Ekaphol on Nostr: กดสัญญาณฉุกเฉินrebootร่างกาย ...
กดสัญญาณฉุกเฉินrebootร่างกาย
หลังจากทำprolonged fasting ยาวๆครั้งแรก (อดอาหาร48-72ชม)
บันทึกเก็บไว้ในความทรงจำ
ดีใจที่ทำสำเร็จและได้ลงมือทำ
สรุปแบ่งปันเผื่อใครไม่รู้ว่าทำบ้าอะไร
1แล้วทำไปทำไม?
ก็เพราะการทำprolonged fasting มันเหมือนการกดสวิสรีเซ็ทระบบต่างๆในร่างกายที่มันผิดรูปผิดร่างนอกแถวแตกแนว ให้กลับมาเข้าที่เข้าทางอยู่กับร่องกับรอยที่ควรจะเป็น
2ทำแล้วได้อะไร คุ้มมั๊ย?
เพราะเมื่อร่างกายขาดพลังงาน มันจะตกใจมันจะรู้สึกเป็นภัย จึงต้องเปิดสัญญาณฉุกเฉิน ประมาณว่า...แย่แล้วๆตื่นๆมีเรื่องว่ะ
18ชม.หลังอด ร่างกายจะดึงไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงานทดแทน
24.ชม.หลังอด เหมือดึงไขมันมาใช้สักพัก จะเกิดกระบวนการautophagyร่างกายจะเริ่มมองหาเซลล์เสื่อมๆเสียๆที่ทำงานไม่สมบูรณ์พวกเซลล์กาฝาก ใช้พลังงานแต่ไม่สร้างประโยชน์มาย่อยกำจัดใช้เป็นพลังงานแทน
48ชม.หลังอด growth hormone จะเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็น5เท่า และร่างกายจะซ่อมตัวเองลดการอักเสพภายในแบบเร่งด่วน เพราะร่างกายจะรู้สึกเป็นภัยเพราะขาดอาหารมานานต้องรีบทำให้ร่างกายตื่นตัวและแข็งแรงสู้
54ชม.หลังอด ระบบกำจัดเซลล์เสียๆจะทำงานพีคขั้นสุด เพราะร่างกายขาดอาหารยาวนานมากๆแล้ว ต้องรีบจับไอ้พวกเซลล์ขยะทำงานไม่ดีแตกแถวแตกแนวมาฆ่าเป็นพลังงาน อินซุลินจะต่ำสุดช่วยลดภาวะดื้ออินซุลิน แก่ก่อนวัย เบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงมะเร็ง เป็นต้น
72ชม.หลังอด เริ่มมีการสลายเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันเก่าที่เสื่อมทำงานเพี้ยนๆ และสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันใหม่ รักษาเซลเม็ดเลือดขาวให้มีสภาพแข็งแรงสมบูรณ์ คล้ายๆตายแล้วเกิดใหม่
โครตคุ้มที่ได้ทำ เพราะร่างกายภายนอกตรงไหนเป็นแผลเราเห็นเราทายาได้ แต่อวัยภายในอะไรเสื่อมอะไรเสียเราจะรู้ได้ไง คนในประเทศ70ล้านคน ยังมีคนชั่วๆมากมาย แล้วเซลล์ในร่างกายเราหลายร้อยหลายพันล้านเซลล์มันจะไม่มีเซลล์ชั่วๆเสียๆเลยรึ ไอ้เซลล์พวกนี้แหละที่จะทำร่างกายอักเสพและพัฒนาไปสู่โรคต่างรวมทั้งมะเร็ง
มื้อสุดท้ายของผมคือบ่ายวันอาทิตย์ และเริ่มกลับมากินตอนเช้าวันพุธ ซึ่งปกตินับแล้วแค่ประมาณ66ชม.ไม่ถึง72ชม. แต่ผมคิดว่าผมน่าแฮคระบบจนถึงได้กระบวนการ72ชม.ได้อยู่นะ เพราะระหว่างอดผมพยายามใช้ร่างกายให้เป็นปกติที่สุด เดินให้เกินหมื่นก้าวทุกวัน ออกกำลังให้เกินพันแคล ใช้เวลาออกกำลังทั้งเวทและคาดิโอ2-3ชม.ทุกวัน มันน่าจะเป็นการกดดันให้ร่างกายมันเร่งเผาผลาญอะไรๆที่ไม่ดีเพื่อมาใช้เป็นพลังงานไวขึ้น เท่ากับเป็นการเร่งกระบวนการต่างๆให้ไวขึ้นตาม(ความเห็นส่วนตัวนะ ไม่มีงานวิจัยรับรอง)
