Jakk Goodday on Nostr: ขอบคุณที่เมนชั่นถึงนะครับ.. ...
ขอบคุณที่เมนชั่นถึงนะครับ.. ประสบการณ์ตะกอนความคิดในบทความนี้ไม่มีในตำราเศรษฐศาสตร์ เป็นบุญของผู้ที่ได้ผ่านมาเจอ.. กรุณาอ่านจนจบและขอดเกร็ด
จริงๆ แล้วพี่ก็คล้ายๆ ผม แต่คงมีบางอย่างที่ต่างกันอยู่ ผมเป็นพวกไร้เพดานและฟลอร์ เป็นคนที่ชอบวิเคราะห์จนทะลุปรุโปร่งจึงตัดสินใจ แต่คนก็มีกคิดว่าผมผลีผลามใจเร็วด่วนได้ ..ผมคงคืดอะไรได้เร็วเกินไป
ด้วยเหตุนี้ครูประเภทเดียวที่ผมมี คนประเภทเดียวที่จะกล้าพอมาแนะนำผมในแนวสัจธรรม จริยธรรม ความฉลาดทางอารมณ์ หรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์อะไรทำนองนั้น
ผมพึ่งทำคาเฟ่มาหมาดๆ กับเพื่อนเมื่อปีกลาย (ขายหุ้นไปแล้วเนื่องจากไม่มีเวลาบริหาร จับปลาหลายมือไม่ไหว) ผมคิดในเชิงบูรณาการหลายชั้นเพื่อเลือกทำเลและกลยุทธ์ทั้งสั้น กลาง ยาว เนื่องจากผมผมเคยทำ Feasibility มาพอสมควร กระบวนการวางแผนนั้นจึงซับซ้อน (อยู่คนเดียว) ซึ่งคงอธิบายตรงนี้ไม่ไหว
ผมจะเหมือนหมอแปลก ที่ชอบนั่งทางในดูว่าใน 14 ล้านทางเลือก ผมจะชนะเกมนี้ด้วยโซลูชั่นไหน ชนะได้แบบไหน ชัยชนะพอหอมปากหอมคอหรือประเดี๋ยวประด๋าวผมจะปัดตกไปเลยแต่แรก หรือถ้ามันไม่มีหนทางที่ยั่งยืนมากพอ.. ผมก็แค่จะเปลี่ยนเรื่องไปทำอย่างอื่นเลย
อ่านมาถึงตรงนี้ก็คงรู้แล้วว่า เหตุผลแท้จริงที่ผมขายหุ้นร้านกาแฟคืออะไร..
เมื่อจ้องไปที่ทรัพยากรทั้งองคาพยพ ในหัวผมจะมองหาวิธีใช้มันให้สิ้นเปลืองน้อยที่สุด แต่ยังเสือกให้ผลลัพธ์ดีสุดๆ ถามว่าจำเป็นไหม.. ก็คงต้องบ้าระดับหนึ่งถึงจะเอาแต่คิดอะไรแบบนี้
บ่อยครั้งเหมือนกันที่ "ลงทุนให้ได้ขั้นต่ำ" ก็เป็นหนึ่งในแนวทางที่ผมเคยหยิบจับ พี่ได้อธิบายเชิงปฏิบัติไว้หมดแล้ว ผมขอข้ามไปเลยละกัน
มีสิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างชัดว่าเราเหมือนกัน คือ ขอลุยเองก่อน ขอเข้าใจมันด้วยตัวเอง และฉันอยากสร้างความแตกต่าง ฉันนอนไม่หลับถ้าต้องทำเหมือนคนอื่น
ขอตัดภาพไปที่ MBTI ซึ่งพี่ค่อนข้างแม่นเลยทีเดียว มันมีเรื่องที่ผมอยากแชร์เกี่ยวกับหัวข้อนี้
เรื่องนั้นก็คือ "เราวิวัฒน์ตัวเองได้" ถ้าเราเป็นคนที่ชอบขยับแข้งขยับขาอยู่ตลอดเวลา.. เราอยากเป็นอีกคนที่ดีกว่าเดิม ในทุกๆ ปีเราจะไม่เคยเหมือนเดิมเลย ดังตัวอย่างต่อไปนี้...
ในปี 2018 ผลทดสอบของผมออกมาแบบนี้ ซึ่งมันก็ค่อนข้างตรงกันตัวผมในตอนนั้น..
เรื่องน่าประหลาดก็คือ ในช่วงก่อนโควิดผมรับจ๊อบเป็น System analyst และ Software Architecture อยู่พอดี สิ่งแวดล้อมและพฤติการณ์ต่างๆ คงจะหล่อหลอมให้เป็นตัวเรา...
