BeYourCyber on Nostr: 1. ก่อนอื่น ...
1. ก่อนอื่น ขอบคุณนะครับที่เชิญชวนเข้าร่วมเผยแพร่ใน rightshift และผมก็เห็นชัดเจน ว่าปัจจุบัน rightshift นั้นมีผู้เชี่ยวชาญอยู่มากมาย และมีเนื้อหาเกี่ยวกับ Bitcoin มากที่สุดในไทยแล้ว อันนี้เป็นข้อเท็จจริง ที่สิ้นสงสัยแน่นอน
2. เมื่อคืนก่อน ผมกลับไปทบทวนทั้งคืน ว่าสิ่งที่ผมทำนั้นถูกหรือผิดอย่างไร มีสิ่งที่กวนใจผม คือคำถามที่ว่า
- เราให้ความรู้อย่างบริสุทธิ์ใจ เน้นที่การให้ มากกว่าส่วนเล็กๆ ที่ต้องใช้ reach เพื่อแลก แต่กลับโดนมองว่าลอก content เพียงเพราะมีคนเขียนมาก่อนในเรื่องเดียวกัน เพื่อเอามาหาผลประโยชน์ ทั้งที่เราไม่ได้ทำ เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้นั้นขึ้น เราควรทำต่อไปหรือไม่ เพราะเราทำไปก็ไม่สบายใจ คนอื่นก็ไม่สบายใจ และผลตอบแทนเหล่านั้นไม่มีทางคุ้มค่าความรู้สึกใดๆที่เสียไป
- ถ้ามีบทความภาษาไทย ที่เกี่ยวกับ tails os ขึ้นมาอีกจะต้อง ref rightshift ตลอดไป เหมือนอย่างว่า rightshift เป็นเจ้าของเนื้อหาแต่เพียงผู้เดียวแล้ว หรืออย่างไร ทั้งที่ไม่ได้ลอก หรือได้ idea มาเลยก็ตาม
เป็นสิ่งที่กวนใจผมมาก เพราะจากที่เห็นใน comment ทั้งคุณและท่านอื่น ทำให้ผมคิดว่าเป็นอย่างนั้นอย่าง
3. ทำไมจึงไม่ควร ให้ความรู้ในเรื่องของ Bitcoin แบบ อิสระ จากหลากหลายผู้คน แต่กลับพยายามรวมศูนย์กลับมาที่ rightshift เท่านั้นล่ะ?
ผมมองว่าทุกคนมีอิสระที่จะพูด (และใช่ ควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ในสิ่งที่ตัวเองพูดด้วย) การให้ความรู้จากพื้นที่ที่หลากหลาย คนที่หลากหลาย และช่วยเหลือส่งเสริมกัน โต้แย้งกันได้ เปิดใจคุยกัน น่าจะดีกว่า
เป็นความจริง ความรู้บางเรื่องที่เผยแพร่ที่อื่น อาจจะไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง และเป็นความจริงว่าที่ rightshift มีผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างเข้มข้นก่อนเผยแพร่ ทุกเนื้อหา แต่ผมมองว่า หากเกิดความรู้ที่ไหนที่ไม่ถูกต้องแล้ว เราแค่ช่วยกันให้ความรู้ แบ่งปันกัน โดยทักกัน และอธิบายกันดีๆ แนะนำกัน ผมว่าแบบนี้น่าจะดีกว่ารึเปล่า ผมอาจจะโลกสวยไปหน่อย
มากกว่าจะดึงกลับมาควบคุม และผมมองว่าแบบนั้นจะดูสร้างสรรค์และน่าอยู่ กว่ามากเลย
เพราะถ้ารวมศูนย์กลับมา rightshift ก็คือ centralized company (ตามที่ผมเข้าใจ ก็จดเป็นบริษัทนะ) ที่ผมมองว่าเริ่มทำตัวเป็นเจ้าของพื้นที่ Bitcoin ในภาษาไทย แต่เพียงผู้เดียว ถ้าคุณไม่คิด แต่คนนอกอย่างผม คิดนะ เหมือนกับที่คุณมองได้ว่า ผมเขียน content โดยอิง idea จาก rightshift มา เพื่อหาแสง หรือหาผลประโยชน์ แฝง ทั้งที่ความเป็นจริง ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ฉันใดฉันนั้น
