Jackie_LoveReading on Nostr: ทุกวันนี้... ...
ทุกวันนี้... เราเริ่มต้นติดกระดุมเม็ดแรกที่อาจจะผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง
เรามองที่ผลลัพธ์ และใส่ใจกับผลตอบแทนมากกว่า “การเรียนรู้”
ในระยะสั้นนั้น เราอาจจะพึงพอใจ
แต่...
ระยะที่ยาวขึ้น บางทีกว่าเราจะตระหนักว่า “สูญเสียคุณค่าของช่วงเวลาแห่งการค้นหาตัวตนและเลือกในเส้นทางที่อยากเดินไป”
ใช่แหละที่... เราจำเป็นต้องหางานที่มั่นคง เพราะเรามีภาระมากมาย
แต่เอาเข้าจริง
การค่อยๆ ซึมซับและเรียนรู้ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ก็สำคัญไม่แพ้เงื่อนไขข้อแรกที่เราวางเอาไว้
”เราต่างคือนักสร้างสรรค์“ เล่มนี้จะพาให้เราดำดิ่งไปกับข้อคิดและวิธีการสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่จำกัดว่า “จะต้องเป็นงานศิลปะเท่านั้น” เพราะการทำความเข้าใจและเปิดรับสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาเป็นสิ่งสำคัญ
เมื่อเราไม่ตั้งเงื่อนไข เราจะไม่มีกรอบความคิดใดที่ทำให้เรายึดติด ความคิดและวิธีการของเราจะกว้างขึ้น ซึ่งนั่นเองที่จะพาให้เรา “เข้าใจ” บริบทรอบข้างได้ดีขึ้น
ขณะเดียวกัน
การทำงานที่ประสบกับปัญหาต่างๆ อาจจะกดดันเราจนไม่สามารถคิดค้น หรือนำเสนองานได้ วิธีการที่จะช่วยแก้ไขเงื่อนปมนี้ก็คือ
(1) แบ่งปัญหาออกเป็นส่วนๆ และแก้ไขส่วนที่ง่ายที่สุดก่อน
(2) ถอยหลังออกมา เพื่อพาตัวเราออกจากปัญหา และมองภาพกว้างได้ดีขึ้น การมองเห็นปัญหาจากจุดที่ไกลนั้น ทำให้เราค้นหาวิธีแก้ไขได้ตรงจุดกว่า
อีกเรื่องที่น่าสนใจ เรามักยึดติดกับความสำเร็จที่ผ่านมา โดยกอดเอา “วิธีการที่ใช้” และนำมาเป็นตัวเลือกแรกสำหรับงานถัดๆ มาเสมอ แต่... พอได้ใช้จริง เราก็พบว่า “มีหลากหลายจุดที่ทำให้เราเหนื่อยกว่าเดิม” เพราะเราต้องปรับแต่งให้ทุกอย่างเข้ากับวิธีการของเรา ทำให้งานก็ช้า และผลลัพธ์ก็ไม่น่าพอใจ
ดังนั้น สิ่งที่ดีกว่าก็คือ “วิธีการ” เป็นของตายตัว เราต่างหากที่ทำมันให้สำเร็จ จงเลือกให้วิธีการที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับคนและสภาพแวดล้อมในแต่ละขณะ เพื่อให้งานและผลลัพธ์สัมฤทธิผล
ที่สำคัญ
อาการยึดติดกับความสำเร็จนั้นน่ากลัวมาก เพราะมันจะทำให้เราไม่กล้าที่จะไปต่อกับงานถัดไป ความสำเร็จที่แบกไว้มันค้ำ... เราไม่ให้ก้าวหน้า สิ่งที่พอจะเป็นช่วยให้เราไม่เจอกับรูปแบบความคิดลักษณะนี้ก็คือ “พยายามทำตัวให้สดใหม่เสมอ” ทุกงานเป็นการเรียนรู้ใหม่ตลอด
ถ้าเราจะหายใจเข้า เราก็ต้องหายใจออกก่อน การวางความสำเร็จที่ผ่านมาไว้ แล้วก้าวต่อไปอาจจะง่ายกว่าการแบกความสำเร็จไปมา
ทิ้งท้าย...
ไม่มีความสมบูรณ์แบบเกิดขึ้นจากความพยายามเติมสิ่งต่างๆ ลงไป เราทำให้มันสมบูรณ์ได้โดยการตัดสิ่งที่เกินและขาดทิ้งจน “ตัดหรือทิ้งต่อไป” ไม่ได้แล้ว
---
เป็นอีกเล่มที่ “แต่ละบท” สอนให้เรากลับมาตั้งแกนที่ถูกต้อง ไม่เอียงไปทางใดทางหนึ่ง เพราะทุกวินาทีคือการเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
#norstr #asknorstr #thailand #siamnorstr #introduction
เรามองที่ผลลัพธ์ และใส่ใจกับผลตอบแทนมากกว่า “การเรียนรู้”
ในระยะสั้นนั้น เราอาจจะพึงพอใจ
แต่...