ต่อมาในปีแห่งโรคระบาด 2019 ที่ผมไปทำจ๊อบต่อที่ไหนไม่ได้นอกจากวางแผนครุ่นคิดและสั่งการจากบ้านผ่านทางอินเตอร์เน็ต..
ในเวลาปีเดียวเราเปลี่ยนไปเป็นอีกแบบ แม้จะแค่จาก P กลายเป็น J ก็ตาม.. นั่นก็คือวิวัฒนาการส่วนตัวแล้ว..
ผ่านเวลาโควิดอันเนิ่นนานมาหลายปี ผมเริ่มพาตัวเองเข้ามาในแวดวงบิตคอยน์ สิ่งต่างๆ ที่ได้พาลพบและช้อมลุกคลุกคลาน ประสบการณ์ที่ไหลบ่าเข้ามาได้เปลี่ยนตัวผมไปเป็นอีกแบบอย่างสิ้นเชิง จนกระทั่งนึกครึ้มไปลองทดสอบอีกครั้งในปี 2021
ผมคาอนข้างประหลาดใจกับผลการทดสอบครั้งนี้ เราที่เคยคิดว่าตนเป็นพวก Introvert มาโดยตลอด คิดยังไงก็จินตนาการไม่ออกว่าตูกลายเป็น Extro ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วไอ้ Campaigner สี่มันคืออะไรเหรอ?
ผมไม่รู้ว่าตัวเองได้กลายเป็นคนแบบใหม่ไปแล้ว จนกระทั่งวันนี้ จากผลลัพธ์ต่างๆ ที่ปรากฏ ผมจึงเข้าใจความหมายของ ENFP ได้อย่างลึกซึ้ง.. พี่คิดว่าผมเหมือน ENFP สักนิดบ้างไหม?
นอกจากนี้ผมยังนึกสนุกไปลองทำแบบทดสอบของ Ray Dario ด้วย.. ซึ่งบททดสอบห่าอะไร ทำนานมากยังกะสอบเอนทรานซ์.. ผลที่ได้คือ..
ตั้งแต่นั้นมาผมก็ยังไม่ได้ทดสอบอีกเลย ซึ่งผมผ่านเรื่องราวบิตคอยน์มาสารพัดอย่าง.. น่าสนุก
วันนี้ผมจะกลายเป็นอะไรไปแล้วนะ?
จริงๆ แล้วพี่ก็คล้ายๆ ผม แต่คงมีบางอย่างที่ต่างกันอยู่ ผมเป็นพวกไร้เพดานและฟลอร์ เป็นคนที่ชอบวิเคราะห์จนทะลุปรุโปร่งจึงตัดสินใจ แต่คนก็มีกคิดว่าผมผลีผลามใจเร็วด่วนได้ ..ผมคงคืดอะไรได้เร็วเกินไป
ด้วยเหตุนี้ครูประเภทเดียวที่ผมมี คนประเภทเดียวที่จะกล้าพอมาแนะนำผมในแนวสัจธรรม จริยธรรม ความฉลาดทางอารมณ์ หรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์อะไรทำนองนั้น
ผมพึ่งทำคาเฟ่มาหมาดๆ กับเพื่อนเมื่อปีกลาย (ขายหุ้นไปแล้วเนื่องจากไม่มีเวลาบริหาร จับปลาหลายมือไม่ไหว) ผมคิดในเชิงบูรณาการหลายชั้นเพื่อเลือกทำเลและกลยุทธ์ทั้งสั้น กลาง ยาว เนื่องจากผมผมเคยทำ Feasibility มาพอสมควร กระบวนการวางแผนนั้นจึงซับซ้อน (อยู่คนเดียว) ซึ่งคงอธิบายตรงนี้ไม่ไหว
ผมจะเหมือนหมอแปลก ที่ชอบนั่งทางในดูว่าใน 14 ล้านทางเลือก ผมจะชนะเกมนี้ด้วยโซลูชั่นไหน ชนะได้แบบไหน ชัยชนะพอหอมปากหอมคอหรือประเดี๋ยวประด๋าวผมจะปัดตกไปเลยแต่แรก หรือถ้ามันไม่มีหนทางที่ยั่งยืนมากพอ.. ผมก็แค่จะเปลี่ยนเรื่องไปทำอย่างอื่นเลย
อ่านมาถึงตรงนี้ก็คงรู้แล้วว่า เหตุผลแท้จริงที่ผมขายหุ้นร้านกาแฟคืออะไร..