4. ฟังดูเหมือนผมเปิดศึกกับ rightshift นะ ที่พูดขนาดนี้ แต่ก็เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าผมก็มีสิทธิ์ ที่จะพูด และตั้งคำถามเหมือนกัน แต่ใจจริงไม่อยากเปิดศึกอะไรเลย เอาเวลาไปใช้ชีวิตกันเถอะ เราควรจะใช้ชีวิตที่ดีๆกันทุกๆคน
แต่ผมก็คิดไปแล้วแหล่ะ ว่าหลังจากนี้ ผมจะเขียนถึง Bitcoin เป็นภาษาไทยเพื่อเผยแพร่ในช่องทางของผม อีกเรื่องเดียวเท่านั้น คือ Understanding Bitcoin: Challenges and Misconceptions ทั้ง 3 episodes เพราะได้เคยสัญญากับตัวเองและหลายคนเอาไว้แล้ว รวมทั้งเขียนเสร็จหมดแล้ว และแน่นอน ผมก็ไม่คิดว่ามันจะถูกต้อง 100% เอาเป็นว่าเท่าที่องค์ความรู้ผมมีในปัจจุบัน
ครั้งนี้ผมก็ยินดีว่าจะเกิดการช่วยกันสร้างสรรค์ ต่อ และแก้ไขในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อย่างสวยงาม เพราะผมก็จะได้เรียนรู้ต่อไปด้วยเช่นกัน แต่... ถึงจะไม่เป็นอย่างนั้น และไปเจอแขวนหรือแขวะแทน ผมก็คงต้องหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อแก้ไขให้ถูกต้องต่อไปอยู่ดี เพราะคงห้ามใครไม่ได้ ผมยอมรับเรื่องความแตกต่างตรงนั้น
ที่ตัดสินใจแบบนั้น เพราะเห็นว่าไม่คุ้มเลย ที่เราทำอยู่แบบนี้ แล้วก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ศุ้ไปใช้ชีวิตเราให้ดีๆ แบบที่เราอยากใช้ดีกว่า ทุกคนก็ควรจะเป็นอย่างนั้นด้วยเช่นกัน
ต่อจากนี้ก็ต้องฝาก และเป็นกำลังใจให้ rightshift ให้เดินหน้าเหมือนอย่างที่เป็นมาต่อไป และผมก็ยังติดตามต่อเหมือนเดิมแน่นอน
ขอฝากคนอื่น ที่จะเขียนถึง Bitcoin เป็นภาษาไทย ให้เอาเหตุการณ์ ครั้งนี้เป็นตัวอย่าง และคิดให้ดีๆก่อนที่จะลุกขึ้นมาเขียนเพื่อให้ความรู้ในเรื่อง Bitcoin เป็นภาษาไทย ว่า check rightshift ก่อนทุกครั้ง ถ้ามีเนื้อหาเหมือน หรือใกล้เคียงกัน อย่าเขียน เพื่อป้องกันสถานการณ์ แบบนี้อีก
5. การบ้านข้อแรก ผมตรวจสอบแล้วนะครับTails OS USB Live หรือ DVD Live ไม่มีการเขียนข้อมูลอะไรตลอด session ลงใน flash drive ทั้งสิ้น ทั้งหมด load จาก USB drive เข้าใน RAM และทำงานบน RAM ทั้งหมด (ไม่อย่างนั้น DVD version คงทำงานไม่ได้เพราะ read only, แต่เราคงไม่ต้องหา DVD version มาใช้กันใช่มั้ย? ) และหลังจากการ shutdown ก็มีกระบวนการ PELD เพื่อล้างข้อมูลเกือบทั้งหมด หรืออย่างน้อยสิ่งสำคัญทั้งหลายออกไปด้วย เพื่อป้องกัน cold boot attack ซึ่งมีมาตั้งแต่ design เลย อ้างอิง https://tails.net/contribute/design/
