BossMan on Nostr: Bitcoin ...
Bitcoin เป็นเงินที่ไม่มีความยืดยุ่น ความยืดยุ่นในที่นี้ต้องมานิยามต่อว่าหมายถึงอะไร ถ้าหมายถึงการเสกเงินได้ในยามจำเป็น=ความยืดหยุ่น สำหรับผมสิ่งนี้ไม่ใช่ความยืดยุ่นแต่เป็นจุดเริ่มต้นของสันดานพิมพ์เงิน เหมือนแนวคิดเงินเฟ้ออ่อนๆเป็นเรื่องที่ดี ละก็สอนต่อกันมา 10ปี 20ปี
จนปัจจุบันมันไม่ใช่เงินเฟ้ออ่อนๆแล้วครับ
แต่มันก็ยังสอนกันว่าเงินเฟ้ออ่อนๆดี แบบนี้อยู่ในปัจจุบัน
เงินเฟ้อไม่มีคำว่าอ่อนมันมีแต่เฟ้อมากขึ้นเรื่อยๆมันจึงถูกนิยามว่าเงินเฟ้อ
สิ่งที่มนุษย์ต้องการไม่ใช่เงินเฟ้ออ่อนๆ หรือ เงินเฟ้อมากๆแต่เราต้องการเงินที่มันรักษามูลค่าผ่านเวลาได้ซึ่งความยืดยุ่นที่มนุษย์ต้องการคือเก็บได้เมื่อเราอยากเก็บ ขายได้เมื่อเราอยากขาย < อันนี้แหละเขาเรียกว่าความยืดยุ่น ไม่ใช่พิมพ์เงินเท่าไหร่ก็ได้ตามใจฉัน = เงินมีความยืดยุ่น เป็นลูฟี่กินผลยางยืดหรอครับ จะยืดอะไรนักหนา
แถมให้อีกหน่อยนะครับว่ามนุษย์เราพัฒนาอารยะธรรมไปข้างหน้าได้มาจากการขยัน อดออม สะสมความรู้สืบต่อกันมาครับ มนุษย์เราไม่สามารถพัฒนาอารยะธรรมได้จากการงอมืองอเท้า แล้วรอรัฐสวัสดิการจากภาษีประชาชนครับ
สุดท้ายท้ายสุด Bitcoin มันให้เสรีภาพพอสมควรครับไม่ใช่ว่าคุณจำเป็นต้องถือหรือใช้มันเป็นเงินเท่านั้น คุณสามารถจะขายมันเมื่อไหร่ก็ได้เพื่อเปลี่ยน Bitcoin เป็นอย่างอื่นเช่น กรณีไปเที่ยวต่างประเทศแล้วต้องการใช้เงินเยนของ(ญี่ปุ่น)ไม่ได้มีใครถือปืนมาจ่อหัวคุณแล้วบอกว่าคุณต้องถือแค่ Bitcoin หรือใช้แค่ Bitcoin นะ
ซึ่งในอนาคตถ้ามีเงินที่ดีกว่า Bitcoin และทุกคนยอมรับ
Bitcoin ก็ไม่ได้บังคับ ไม่ให้คุณเปลี่ยนหรือไม่ให้ทิ้งมันไปเป็น(ถือ)อย่างอื่นอยู่ดี ของพวกนี้มันอยู่ที่คุณครับ
ซึ่ง Bitcoin มันไม่ได้แย้งอะไรกับธรรมชาติเลยครับ มันเป็นแค่เงินทางเลือกทางๆหนึ่งที่สร้างมาแก้ปัญหาบางอย่างเฉพาะเจาะจง
อุปมาอุปไมยเหมือนอากาศถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์ใช้หายใจ ซึ่งต่อมาคุณอาจจะค้นพบวิธีใช้งานมันได้มากกว่าหนึ่งมากกว่าแค่ใช้หายใจซึ่งนั่นมันเรื่องของคุณครับ
แต่ความเป็นสาระของมันไม่ได้เปลี่ยนครับ
เงินก็เช่นกันเเรกเริ่มเดิมทีผมไม่เชื่อว่ามนุษย์เราเปลี่ยนเงินจากเปลือกหอยเป็นแร่โลหะเพียงเพราะมันมีความยืดยุ่นหรือพิมพ์เพิ่มได้ครับ(งั้นมนุษย์จะเลิกใช้เปลือกหอยทำไม(เพราะมันเฟ้อและผลิตง่ายไง ง่าวต๊าย)
แต่เป็นเพราะสันดารพิมพ์เงินเสกเงินและเอาเปรียบกันและกันของมนุษย์ต่างหากครับที่ไปค้นพบวิธีว่ามันทำได้ เราก็เลยทำครับ
ดังนั้นอย่ามาบอก Bitcoin เป็นเงินไม่ยืดยุ่นเพียงเพราะคุณใช้สันดารพิมพ์เงินของคุณกับ Bitcoin ไม่ได้ ฝากไว้ให้คิดครับ พรี่ Somchai
