journaling_our_journey on Nostr: ...
หลายคนมองว่า
.
เวลาที่มาหานักจิตวิทยา
.
นักจิตวิทยาจะชวนให้ “คิดบวก”
.
.
.
ยกตัวอย่างเช่น
.
สมมติว่าเราโดนแฟนทิ้ง
.
และเรามีความคิด “ฉันมันไร้ค่า” ผุดขึ้นมาในใจ
.
ส่งผลให้เรารู้สึกเสียใจมากๆ
.
.
.
ในตัวอย่างนี้
.
หลายคนเข้าใจว่า
.
นักจิตวิทยาจะชวนให้เราเปลี่ยนความคิด
.
จาก “ฉันไร้ค่า” เป็น “ฉันโคตรมีค่าสุดๆ”
.
.
.
จริงๆแล้ว นักจิตวิทยาไม่ได้ให้ความสำคัญกับการ “คิดบวก” เท่าไหร่นัก
.
เพราะต่อให้เราจะ "คิดบวก" ขนาดไหน
.
แต่ถ้าการ "คิดบวก" นั้น...มันคือการ "หลอกตัวเอง"
.
การ "คิดบวก" ดังกล่าว...ก็ไม่ได้ผลอยู่ดี
.
ด้วยเหตุนี้ นักจิตวิทยาจึงให้ความสำคัญกับการ “คิดตามความเป็นจริง” มากกว่าครับ
.
.
.
อย่างในกรณีของตัวอย่างข้างบน
.
สิ่งหนึ่งที่นักจิตวิทยาอาจจะทำ
.
คือการนำความคิด “ฉันไร้ค่า” มา “ขึ้นศาล”
.
.
.
ขั้นแรก
.
นักจิตวิทยาจะชวนให้เราพิจารณาดูว่า
.
มีหลักฐานอะไรบ้างที่สนับสนุนความคิด “ฉันไร้ค่า”
.
(เช่น แฟนทิ้งเราไป, เพื่อนร่วมงานโยนงานมาให้เราทำทุกวัน เป็นต้น)
.
.
.
ขั้นต่อไป
.
นักจิตวิทยาจะชวนให้เราพิจารณาดูว่า
.
มีหลักฐานอะไรบ้างที่คัดค้านความคิด “ฉันไร้ค่า”
.
(เช่น พ่อแม่พูดกับเราว่า “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พ่อกับแม่ก็ยังอยู่ตรงนี้เสมอ”, หัวหน้าเอ่ยปากชมเราในเรื่องของความขยันขันแข็งในการทำงาน, พอรู้ว่าเราโดนแฟนทิ้ง เพื่อนก็โทรศัพท์/ส่งข้อความมาให้กำลังใจเราหลายคน เป็นต้น)
.
.
.
หลังจากนั้น
.
นักจิตวิทยาก็จะชวนให้เราพิจารณาว่า
.
หลังจากที่ได้รวบรวมหลักฐานมาทั้งหมดแล้ว
.
ทั้งหลักฐานที่สนับสนุนและคัดค้านความคิด “ฉันไร้ค่า”
.
เราจะเปลี่ยนความคิด “ฉันไร้ค่า” ให้กลายเป็นอะไรที่สอดคล้องกับหลักฐานทั้งหมดดี
.
.
.
ถ้าเป็นกรณีของตัวอย่างข้างบน
.
เราก็อาจจะเปลี่ยนจาก “ฉันไร้ค่า”
.
ให้กลายเป็น “แฟนเก่าและเพื่อนร่วมงานอาจจะมีการปฏิบัติกับฉันราวกับว่าฉันไร้ค่า แต่ในสายตาของครอบครัว หัวหน้า และเพื่อนๆ ฉันยังมีค่าอยู่”
.
.
.
สังเกตดูนะครับว่า
.
นักจิตวิทยาไม่ได้ชวนให้เรา “คิดบวก”
.
แต่นักจิตวิทยาชวนให้เรา “คิดตามความเป็นจริง” มากกว่า
.
.
.
ใช่ครับ
.
การเปลี่ยนมา “คิดตามความเป็นจริง” นี้
.
ไม่ได้หมายความว่า…เราจะไม่เสียใจเลยแม้แต่นิดเดียว
.
.
.
เพราะนักจิตวิทยาก็ไม่ใช่เทวดา
.
เราไม่ได้วิเศษวิโสถึงขนาดที่จะ “ปัดเป่า” ความทุกข์ใจให้ “มลายหายไปเป็นปลิดทิ้ง” ได้
.
.
.
แต่อย่างน้อยที่สุด
.
ความเสียใจที่เชื่อมโยงกับความคิด “แฟนเก่าและเพื่อนร่วมงานอาจจะมีการปฏิบัติกับฉันราวกับว่าฉันไร้ค่า แต่ในสายตาของครอบครัว หัวหน้า และเพื่อนๆ ฉันยังมีค่าอยู่”
.
มันก็ไม่ได้เข้มข้นเท่ากับความเสียใจที่เชื่อมโยงกับความคิด “ฉันไร้ค่า”
.
.
.
นักจิตวิทยาอาจจะไม่สามารถ “ปัดเป่า” ความทุกข์ใจให้ “มลายหายไปเป็นปลิดทิ้ง” ได้
.
แต่เราสามารถ “บรรเทา” ความเข้มข้นของความทุกข์ใจได้ครับ
.
.
.
แหล่งอ้างอิง
https://doi.org/10.1002/9781118528563.wbcbt02
#siamstr #จิตวิทยา