ดังนั้นสิ่งที่ผมคิด และบทความที่เขียนแบบนั้น ถูกต้องแล้วตามที่ผมคิดตั้งแต่แรก มีความปลอดภัยเพียงพอแล้ว และไม่ยากเกินความจำเป็นสำหรับผู้อ่าน
และตรวจสอบแล้วว่า solution ที่ผมได้เขียนนั้น ยังอยู่บนมาตรฐานที่ใช้งานได้จริง และยังยอมรับได้ในปัจจุบันอีกด้วย ผมยังไม่เจอว่า Electrum wallet มี security threat ในเรื่องใดโดยเฉพาะ seed words
6. เรื่องการทำเรื่องยากให้เข้าใจง่าย หรือ "ถ้าเข้าใจเรื่องยากที่ถูกต้องไม่ได้ก็ไม่ต้องทำเลย ไปซื้อสำเร็จเลยดีกว่า" ผมยังมองต่างนะ
เพราะผมต้องขอบคุณหลายคน หลายบทความ ใน internet ที่ได้แปลงเรื่องยากให้เข้าใจง่าย ทำให้คนอย่างผมจากที่ไม่รู้เรื่อง เริ่มเข้าใจ และเริ่มลงลึกลงไปเรื่อยๆ ไปต่อยอดได้ด้วยตัวเองเมื่อต้องการ (ไม่ใช่แค่เรื่อง Bitcoin แต่หมายถึงองค์ความรู้ในทุกๆเรื่อง)
เพราะผมไม่ใช่คนเก่ง ที่จะต้อง do it hard way เสมอ ยอมรับตรงๆเลย และหลายเรื่อง หลายครั้งที่เริ่มต้นแบบ hard way ผมจะท้อแ ละเลิกศึกษาไปเลย เพราะผมคิดว่าเรื่องนั้นมันเกินความสามารถของเราเกินไป ผมจึงพยายามเขียนให้คนแบบผมในอดีต มาอ่านแล้วเรียนรู้ เข้าใจ เพื่อต่อยอดได้ ผมยังเชื่อแบบนั้นอยู่ และนั่นคือความตั้งใจ รวมทั้งยังเป็นสิ่งที่ยึดถือด้วย ผมเชื่อว่าคนแบบผมยังมีอีกเยอะ ที่ไม่เข้าใจในเรื่องยากๆได้ตั้งแต่ตอนเริ่มต้น เพราะสุดท้ายคนที่เค้าไปต่อยอด และเก่งกว่าผม จนสำเร็จก็มีมากมาย ที่เค้ากลับมาขอบคุณที่ผมอธิบายเรื่องยากให้ดูง่ายในตอนที่เค้าเริ่มต้นในตอนนั้น
แต่ใช่ เราต้องไม่ชุ่ย ให้ความรู้แบบมั่วซั่ว แบบผิดทางหลงเข้าป่า แล้วบอกว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้อง อันนี้ผมก็รับไม่ได้เหมือนกัน และไม่คิดว่าจะทำแบบนั้นด้วย
7. ผมกลับมา publish content อีกครั้ง เพราะตรวจสอบแล้วว่าไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างที่มีข้อพิจารณาแต่อย่างใด และในส่วนของ Seed phrase ผมได้เพิ่มเติมเพื่อแยกว่า ว่า Electrum standard นั้นมีข้อดีข้อเสียแตกต่างจาก BIP39 อย่างไรในเนื้อหา เพื่อป้องกันผู้ใช้สับสน
8. เพื่อให้สบายใจ ว่าได้ถูก ref บทความ ถึง rightshift แล้ว ผมได้เขียนเพิ่มเติม สำหรับใครต้องการ สร้าง seed words ของตัวเองแบบไม่อิงกับ Electrum standard แต่ใช้ BIP39 แทนบน Elecrtrum ให้อ่านจากทาง rightshift ได้โดยตรง เพราะผมก็ไม่เห็นประโยชน์ที่จะเขียนซ้ำในจุดนี้ขึ้นมา แต่ผมจะไม่ ref บทความเรื่องการสร้าง secure drive บน Tails OS เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องทำให้ยุ่งยาก และกลับเป็น interface ที่เพิ่มความเสี่ยงเพิ่มขึ้นได้ อันเนื่องมาจากถูก physical attack และนำไป reverse engineer เพื่อ crack encrypt drive ออก (แม้จะมีโอกาสน้อยก็ตาม)