เหตุที่ไม่รอถึง72ชม.เพราะถ้าจะเอา72ชม.ผมจะต้องกลับมากินบ่ายวันพุธ เพราะจริงๆแล้วก็ยังไม่รู้สึกหิวเลย และไอ้การกลับมากินมันต้องค่อยๆกินจากน้อยๆ เริ่มจากโปรตีนย่อยง่ายเบาๆไฟเบอร์ ถ้ารีบยัดคาร์ปน้ำตาลไปเลยไม่ได้ ร่างกายมันจะช็อคตกใจเพราะระบบย่อยอาหารมันโดนพักมาหลายวัน ตรงนี้ถ้ากินมั่วๆอันตรายถึงชีวิต จึงทำให้ต้องเริ่มกินเช้าวันพุธเพราะพรุ่งนี้ผมมีธุระต้องขับรถทางไกลขึ้นเหนือกลัวว่าถ้าเริ่มกินบ่ายๆจะเติมพลังงานกลับให้ร่างกายได้ไม่เต็มที่ กลัวจะมีปัญหาระหว่างขับรถวันรุ่งขึ้น
*ระหว่างอดอาหารอาการเป็นไงบ้างหิวมั๊ยทรมานมั๊ย?
เรื่องหิวผมไม่รู้สึกหิวเลยนะปกติมาก อาจเพราะปกติแล้วผมทำif16/8ทุกวันอยู่แล้ว บางวันนานๆครั้งก็ลากไป24-30ชม.บ้าง ร่างกายผมเลยรู้จักการทำ fat adaptation ว่าด้วยหลักการปรับให้ร่างกายใช้ไขมันเป็นพลังงานหลักในยามที่ไม่มีคาร์ปหรือน้ำตาลในระบบ เลยทำให้มันไม่รู้สึกหิว แต่ก็มีอาการเหมือนอ่อนแรงเฉาๆหลังผ่าน40ชม.ไปแล้ว ช่วงท้ายๆมีอาการเหมือนหน้ามืดครั้งนึงตอนลุกเร็วๆน่าจะเพราะความดันต่ำเนื่องจากขาดพลังงานมานาน นอกนั้นปกติหมดทุกอย่าง
*สื่งที่กลัวระหว่างทำคือ?
กลัวเสียกล้ามเนื้อสุด เพราะร่างกายมันโดนบังคับให้ต้องสลายเซลล์เสื่อมๆมาใช้เป็นพลังงาน ไอ้ผมคนเสพติดการออกกำลังจะรักกล้ามเนื้อมาก เพราะคนเล่นจะรู้ว่าไอ้กล้ามเนื้อนี้มันสร้างโคตรยาก ไม่ได้ขึ้นกันง่ายๆ ต้องเล่นให้หนักให้โดนและต้องมีวินัยทำซ้ำๆตลอด ดังนั้นผมสร้างมา3ปีกว่าเหนื่อยและทุ่มเทกับมันเยอะมากๆเลยกลัวตรงนี้ที่สุด แต่ก็คิดปลอบใจตัวเองว่า ช่างมันถ้ามันจะต้องเสียกล้ามเนื้อไปบ้างก็คิดซะว่ามันคือกล้ามเนื้อส่วนที่ห่วยที่สุด เพราะระบบร่างกายมันจะเลือกเอาส่วนที่เสื่อมสุดประโยชน์น้อยสุดก่อนมาย่อยสลาย แลกกับการที่เราได้ล้างบางเซลล์ชั่วๆในร่างกายก็น่าจะคุ้มอยู่มาก แต่ผมก็พยายามแฮคระบบด้วยการฝืนออกกำลังกายความหนักใกล้เคียงเดิมทั้งที่รู้สึกว่าพลังงานมันน้อย เพราะผมคิดว่าการที่เรายังใช้กล้ามเนื้อหนักๆอยู่เป็นการบอกร่างกายตัวเองว่า ไอ้มนุษย์ตนนี้มันยังมีความจำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อในตอนนี้ กล้ามเนื้อยังสำคัญในการใช้ชีวิต ถ้าจะต้องดึงมาเผาเป็นพลังงานให้ไปดึงจากเซลล์แย่ๆส่วนอื่นก่อนแล้วกัน ตรงนี้สำคัญขอไว้ท้ายๆ (ตรงนี้ความเห็นส่วนตัวไม่มีงานวิจัยรองรับ)
*สิ่งที่เปลี่ยนแปลงหลังทำ?
