมันอาจถูกกว่าการกินสามมื้อก้ได้
-ผมก็เพ้อเจ้อไปนั่น มื้อที่ถูกสุดคุ้มสุดคือมื้อที่ทำอาหารกินเองคับ ถ้าไม่คิดมาก อัดไข่ลวก 5 ฟองก้อยู่ไปได้เกินครึ่งวันละคับ
#siamstr
ท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วมที่แม่มจ่อมาที่สี่แยกอีกฝั่งแล้ว ผมดันบ้าพลังไม่ถูกเวลาถ่อไปหาค่าขนมถึงแถวสันกำแพง ซึ่งต้องขับออกจากตัวเมืองไปประมาณชั่วโมงนึง แต่นั่นก็ทำให้ผมมีอะไรเขียนในนี้หลังจากไม่ได้เขียนมานาน
หลังเสร็จงานผมอยากหาอะไรกินข้างทางแบบเน้นร้านที่ไม่เคยซื้อ ตอนแรกก็อยากกินอะไรเบาๆ เลยจัดหมูย่าง-ไส้ย่างมาหน่อย แล้วเดินหาของกินต่อ เดินไปเดินมาไปเจอร้านโจ๊ก-ต้มเลือดหมู เลยสั่ง ต้มเลือดหมู เพิ่มไข่เยี่ยวม้า 2 ฟอง (อยากกิน!) แล้วก้เห็นว่าหน้าเซเว่นมีร้านขนมจีบซาลาเปา เลยจัดขนมจีบไม้นึง เปาถั่วดำลูกนึง ก่อนจะขับรถกลับบ้านท่ามกลางความมืด
เอาละมาถึงเวลารีวิว
1. หมูย่าง2ไม้-ไส้ย่าง1ไม้ 30 บาท หมูที่ให้มาไม้ดูยาวใหญ่น่ากิน แต่พอซื้อมาแล้วพบว่าเหมือนเอาเนื้อหมูหมักความหนาประมาณหมูร้านหมูกระทะ เอามาเสียบไม้โดยให้มันดูแบนในแนวยาวตามไม้เสียบให้มากที่สุด อันนี้ไม้ละ 10 บาท ดูเหมือนให้เยอะ แต่ปริมาณจริงๆ พอๆ กะหมูย่างรถเข็นแถวหอ
2. ต้มเลือดหมู 50 บาท เพิ่มไข่เยี่ยวม้าสีชมพู 2 ฟอง 30 บาท รวม 80 บาท ต้มเลือดหมูไม่เอาเลือด มีแต่หมูเด้งชิ้นพอดีคำประมาณ 10 กว่าชิ้น กับเศษผักอีกเกือบครึ่งถ้วย ผมกินไปจนเริ่มจะรู้สึกหนักท้องนิดๆแบบไม่อิ่มดี แต่มาจากไข่ไม่ได้มาจากหมู
3. ขนมจีบไม้ละ 20 บาท 1 ไม้ ซาลาเปาถั่วดำลูกละ 10 บาท 1 ลูก รวม 30 บาท ขนมจีบลูกใหญ่ดี ตัวไส้หมูอร่อย ไม่แน่นมากนักแต่พอรับได้กับราคาและรสชาตินี้ ส่วนซาลาเปาถั่วดำ ใหญ่ประมาณอุ้งมือตัวเอง พอฉีกตรงกลางแล้วไส้ถั่วดำเทไปอยู่ข้างหนึ่ง ไส้น้อย แป้งหนาเว่อร์ประมาณ 1-2 เซนต์ ไส้ถั่วดำรสชาติดูคล้ายกับซาลาเปาจ้าวถูกๆ ที่เคยกิน น่าจะไส้ซื้อมา ผมคว้านแต่ไส้กินแล้วเหลือก้อนแป้งขาวๆเอาไว้บีบเล่น
ทั้งหมดนี่ผมเสียไป 140 บาท ไม่อิ่ม
ผมเลยนึกถึงเมื่อวานที่ไปกินชาบูราคาถูกๆ 99 บาท เครื่องดื่ม 39 บาท รวม 138 บาท แม้ว่าคุณภาพอาหารจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ผมกินเท่าไหร่ก็ได้ อิ่มชิบหาย
-ในภาวะเงินจะเฟ้อ อาหารข้างทางจะราคาเฟ้อตามก้จริงแต่คนทั่วไปก็ต้องจำใจกิน แต่พอเอาส่วนที่เป็นข้าวแป้งออกมา ปริมาณเนื้อสัตว์ต่อชามจะน้อยมาก การที่เราจะกินโปรตีนให้พอดีกับที่ร่างกายต้องการจึงต้องเสียค่าใช้จ่ายมากตาม ซึ่งเรามักจะอิ่มกับอาหารประเภทแป้งไปก่อน ถ้าอาหารในชามเรามีข้าวแป้งเยอะ เราจึงอิ่มเร็วก่อนที่ควรจะเป็น
-ในปัจจุบัน buffet มันตอบโจทย์มากกว่าสำหรับคนกินเยอะและเงินหนาพอสมควร ผมหมายถึงเงินหนาในการกินมื้อเดียว ส่วนสิ่งที่เค้าจะกินก็ขึ้นกับว่าเอาอะไรเข้าปากไป ถ้าดีหน่อยก็จะเป็นมื่อที่อุดมไปด้วยโปรตีนไปเลย ซึ่งการกินแบบนี้มันทำให้คนที่กินอิ่มไปได้ทั้งวันจากมื้อเดียวนั้น ได้สารอาหารครบ แม้ว่าราคาต่อมื้อจะสูง แต่ถ้าเทียบกับการกิน SAD สามมื้อที่ต่อมื้อราคาอาจถูกกว่า การกิน buffet มื้อเดียวมันอาจถูกกว่าการกินสามมื้อก้ได้
-ผมก็เพ้อเจ้อไปนั่น มื้อที่ถูกสุดคุ้มสุดคือมื้อที่ทำอาหารกินเองคับ ถ้าไม่คิดมาก อัดไข่ลวก 5 ฟองก้อยู่ไปได้เกินครึ่งวันละคับ
#siamstr