ระยะที่ยาวขึ้น บางทีกว่าเราจะตระหนักว่า “สูญเสียคุณค่าของช่วงเวลาแห่งการค้นหาตัวตนและเลือกในเส้นทางที่อยากเดินไป”
ใช่แหละที่... เราจำเป็นต้องหางานที่มั่นคง เพราะเรามีภาระมากมาย
แต่เอาเข้าจริง
การค่อยๆ ซึมซับและเรียนรู้ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ก็สำคัญไม่แพ้เงื่อนไขข้อแรกที่เราวางเอาไว้
”เราต่างคือนักสร้างสรรค์“ เล่มนี้จะพาให้เราดำดิ่งไปกับข้อคิดและวิธีการสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่จำกัดว่า “จะต้องเป็นงานศิลปะเท่านั้น” เพราะการทำความเข้าใจและเปิดรับสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาเป็นสิ่งสำคัญ
เมื่อเราไม่ตั้งเงื่อนไข เราจะไม่มีกรอบความคิดใดที่ทำให้เรายึดติด ความคิดและวิธีการของเราจะกว้างขึ้น ซึ่งนั่นเองที่จะพาให้เรา “เข้าใจ” บริบทรอบข้างได้ดีขึ้น
ขณะเดียวกัน
การทำงานที่ประสบกับปัญหาต่างๆ อาจจะกดดันเราจนไม่สามารถคิดค้น หรือนำเสนองานได้ วิธีการที่จะช่วยแก้ไขเงื่อนปมนี้ก็คือ
(1) แบ่งปัญหาออกเป็นส่วนๆ และแก้ไขส่วนที่ง่ายที่สุดก่อน
(2) ถอยหลังออกมา เพื่อพาตัวเราออกจากปัญหา และมองภาพกว้างได้ดีขึ้น การมองเห็นปัญหาจากจุดที่ไกลนั้น ทำให้เราค้นหาวิธีแก้ไขได้ตรงจุดกว่า
อีกเรื่องที่น่าสนใจ เรามักยึดติดกับความสำเร็จที่ผ่านมา โดยกอดเอา “วิธีการที่ใช้” และนำมาเป็นตัวเลือกแรกสำหรับงานถัดๆ มาเสมอ แต่... พอได้ใช้จริง เราก็พบว่า “มีหลากหลายจุดที่ทำให้เราเหนื่อยกว่าเดิม” เพราะเราต้องปรับแต่งให้ทุกอย่างเข้ากับวิธีการของเรา ทำให้งานก็ช้า และผลลัพธ์ก็ไม่น่าพอใจ
ดังนั้น สิ่งที่ดีกว่าก็คือ “วิธีการ” เป็นของตายตัว เราต่างหากที่ทำมันให้สำเร็จ จงเลือกให้วิธีการที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับคนและสภาพแวดล้อมในแต่ละขณะ เพื่อให้งานและผลลัพธ์สัมฤทธิผล
ที่สำคัญ
อาการยึดติดกับความสำเร็จนั้นน่ากลัวมาก เพราะมันจะทำให้เราไม่กล้าที่จะไปต่อกับงานถัดไป ความสำเร็จที่แบกไว้มันค้ำ... เราไม่ให้ก้าวหน้า สิ่งที่พอจะเป็นช่วยให้เราไม่เจอกับรูปแบบความคิดลักษณะนี้ก็คือ “พยายามทำตัวให้สดใหม่เสมอ” ทุกงานเป็นการเรียนรู้ใหม่ตลอด
ถ้าเราจะหายใจเข้า เราก็ต้องหายใจออกก่อน การวางความสำเร็จที่ผ่านมาไว้ แล้วก้าวต่อไปอาจจะง่ายกว่าการแบกความสำเร็จไปมา
ทิ้งท้าย...
ไม่มีความสมบูรณ์แบบเกิดขึ้นจากความพยายามเติมสิ่งต่างๆ ลงไป เราทำให้มันสมบูรณ์ได้โดยการตัดสิ่งที่เกินและขาดทิ้งจน “ตัดหรือทิ้งต่อไป” ไม่ได้แล้ว
---
เป็นอีกเล่มที่ “แต่ละบท” สอนให้เรากลับมาตั้งแกนที่ถูกต้อง ไม่เอียงไปทางใดทางหนึ่ง เพราะทุกวินาทีคือการเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
#norstr #asknorstr #thailand #siamnorstr #introduction