เห็นชัดสุดคือตัวบางลง พวกไขมันตามรอบเอวบางลงแบบรู้สึกได้ และเหมือนจะตัวซูบๆลงจริงๆ ตรงนี้แอบนอยเพราะกลัวกล้ามหาย(สร้างยาก) น้ำหนักตัวหายไปประมาณเกือบ3kg ส่วนเรื่องที่งานวิจัยว่าร่างกายจะอ่อนเยาว์ลง ตรงนี้ผมดูหน้าตัวเองก็เหมือนเดิมริ้วรอยตามวัยของชายวัย44(ที่ไม่ทาครีมและฉีดสารใดใด ธรรมชาติล้วน) แต่ผมเชื่อว่าอวัยวะภายในผมน่าจะอ่อนเยาว์ขึ้น แข็งแรงขึ้น เฟรชขึ้น ซึ่งตรงนี้มันวัดผลไม่ได้คงต้องเชื่อตามงานวิจัยแหละ
สุดท้ายก็ดีใจที่ทำสำเร็จ และคิดว่าจะกลับมาทำซ้ำทุกๆปี คล้ายๆโอเวอร์ฮอนล์เครื่องยนต์ประจำปีแหละ ร่างกายเราคือทรัพย์เดียวที่เป็นของเราอย่างแท้จริง จะสุขหรือทุกข์ก็อยู่ที่ร่างนี้ร่างเดียวเปลี่ยนไม่ได้ จะใช้เงินมากแค่ไหนหรือหมอที่เก่งแค่ไหนมาดูแลเรา ก็คงไม่ดีเท่าตัวเราดูแลตัวเอง
ใครอยากลองทำตามค้นหาข้อมูลดูนะครับ ไม่ขอสอนเพราะมันยาว สมัยนี้ข้อมูลเพียบเลยหาไม่ยากครับ อยู่ที่ความตั้งใจล้วนๆ
พรุ่งนี้ไปเชียงใหม่จะขอแดกทุกสิ่งอย่างที่ใจปรารถนาให้ฉ่ำๆไปเลยครับ
#siamstr
#ProlongedFasting
#FatAdaptation
#Autophagy
หลังจากทำprolonged fasting ยาวๆครั้งแรก (อดอาหาร48-72ชม)
บันทึกเก็บไว้ในความทรงจำ
ดีใจที่ทำสำเร็จและได้ลงมือทำ
สรุปแบ่งปันเผื่อใครไม่รู้ว่าทำบ้าอะไร
1แล้วทำไปทำไม?
ก็เพราะการทำprolonged fasting มันเหมือนการกดสวิสรีเซ็ทระบบต่างๆในร่างกายที่มันผิดรูปผิดร่างนอกแถวแตกแนว ให้กลับมาเข้าที่เข้าทางอยู่กับร่องกับรอยที่ควรจะเป็น
2ทำแล้วได้อะไร คุ้มมั๊ย?
เพราะเมื่อร่างกายขาดพลังงาน มันจะตกใจมันจะรู้สึกเป็นภัย จึงต้องเปิดสัญญาณฉุกเฉิน ประมาณว่า...แย่แล้วๆตื่นๆมีเรื่องว่ะ
18ชม.หลังอด ร่างกายจะดึงไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงานทดแทน
24.ชม.หลังอด เหมือดึงไขมันมาใช้สักพัก จะเกิดกระบวนการautophagyร่างกายจะเริ่มมองหาเซลล์เสื่อมๆเสียๆที่ทำงานไม่สมบูรณ์พวกเซลล์กาฝาก ใช้พลังงานแต่ไม่สร้างประโยชน์มาย่อยกำจัดใช้เป็นพลังงานแทน
48ชม.หลังอด growth hormone จะเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็น5เท่า และร่างกายจะซ่อมตัวเองลดการอักเสพภายในแบบเร่งด่วน เพราะร่างกายจะรู้สึกเป็นภัยเพราะขาดอาหารมานานต้องรีบทำให้ร่างกายตื่นตัวและแข็งแรงสู้
54ชม.หลังอด ระบบกำจัดเซลล์เสียๆจะทำงานพีคขั้นสุด เพราะร่างกายขาดอาหารยาวนานมากๆแล้ว ต้องรีบจับไอ้พวกเซลล์ขยะทำงานไม่ดีแตกแถวแตกแนวมาฆ่าเป็นพลังงาน อินซุลินจะต่ำสุดช่วยลดภาวะดื้ออินซุลิน แก่ก่อนวัย เบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงมะเร็ง เป็นต้น