ขอบคุณครับ
2. เมื่อคืนก่อน ผมกลับไปทบทวนทั้งคืน ว่าสิ่งที่ผมทำนั้นถูกหรือผิดอย่างไร มีสิ่งที่กวนใจผม คือคำถามที่ว่า
- เราให้ความรู้อย่างบริสุทธิ์ใจ เน้นที่การให้ มากกว่าส่วนเล็กๆ ที่ต้องใช้ reach เพื่อแลก แต่กลับโดนมองว่าลอก content เพียงเพราะมีคนเขียนมาก่อนในเรื่องเดียวกัน เพื่อเอามาหาผลประโยชน์ ทั้งที่เราไม่ได้ทำ เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้นั้นขึ้น เราควรทำต่อไปหรือไม่ เพราะเราทำไปก็ไม่สบายใจ คนอื่นก็ไม่สบายใจ และผลตอบแทนเหล่านั้นไม่มีทางคุ้มค่าความรู้สึกใดๆที่เสียไป
- ถ้ามีบทความภาษาไทย ที่เกี่ยวกับ tails os ขึ้นมาอีกจะต้อง ref rightshift ตลอดไป เหมือนอย่างว่า rightshift เป็นเจ้าของเนื้อหาแต่เพียงผู้เดียวแล้ว หรืออย่างไร ทั้งที่ไม่ได้ลอก หรือได้ idea มาเลยก็ตาม
เป็นสิ่งที่กวนใจผมมาก เพราะจากที่เห็นใน comment ทั้งคุณและท่านอื่น ทำให้ผมคิดว่าเป็นอย่างนั้นอย่าง
3. ทำไมจึงไม่ควร ให้ความรู้ในเรื่องของ Bitcoin แบบ อิสระ จากหลากหลายผู้คน แต่กลับพยายามรวมศูนย์กลับมาที่ rightshift เท่านั้นล่ะ?
ผมมองว่าทุกคนมีอิสระที่จะพูด (และใช่ ควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ในสิ่งที่ตัวเองพูดด้วย) การให้ความรู้จากพื้นที่ที่หลากหลาย คนที่หลากหลาย และช่วยเหลือส่งเสริมกัน โต้แย้งกันได้ เปิดใจคุยกัน น่าจะดีกว่า
เป็นความจริง ความรู้บางเรื่องที่เผยแพร่ที่อื่น อาจจะไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง และเป็นความจริงว่าที่ rightshift มีผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างเข้มข้นก่อนเผยแพร่ ทุกเนื้อหา แต่ผมมองว่า หากเกิดความรู้ที่ไหนที่ไม่ถูกต้องแล้ว เราแค่ช่วยกันให้ความรู้ แบ่งปันกัน โดยทักกัน และอธิบายกันดีๆ แนะนำกัน ผมว่าแบบนี้น่าจะดีกว่ารึเปล่า ผมอาจจะโลกสวยไปหน่อย
มากกว่าจะดึงกลับมาควบคุม และผมมองว่าแบบนั้นจะดูสร้างสรรค์และน่าอยู่ กว่ามากเลย
เพราะถ้ารวมศูนย์กลับมา rightshift ก็คือ centralized company (ตามที่ผมเข้าใจ ก็จดเป็นบริษัทนะ) ที่ผมมองว่าเริ่มทำตัวเป็นเจ้าของพื้นที่ Bitcoin ในภาษาไทย แต่เพียงผู้เดียว ถ้าคุณไม่คิด แต่คนนอกอย่างผม คิดนะ เหมือนกับที่คุณมองได้ว่า ผมเขียน content โดยอิง idea จาก rightshift มา เพื่อหาแสง หรือหาผลประโยชน์ แฝง ทั้งที่ความเป็นจริง ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ฉันใดฉันนั้น