ปล. เงินยืดยุ่นของเราไม่เท่ากัน
เสกเงินเท่าไหร่ก็ได้ไปทำรัฐสวัสดิการ ≠ เงินยืดยุ่น อันนี้เขาเรียกว่าปล้นเงินอื่นโดยไม่ยินยอม
#Siamstr
จนปัจจุบันมันไม่ใช่เงินเฟ้ออ่อนๆแล้วครับ
แต่มันก็ยังสอนกันว่าเงินเฟ้ออ่อนๆดี แบบนี้อยู่ในปัจจุบัน
เงินเฟ้อไม่มีคำว่าอ่อนมันมีแต่เฟ้อมากขึ้นเรื่อยๆมันจึงถูกนิยามว่าเงินเฟ้อ
สิ่งที่มนุษย์ต้องการไม่ใช่เงินเฟ้ออ่อนๆ หรือ เงินเฟ้อมากๆแต่เราต้องการเงินที่มันรักษามูลค่าผ่านเวลาได้ซึ่งความยืดยุ่นที่มนุษย์ต้องการคือเก็บได้เมื่อเราอยากเก็บ ขายได้เมื่อเราอยากขาย < อันนี้แหละเขาเรียกว่าความยืดยุ่น ไม่ใช่พิมพ์เงินเท่าไหร่ก็ได้ตามใจฉัน = เงินมีความยืดยุ่น เป็นลูฟี่กินผลยางยืดหรอครับ จะยืดอะไรนักหนา
แถมให้อีกหน่อยนะครับว่ามนุษย์เราพัฒนาอารยะธรรมไปข้างหน้าได้มาจากการขยัน อดออม สะสมความรู้สืบต่อกันมาครับ มนุษย์เราไม่สามารถพัฒนาอารยะธรรมได้จากการงอมืองอเท้า แล้วรอรัฐสวัสดิการจากภาษีประชาชนครับ
สุดท้ายท้ายสุด Bitcoin มันให้เสรีภาพพอสมควรครับไม่ใช่ว่าคุณจำเป็นต้องถือหรือใช้มันเป็นเงินเท่านั้น คุณสามารถจะขายมันเมื่อไหร่ก็ได้เพื่อเปลี่ยน Bitcoin เป็นอย่างอื่นเช่น กรณีไปเที่ยวต่างประเทศแล้วต้องการใช้เงินเยนของ(ญี่ปุ่น)ไม่ได้มีใครถือปืนมาจ่อหัวคุณแล้วบอกว่าคุณต้องถือแค่ Bitcoin หรือใช้แค่ Bitcoin นะ
ซึ่งในอนาคตถ้ามีเงินที่ดีกว่า Bitcoin และทุกคนยอมรับ
Bitcoin ก็ไม่ได้บังคับ ไม่ให้คุณเปลี่ยนหรือไม่ให้ทิ้งมันไปเป็น(ถือ)อย่างอื่นอยู่ดี ของพวกนี้มันอยู่ที่คุณครับ
ซึ่ง Bitcoin มันไม่ได้แย้งอะไรกับธรรมชาติเลยครับ มันเป็นแค่เงินทางเลือกทางๆหนึ่งที่สร้างมาแก้ปัญหาบางอย่างเฉพาะเจาะจง
อุปมาอุปไมยเหมือนอากาศถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์ใช้หายใจ ซึ่งต่อมาคุณอาจจะค้นพบวิธีใช้งานมันได้มากกว่าหนึ่งมากกว่าแค่ใช้หายใจซึ่งนั่นมันเรื่องของคุณครับ
แต่ความเป็นสาระของมันไม่ได้เปลี่ยนครับ
เงินก็เช่นกันเเรกเริ่มเดิมทีผมไม่เชื่อว่ามนุษย์เราเปลี่ยนเงินจากเปลือกหอยเป็นแร่โลหะเพียงเพราะมันมีความยืดยุ่นหรือพิมพ์เพิ่มได้ครับ(งั้นมนุษย์จะเลิกใช้เปลือกหอยทำไม(เพราะมันเฟ้อและผลิตง่ายไง ง่าวต๊าย)
แต่เป็นเพราะสันดารพิมพ์เงินเสกเงินและเอาเปรียบกันและกันของมนุษย์ต่างหากครับที่ไปค้นพบวิธีว่ามันทำได้ เราก็เลยทำครับ
ดังนั้นอย่ามาบอก Bitcoin เป็นเงินไม่ยืดยุ่นเพียงเพราะคุณใช้สันดารพิมพ์เงินของคุณกับ Bitcoin ไม่ได้ ฝากไว้ให้คิดครับ พรี่ Somchai
ปล. เงินยืดยุ่นของเราไม่เท่ากัน
เสกเงินเท่าไหร่ก็ได้ไปทำรัฐสวัสดิการ ≠ เงินยืดยุ่น อันนี้เขาเรียกว่าปล้นเงินอื่นโดยไม่ยินยอม
#Siamstr