72ชม.หลังอด เริ่มมีการสลายเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันเก่าที่เสื่อมทำงานเพี้ยนๆ และสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันใหม่ รักษาเซลเม็ดเลือดขาวให้มีสภาพแข็งแรงสมบูรณ์ คล้ายๆตายแล้วเกิดใหม่
โครตคุ้มที่ได้ทำ เพราะร่างกายภายนอกตรงไหนเป็นแผลเราเห็นเราทายาได้ แต่อวัยภายในอะไรเสื่อมอะไรเสียเราจะรู้ได้ไง คนในประเทศ70ล้านคน ยังมีคนชั่วๆมากมาย แล้วเซลล์ในร่างกายเราหลายร้อยหลายพันล้านเซลล์มันจะไม่มีเซลล์ชั่วๆเสียๆเลยรึ ไอ้เซลล์พวกนี้แหละที่จะทำร่างกายอักเสพและพัฒนาไปสู่โรคต่างรวมทั้งมะเร็ง
มื้อสุดท้ายของผมคือบ่ายวันอาทิตย์ และเริ่มกลับมากินตอนเช้าวันพุธ ซึ่งปกตินับแล้วแค่ประมาณ66ชม.ไม่ถึง72ชม. แต่ผมคิดว่าผมน่าแฮคระบบจนถึงได้กระบวนการ72ชม.ได้อยู่นะ เพราะระหว่างอดผมพยายามใช้ร่างกายให้เป็นปกติที่สุด เดินให้เกินหมื่นก้าวทุกวัน ออกกำลังให้เกินพันแคล ใช้เวลาออกกำลังทั้งเวทและคาดิโอ2-3ชม.ทุกวัน มันน่าจะเป็นการกดดันให้ร่างกายมันเร่งเผาผลาญอะไรๆที่ไม่ดีเพื่อมาใช้เป็นพลังงานไวขึ้น เท่ากับเป็นการเร่งกระบวนการต่างๆให้ไวขึ้นตาม(ความเห็นส่วนตัวนะ ไม่มีงานวิจัยรับรอง)
เหตุที่ไม่รอถึง72ชม.เพราะถ้าจะเอา72ชม.ผมจะต้องกลับมากินบ่ายวันพุธ เพราะจริงๆแล้วก็ยังไม่รู้สึกหิวเลย และไอ้การกลับมากินมันต้องค่อยๆกินจากน้อยๆ เริ่มจากโปรตีนย่อยง่ายเบาๆไฟเบอร์ ถ้ารีบยัดคาร์ปน้ำตาลไปเลยไม่ได้ ร่างกายมันจะช็อคตกใจเพราะระบบย่อยอาหารมันโดนพักมาหลายวัน ตรงนี้ถ้ากินมั่วๆอันตรายถึงชีวิต จึงทำให้ต้องเริ่มกินเช้าวันพุธเพราะพรุ่งนี้ผมมีธุระต้องขับรถทางไกลขึ้นเหนือกลัวว่าถ้าเริ่มกินบ่ายๆจะเติมพลังงานกลับให้ร่างกายได้ไม่เต็มที่ กลัวจะมีปัญหาระหว่างขับรถวันรุ่งขึ้น
*ระหว่างอดอาหารอาการเป็นไงบ้างหิวมั๊ยทรมานมั๊ย?
เรื่องหิวผมไม่รู้สึกหิวเลยนะปกติมาก อาจเพราะปกติแล้วผมทำif16/8ทุกวันอยู่แล้ว บางวันนานๆครั้งก็ลากไป24-30ชม.บ้าง ร่างกายผมเลยรู้จักการทำ fat adaptation ว่าด้วยหลักการปรับให้ร่างกายใช้ไขมันเป็นพลังงานหลักในยามที่ไม่มีคาร์ปหรือน้ำตาลในระบบ เลยทำให้มันไม่รู้สึกหิว แต่ก็มีอาการเหมือนอ่อนแรงเฉาๆหลังผ่าน40ชม.ไปแล้ว ช่วงท้ายๆมีอาการเหมือนหน้ามืดครั้งนึงตอนลุกเร็วๆน่าจะเพราะความดันต่ำเนื่องจากขาดพลังงานมานาน นอกนั้นปกติหมดทุกอย่าง
*สื่งที่กลัวระหว่างทำคือ?
