miketoshi on Nostr: “รีวิวงาน Bitcoin Tokyo 2024 วันที่ 1“ ...
“รีวิวงาน Bitcoin Tokyo 2024 วันที่ 1“
พอได้เมื่อหลายเดือนก่อนว่าจะมีงาน Bitcoin Conference ที่โตเกี่ยว ในหัวก็มีแผนหาเรื่องเที่ยวญี่ปุ่นทันที ถ้าเข้าใจไม่ผิด นี่คืองาน BTC conference งานแรกของประเทศญี่ปุ่น สาเหตุที่อยากมางานนี้เพราะอยากมาสัมผัสบรรยากาศงาน Bitcoin conference ให้อิ่มๆ พอจัดต่อจาก conference ของไทยเลยก็เลยตัดสินใจไปต่อกันสองงานให้มันเต็มอิ่ม และก็ลุ้นว่า speaker ที่ญี่ปุ่นก็น่าจะหลากหลายและแตกต่างจากที่ไทยไปเป็นคนละแบบ
สถานที่จัดงานคือ ตึก Parco กลางเมืองชิบูย่า ชั้น 1-6 เป็นห้างสรรพสินค้า ส่วนสถานที่จัดงานคือชั้น 18 ที่เห็นวิวโตเกียว งานแบ่งเป็น 2 ห้อง ห้องใหญ่ประมาณ 400 ที่นั่ง ห้องเล็กประมาณ 50 ที่ โดยห้องใหญ่จะพูดภาษาญี่ปุ่น ไม่มีการแปล แต่มีการจัด English track ที่ห้องเล็ก โดยเนื้อหาจะไม่ซ้ำกัน ดังนั้นสิ่งที่สรุปมาก็จะมาจากการฟังห้อง Eng เป็นหลัก (ยกเว้น opening speech)
บรรยากาศในงานวันแรกไม่มีกิจกรรมเสริมใดๆ ดังนั้นส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นที่เห็นก็จะนั่งฟังกันในห้องประชุม และเพราะสถานที่ด้านนอกห้องประชุมที่จำกัด มีแต่ทางเดินเชื่อมระหว่างลิฟท์กับห้องประชุม ซึ่งจับกลุ่มเล็กๆพอได้ แต่พื้นที่แทบจะไม่มีเหลือให้ยืนจับกลุ่มใหญ่ๆ คุย ในส่วนของ Bitcoiners ชาวตะวันตก เนื่องจากห้อง Eng จะมีช่วงพักเยอะกว่า (เนื้อหาวันแรกดูน้อยกว่าของภาษาญี่ปุ่น) เลยจะเห็นจับกลุ่มคุยกันอยู่ในห้องประชุมในช่วงพักได้เรื่อยๆ ทุกคนดูถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดีนะ
ผมไปถึงงานไม่รู้จักใคร ใส่เสื้อลาย Orange pill ของ Right Shift ไป มีคนญี่ปุ่นมาทักผิดนึกว่าเราเป็นทีมงานของ RS คุยไปคุยมาเลยได้แลก Nostr กัน และก็ได้เจออ.ตั๊มกับพี่จิมในงาน ทำให้พอหายเขินเข้าไปร่วมวงสนทนากับ Bitconiers คนอื่นๆได้บ้าง ขอขอบคุณทั้งสองท่านไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
มาที่เนื้อหาบ้าง ได้ฟังไป 7 session เนื้อหาสรุปประมาณนี้
1. “Bitcoin is Signal” กล่าวเปิดงานโดย Koji Higashi หนึ่งในผู้จัดงานนี้ เนื้อหาเล่าความเป็นมาของ bitcoin และ cryptocurrency ในญีปุ่น เขาบอกทุกคนว่า altcoin ไม่ว่าตัวไหนมันมาแล้วก็ไป แต่บิทคอยน์ก็ยังคงเหมือนเดิม พวก hype ต่างๆ ของ altcoin เป็นเหมือน noise ที่เราจะต้องปิดมัน แล้วสนใจแต่ signal