4. ฟังดูเหมือนผมเปิดศึกกับ rightshift นะ ที่พูดขนาดนี้ แต่ก็เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าผมก็มีสิทธิ์ ที่จะพูด และตั้งคำถามเหมือนกัน แต่ใจจริงไม่อยากเปิดศึกอะไรเลย เอาเวลาไปใช้ชีวิตกันเถอะ เราควรจะใช้ชีวิตที่ดีๆกันทุกๆคน
แต่ผมก็คิดไปแล้วแหล่ะ ว่าหลังจากนี้ ผมจะเขียนถึง Bitcoin เป็นภาษาไทยเพื่อเผยแพร่ในช่องทางของผม อีกเรื่องเดียวเท่านั้น คือ Understanding Bitcoin: Challenges and Misconceptions ทั้ง 3 episodes เพราะได้เคยสัญญากับตัวเองและหลายคนเอาไว้แล้ว รวมทั้งเขียนเสร็จหมดแล้ว และแน่นอน ผมก็ไม่คิดว่ามันจะถูกต้อง 100% เอาเป็นว่าเท่าที่องค์ความรู้ผมมีในปัจจุบัน
ครั้งนี้ผมก็ยินดีว่าจะเกิดการช่วยกันสร้างสรรค์ ต่อ และแก้ไขในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อย่างสวยงาม เพราะผมก็จะได้เรียนรู้ต่อไปด้วยเช่นกัน แต่... ถึงจะไม่เป็นอย่างนั้น และไปเจอแขวนหรือแขวะแทน ผมก็คงต้องหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อแก้ไขให้ถูกต้องต่อไปอยู่ดี เพราะคงห้ามใครไม่ได้ ผมยอมรับเรื่องความแตกต่างตรงนั้น
ที่ตัดสินใจแบบนั้น เพราะเห็นว่าไม่คุ้มเลย ที่เราทำอยู่แบบนี้ แล้วก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ศุ้ไปใช้ชีวิตเราให้ดีๆ แบบที่เราอยากใช้ดีกว่า ทุกคนก็ควรจะเป็นอย่างนั้นด้วยเช่นกัน
ต่อจากนี้ก็ต้องฝาก และเป็นกำลังใจให้ rightshift ให้เดินหน้าเหมือนอย่างที่เป็นมาต่อไป และผมก็ยังติดตามต่อเหมือนเดิมแน่นอน
ขอฝากคนอื่น ที่จะเขียนถึง Bitcoin เป็นภาษาไทย ให้เอาเหตุการณ์ ครั้งนี้เป็นตัวอย่าง และคิดให้ดีๆก่อนที่จะลุกขึ้นมาเขียนเพื่อให้ความรู้ในเรื่อง Bitcoin เป็นภาษาไทย ว่า check rightshift ก่อนทุกครั้ง ถ้ามีเนื้อหาเหมือน หรือใกล้เคียงกัน อย่าเขียน เพื่อป้องกันสถานการณ์ แบบนี้อีก
5. การบ้านข้อแรก ผมตรวจสอบแล้วนะครับTails OS USB Live หรือ DVD Live ไม่มีการเขียนข้อมูลอะไรตลอด session ลงใน flash drive ทั้งสิ้น ทั้งหมด load จาก USB drive เข้าใน RAM และทำงานบน RAM ทั้งหมด (ไม่อย่างนั้น DVD version คงทำงานไม่ได้เพราะ read only, แต่เราคงไม่ต้องหา DVD version มาใช้กันใช่มั้ย? ) และหลังจากการ shutdown ก็มีกระบวนการ PELD เพื่อล้างข้อมูลเกือบทั้งหมด หรืออย่างน้อยสิ่งสำคัญทั้งหลายออกไปด้วย เพื่อป้องกัน cold boot attack ซึ่งมีมาตั้งแต่ design เลย อ้างอิง https://tails.net/contribute/design/
ดังนั้นสิ่งที่ผมคิด และบทความที่เขียนแบบนั้น ถูกต้องแล้วตามที่ผมคิดตั้งแต่แรก มีความปลอดภัยเพียงพอแล้ว และไม่ยากเกินความจำเป็นสำหรับผู้อ่าน