กลัวเสียกล้ามเนื้อสุด เพราะร่างกายมันโดนบังคับให้ต้องสลายเซลล์เสื่อมๆมาใช้เป็นพลังงาน ไอ้ผมคนเสพติดการออกกำลังจะรักกล้ามเนื้อมาก เพราะคนเล่นจะรู้ว่าไอ้กล้ามเนื้อนี้มันสร้างโคตรยาก ไม่ได้ขึ้นกันง่ายๆ ต้องเล่นให้หนักให้โดนและต้องมีวินัยทำซ้ำๆตลอด ดังนั้นผมสร้างมา3ปีกว่าเหนื่อยและทุ่มเทกับมันเยอะมากๆเลยกลัวตรงนี้ที่สุด แต่ก็คิดปลอบใจตัวเองว่า ช่างมันถ้ามันจะต้องเสียกล้ามเนื้อไปบ้างก็คิดซะว่ามันคือกล้ามเนื้อส่วนที่ห่วยที่สุด เพราะระบบร่างกายมันจะเลือกเอาส่วนที่เสื่อมสุดประโยชน์น้อยสุดก่อนมาย่อยสลาย แลกกับการที่เราได้ล้างบางเซลล์ชั่วๆในร่างกายก็น่าจะคุ้มอยู่มาก แต่ผมก็พยายามแฮคระบบด้วยการฝืนออกกำลังกายความหนักใกล้เคียงเดิมทั้งที่รู้สึกว่าพลังงานมันน้อย เพราะผมคิดว่าการที่เรายังใช้กล้ามเนื้อหนักๆอยู่เป็นการบอกร่างกายตัวเองว่า ไอ้มนุษย์ตนนี้มันยังมีความจำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อในตอนนี้ กล้ามเนื้อยังสำคัญในการใช้ชีวิต ถ้าจะต้องดึงมาเผาเป็นพลังงานให้ไปดึงจากเซลล์แย่ๆส่วนอื่นก่อนแล้วกัน ตรงนี้สำคัญขอไว้ท้ายๆ (ตรงนี้ความเห็นส่วนตัวไม่มีงานวิจัยรองรับ)
*สิ่งที่เปลี่ยนแปลงหลังทำ?
เห็นชัดสุดคือตัวบางลง พวกไขมันตามรอบเอวบางลงแบบรู้สึกได้ และเหมือนจะตัวซูบๆลงจริงๆ ตรงนี้แอบนอยเพราะกลัวกล้ามหาย(สร้างยาก) น้ำหนักตัวหายไปประมาณเกือบ3kg ส่วนเรื่องที่งานวิจัยว่าร่างกายจะอ่อนเยาว์ลง ตรงนี้ผมดูหน้าตัวเองก็เหมือนเดิมริ้วรอยตามวัยของชายวัย44(ที่ไม่ทาครีมและฉีดสารใดใด ธรรมชาติล้วน) แต่ผมเชื่อว่าอวัยวะภายในผมน่าจะอ่อนเยาว์ขึ้น แข็งแรงขึ้น เฟรชขึ้น ซึ่งตรงนี้มันวัดผลไม่ได้คงต้องเชื่อตามงานวิจัยแหละ
สุดท้ายก็ดีใจที่ทำสำเร็จ และคิดว่าจะกลับมาทำซ้ำทุกๆปี คล้ายๆโอเวอร์ฮอนล์เครื่องยนต์ประจำปีแหละ ร่างกายเราคือทรัพย์เดียวที่เป็นของเราอย่างแท้จริง จะสุขหรือทุกข์ก็อยู่ที่ร่างนี้ร่างเดียวเปลี่ยนไม่ได้ จะใช้เงินมากแค่ไหนหรือหมอที่เก่งแค่ไหนมาดูแลเรา ก็คงไม่ดีเท่าตัวเราดูแลตัวเอง
ใครอยากลองทำตามค้นหาข้อมูลดูนะครับ ไม่ขอสอนเพราะมันยาว สมัยนี้ข้อมูลเพียบเลยหาไม่ยากครับ อยู่ที่ความตั้งใจล้วนๆ
พรุ่งนี้ไปเชียงใหม่จะขอแดกทุกสิ่งอย่างที่ใจปรารถนาให้ฉ่ำๆไปเลยครับ
#siamstr
#ProlongedFasting
#FatAdaptation
#Autophagy