2. “Japan’s Unique Bitcoin Ecosystem” เป็นพาเนล ที่มีสามคน ก็ถามตอบเรื่องประสบการณ์การทำงานด้าน bitcoin หรือ exchange ในประเทศญี่ปุ่น ประเด็นที่ถูกพูดถึงเยอะคือรัฐบาลญี่ปุ่นที่ความพยายามที่จะมาควบคุม crypto currency ที่มากเกินไปจนทำให้ exchange ในประเทศเสียเปรียบในการแข่งขันให้กับ exchange นอกประเทศ และเรื่องภาษีที่ญี่ปุ่นก็ดูเหมือนจะโหดกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งภาษี capital gain และภาษีมรดก แต่เรื่อง corporate capital gain tax กำลังเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ฟังใน sessiont ที่ 4 อีกข้อสังเกตนึงที่น่าสนใจคือ คนญี่ปุ่นไม่ถูกกับ toxic style ของ bitcoin maxi เพราะวัฒนธรรมญี่ปุ่นเน้นเรื่องความสุภาพนอบน้อม และอาจทำให้การถ่ายทอดอุดมการณ์ของ bitcoin ทำได้ยากขึ้นบ้าง
3. “Bitcoin-Dollar without Tokens” - หัวข้อนี้ technical อาจจะสรุปผิดๆถูกๆ ได้ครับ คนบรรยายมีไอเดียที่จะพัฒนา lightning channel ให้กลายเป็น dollar channel โดยที่ไม่ต้องมี stable-coin บน lightning แต่ต้องอาศัยการ rebalance BTC ใน channel เมื่ออัตราแลกเปลี่ยน BTC-fiat เปลี่ยนไป อะไรประมาณนี้ (หากสนใจสามารถอ่านเพิ่มได้ที่ https://blog.nicolas-dorier.com/posts/bitcoin-dollar/) แต่ฟังแล้วรู้สึกว่า LATES ของพี่เดชาใช้ง่ายกว่าเยอะ :D
4. “Bitcoin Taxes in Japan” อัพเดทความก้าวหน้าในการเจรจาแก้ไขกฎหมายของญี่ปุ่นในการรับรู้กำไรขาดทุนของ crypto ทำให้บริษัทสามารถที่จะถือ bitcoin และ crypto ได้ง่ายขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามีการแก้กฎหมายไปแล้วสองครั้ง ภายในสองปี ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีของวงการ blockchain ของญี่ปุ่น เป็น session ที่ฟังแล้วรู้สึกว่าอยากให้แยกกฎหมายเกี่ยวกับ bitcoin กับ cypto อื่นๆออกจากกันจังเลย
5. “Bitcoin L2 Faceoff” น่าจะเป็น session ที่เดือดสุดของวัน ถึงขนาดที่คนมาดูเต็มห้อง เกิน 50 คน เยอะจนต้องไปยืนรอบๆห้องจนเต็ม เนื้อหาเป็นการจับผู้พัฒนา L2 สามค่ายอย่าง Liquid, RGB, Taproot มาคุยกัน ส่วนเนื้อหาสารภาพเลยว่าความรู้ไม่พอ และที่ช็อคคือเจอคนที่ตอบคำถามสดได้เร็วไฟแลบเหมือนกำลังเปิด YouTube ที่ความเร็ว 2x (Olaoluwa จาก Lightning Labs) ทั้งนี้ผู้บรรยายทั้งสามคนไม่ได้ฟาดฟันกันอย่างที่คนฟังอยากเห็นแต่อย่างใด session ยังได้เจอ Adam Back ที่เป็น bitcoiner OG ด้วย
6. “Lightning Devs AMA” อีกหนึ่ง technical session ที่ความรู้ไม่พอจะสรุปได้