และตรวจสอบแล้วว่า solution ที่ผมได้เขียนนั้น ยังอยู่บนมาตรฐานที่ใช้งานได้จริง และยังยอมรับได้ในปัจจุบันอีกด้วย ผมยังไม่เจอว่า Electrum wallet มี security threat ในเรื่องใดโดยเฉพาะ seed words
6. เรื่องการทำเรื่องยากให้เข้าใจง่าย หรือ "ถ้าเข้าใจเรื่องยากที่ถูกต้องไม่ได้ก็ไม่ต้องทำเลย ไปซื้อสำเร็จเลยดีกว่า" ผมยังมองต่างนะ
เพราะผมต้องขอบคุณหลายคน หลายบทความ ใน internet ที่ได้แปลงเรื่องยากให้เข้าใจง่าย ทำให้คนอย่างผมจากที่ไม่รู้เรื่อง เริ่มเข้าใจ และเริ่มลงลึกลงไปเรื่อยๆ ไปต่อยอดได้ด้วยตัวเองเมื่อต้องการ (ไม่ใช่แค่เรื่อง Bitcoin แต่หมายถึงองค์ความรู้ในทุกๆเรื่อง)
เพราะผมไม่ใช่คนเก่ง ที่จะต้อง do it hard way เสมอ ยอมรับตรงๆเลย และหลายเรื่อง หลายครั้งที่เริ่มต้นแบบ hard way ผมจะท้อแ ละเลิกศึกษาไปเลย เพราะผมคิดว่าเรื่องนั้นมันเกินความสามารถของเราเกินไป ผมจึงพยายามเขียนให้คนแบบผมในอดีต มาอ่านแล้วเรียนรู้ เข้าใจ เพื่อต่อยอดได้ ผมยังเชื่อแบบนั้นอยู่ และนั่นคือความตั้งใจ รวมทั้งยังเป็นสิ่งที่ยึดถือด้วย ผมเชื่อว่าคนแบบผมยังมีอีกเยอะ ที่ไม่เข้าใจในเรื่องยากๆได้ตั้งแต่ตอนเริ่มต้น เพราะสุดท้ายคนที่เค้าไปต่อยอด และเก่งกว่าผม จนสำเร็จก็มีมากมาย ที่เค้ากลับมาขอบคุณที่ผมอธิบายเรื่องยากให้ดูง่ายในตอนที่เค้าเริ่มต้นในตอนนั้น
แต่ใช่ เราต้องไม่ชุ่ย ให้ความรู้แบบมั่วซั่ว แบบผิดทางหลงเข้าป่า แล้วบอกว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้อง อันนี้ผมก็รับไม่ได้เหมือนกัน และไม่คิดว่าจะทำแบบนั้นด้วย
7. ผมกลับมา publish content อีกครั้ง เพราะตรวจสอบแล้วว่าไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างที่มีข้อพิจารณาแต่อย่างใด และในส่วนของ Seed phrase ผมได้เพิ่มเติมเพื่อแยกว่า ว่า Electrum standard นั้นมีข้อดีข้อเสียแตกต่างจาก BIP39 อย่างไรในเนื้อหา เพื่อป้องกันผู้ใช้สับสน
8. เพื่อให้สบายใจ ว่าได้ถูก ref บทความ ถึง rightshift แล้ว ผมได้เขียนเพิ่มเติม สำหรับใครต้องการ สร้าง seed words ของตัวเองแบบไม่อิงกับ Electrum standard แต่ใช้ BIP39 แทนบน Elecrtrum ให้อ่านจากทาง rightshift ได้โดยตรง เพราะผมก็ไม่เห็นประโยชน์ที่จะเขียนซ้ำในจุดนี้ขึ้นมา แต่ผมจะไม่ ref บทความเรื่องการสร้าง secure drive บน Tails OS เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องทำให้ยุ่งยาก และกลับเป็น interface ที่เพิ่มความเสี่ยงเพิ่มขึ้นได้ อันเนื่องมาจากถูก physical attack และนำไป reverse engineer เพื่อ crack encrypt drive ออก (แม้จะมีโอกาสน้อยก็ตาม)
ขอบคุณครับ