เมื่อจ้องไปที่ทรัพยากรทั้งองคาพยพ ในหัวผมจะมองหาวิธีใช้มันให้สิ้นเปลืองน้อยที่สุด แต่ยังเสือกให้ผลลัพธ์ดีสุดๆ ถามว่าจำเป็นไหม.. ก็คงต้องบ้าระดับหนึ่งถึงจะเอาแต่คิดอะไรแบบนี้
บ่อยครั้งเหมือนกันที่ "ลงทุนให้ได้ขั้นต่ำ" ก็เป็นหนึ่งในแนวทางที่ผมเคยหยิบจับ พี่ได้อธิบายเชิงปฏิบัติไว้หมดแล้ว ผมขอข้ามไปเลยละกัน
มีสิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างชัดว่าเราเหมือนกัน คือ ขอลุยเองก่อน ขอเข้าใจมันด้วยตัวเอง และฉันอยากสร้างความแตกต่าง ฉันนอนไม่หลับถ้าต้องทำเหมือนคนอื่น
ขอตัดภาพไปที่ MBTI ซึ่งพี่ค่อนข้างแม่นเลยทีเดียว มันมีเรื่องที่ผมอยากแชร์เกี่ยวกับหัวข้อนี้
เรื่องนั้นก็คือ "เราวิวัฒน์ตัวเองได้" ถ้าเราเป็นคนที่ชอบขยับแข้งขยับขาอยู่ตลอดเวลา.. เราอยากเป็นอีกคนที่ดีกว่าเดิม ในทุกๆ ปีเราจะไม่เคยเหมือนเดิมเลย ดังตัวอย่างต่อไปนี้...
ในปี 2018 ผลทดสอบของผมออกมาแบบนี้ ซึ่งมันก็ค่อนข้างตรงกันตัวผมในตอนนั้น..
เรื่องน่าประหลาดก็คือ ในช่วงก่อนโควิดผมรับจ๊อบเป็น System analyst และ Software Architecture อยู่พอดี สิ่งแวดล้อมและพฤติการณ์ต่างๆ คงจะหล่อหลอมให้เป็นตัวเรา...
ต่อมาในปีแห่งโรคระบาด 2019 ที่ผมไปทำจ๊อบต่อที่ไหนไม่ได้นอกจากวางแผนครุ่นคิดและสั่งการจากบ้านผ่านทางอินเตอร์เน็ต..
ในเวลาปีเดียวเราเปลี่ยนไปเป็นอีกแบบ แม้จะแค่จาก P กลายเป็น J ก็ตาม.. นั่นก็คือวิวัฒนาการส่วนตัวแล้ว..
ผ่านเวลาโควิดอันเนิ่นนานมาหลายปี ผมเริ่มพาตัวเองเข้ามาในแวดวงบิตคอยน์ สิ่งต่างๆ ที่ได้พาลพบและช้อมลุกคลุกคลาน ประสบการณ์ที่ไหลบ่าเข้ามาได้เปลี่ยนตัวผมไปเป็นอีกแบบอย่างสิ้นเชิง จนกระทั่งนึกครึ้มไปลองทดสอบอีกครั้งในปี 2021
ผมคาอนข้างประหลาดใจกับผลการทดสอบครั้งนี้ เราที่เคยคิดว่าตนเป็นพวก Introvert มาโดยตลอด คิดยังไงก็จินตนาการไม่ออกว่าตูกลายเป็น Extro ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วไอ้ Campaigner สี่มันคืออะไรเหรอ?
ผมไม่รู้ว่าตัวเองได้กลายเป็นคนแบบใหม่ไปแล้ว จนกระทั่งวันนี้ จากผลลัพธ์ต่างๆ ที่ปรากฏ ผมจึงเข้าใจความหมายของ ENFP ได้อย่างลึกซึ้ง.. พี่คิดว่าผมเหมือน ENFP สักนิดบ้างไหม?
นอกจากนี้ผมยังนึกสนุกไปลองทำแบบทดสอบของ Ray Dario ด้วย.. ซึ่งบททดสอบห่าอะไร ทำนานมากยังกะสอบเอนทรานซ์.. ผลที่ได้คือ..
ตั้งแต่นั้นมาผมก็ยังไม่ได้ทดสอบอีกเลย ซึ่งผมผ่านเรื่องราวบิตคอยน์มาสารพัดอย่าง.. น่าสนุก
วันนี้ผมจะกลายเป็นอะไรไปแล้วนะ?