7. “Bitcoin Playbook” เป็นการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ด้าน bitcoin ของ El Salvador กับ director ของ PlanB Network ที่อยู่ในเมืองเมืองหนึ่งในประเทศสวิส ซึ่งสิ่งที่ทั้งสองคนมีเหมือนกันคือ อยู่ในหน่วยงานที่ผลักดันให้การใช้งาน bitcoin เป็นรูปธรรม ซึ่งคนหนึ่งกำลังทำในระดับประเทศ ขณะที่อีกคนทำในระดับเทศบาลเมือง เป็นช่วงที่มีคำคมเด็ดๆ ออกมาหลายคำ อย่าง “Shitcoin brain cancer” (โรคร้ายที่ต้องหลีกเลี่ยง) หรือ “Shitcoin beauty contest” (ความ high-time ที่ต้องแต่งตัวให้สวยที่สุดเพื่อให้ระดมทุนได้เงินมากๆ) เป็น session ที่ต้องการจะแสดงให้เห็นว่า bitcoiner จะนำ Bitcoin ไปขยายผลในระดับชุมชนหรือเมืองได้อย่างไร
สรุปแล้ว เนื้อหาในวันแรกน่าจะมีสามเรื่องหลักคือ 1) ภาพ ecosystem ของ bitcoin ในญี่ปุ่น 2) technical ของ L2 และ 3) Bitcoin Strategy ซึ่งพอดูหัวข้อวันอาทิตย์แล้ว ของวันแรกดูเหมือนเป็นแค่การอุ่นเครื่อง ไว้มาดูกันว่าวันที่สองจะเป็นยังไงบ้าง
มางานแบบนี้ในต่างประเทศแล้วก็รู้สึกภูมิใจว่างานของไทยก็ดีไม่แพ้ใคร อยากขอขอบคุณทีมจัดงาน TBC2024 และผู้บรรยาย รวมทั้งเพื่อนๆ bitcoiner ที่ทำให้เมืองไทยก็มีงานดีๆแบบนี้เช่นกัน
(ภาพจากชั้น 18 สถานที่จัดงาน)
#siamstr #bitcointokyo2024
พอได้เมื่อหลายเดือนก่อนว่าจะมีงาน Bitcoin Conference ที่โตเกี่ยว ในหัวก็มีแผนหาเรื่องเที่ยวญี่ปุ่นทันที ถ้าเข้าใจไม่ผิด นี่คืองาน BTC conference งานแรกของประเทศญี่ปุ่น สาเหตุที่อยากมางานนี้เพราะอยากมาสัมผัสบรรยากาศงาน Bitcoin conference ให้อิ่มๆ พอจัดต่อจาก conference ของไทยเลยก็เลยตัดสินใจไปต่อกันสองงานให้มันเต็มอิ่ม และก็ลุ้นว่า speaker ที่ญี่ปุ่นก็น่าจะหลากหลายและแตกต่างจากที่ไทยไปเป็นคนละแบบ
สถานที่จัดงานคือ ตึก Parco กลางเมืองชิบูย่า ชั้น 1-6 เป็นห้างสรรพสินค้า ส่วนสถานที่จัดงานคือชั้น 18 ที่เห็นวิวโตเกียว งานแบ่งเป็น 2 ห้อง ห้องใหญ่ประมาณ 400 ที่นั่ง ห้องเล็กประมาณ 50 ที่ โดยห้องใหญ่จะพูดภาษาญี่ปุ่น ไม่มีการแปล แต่มีการจัด English track ที่ห้องเล็ก โดยเนื้อหาจะไม่ซ้ำกัน ดังนั้นสิ่งที่สรุปมาก็จะมาจากการฟังห้อง Eng เป็นหลัก (ยกเว้น opening speech)
บรรยากาศในงานวันแรกไม่มีกิจกรรมเสริมใดๆ ดังนั้นส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นที่เห็นก็จะนั่งฟังกันในห้องประชุม และเพราะสถานที่ด้านนอกห้องประชุมที่จำกัด มีแต่ทางเดินเชื่อมระหว่างลิฟท์กับห้องประชุม ซึ่งจับกลุ่มเล็กๆพอได้ แต่พื้นที่แทบจะไม่มีเหลือให้ยืนจับกลุ่มใหญ่ๆ คุย ในส่วนของ Bitcoiners ชาวตะวันตก เนื่องจากห้อง Eng จะมีช่วงพักเยอะกว่า (เนื้อหาวันแรกดูน้อยกว่าของภาษาญี่ปุ่น) เลยจะเห็นจับกลุ่มคุยกันอยู่ในห้องประชุมในช่วงพักได้เรื่อยๆ ทุกคนดูถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดีนะ
ผมไปถึงงานไม่รู้จักใคร ใส่เสื้อลาย Orange pill ของ Right Shift ไป มีคนญี่ปุ่นมาทักผิดนึกว่าเราเป็นทีมงานของ RS คุยไปคุยมาเลยได้แลก Nostr กัน และก็ได้เจออ.ตั๊มกับพี่จิมในงาน ทำให้พอหายเขินเข้าไปร่วมวงสนทนากับ Bitconiers คนอื่นๆได้บ้าง ขอขอบคุณทั้งสองท่านไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
มาที่เนื้อหาบ้าง ได้ฟังไป 7 session เนื้อหาสรุปประมาณนี้
1. “Bitcoin is Signal” กล่าวเปิดงานโดย Koji Higashi หนึ่งในผู้จัดงานนี้ เนื้อหาเล่าความเป็นมาของ bitcoin และ cryptocurrency ในญีปุ่น เขาบอกทุกคนว่า altcoin ไม่ว่าตัวไหนมันมาแล้วก็ไป แต่บิทคอยน์ก็ยังคงเหมือนเดิม พวก hype ต่างๆ ของ altcoin เป็นเหมือน noise ที่เราจะต้องปิดมัน แล้วสนใจแต่ signal
2. “Japan’s Unique Bitcoin Ecosystem” เป็นพาเนล ที่มีสามคน ก็ถามตอบเรื่องประสบการณ์การทำงานด้าน bitcoin หรือ exchange ในประเทศญี่ปุ่น ประเด็นที่ถูกพูดถึงเยอะคือรัฐบาลญี่ปุ่นที่ความพยายามที่จะมาควบคุม crypto currency ที่มากเกินไปจนทำให้ exchange ในประเทศเสียเปรียบในการแข่งขันให้กับ exchange นอกประเทศ และเรื่องภาษีที่ญี่ปุ่นก็ดูเหมือนจะโหดกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งภาษี capital gain และภาษีมรดก แต่เรื่อง corporate capital gain tax กำลังเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ฟังใน sessiont ที่ 4 อีกข้อสังเกตนึงที่น่าสนใจคือ คนญี่ปุ่นไม่ถูกกับ toxic style ของ bitcoin maxi เพราะวัฒนธรรมญี่ปุ่นเน้นเรื่องความสุภาพนอบน้อม และอาจทำให้การถ่ายทอดอุดมการณ์ของ bitcoin ทำได้ยากขึ้นบ้าง
3. “Bitcoin-Dollar without Tokens” - หัวข้อนี้ technical อาจจะสรุปผิดๆถูกๆ ได้ครับ คนบรรยายมีไอเดียที่จะพัฒนา lightning channel ให้กลายเป็น dollar channel โดยที่ไม่ต้องมี stable-coin บน lightning แต่ต้องอาศัยการ rebalance BTC ใน channel เมื่ออัตราแลกเปลี่ยน BTC-fiat เปลี่ยนไป อะไรประมาณนี้ (หากสนใจสามารถอ่านเพิ่มได้ที่ https://blog.nicolas-dorier.com/posts/bitcoin-dollar/) แต่ฟังแล้วรู้สึกว่า LATES ของพี่เดชาใช้ง่ายกว่าเยอะ :D
4. “Bitcoin Taxes in Japan” อัพเดทความก้าวหน้าในการเจรจาแก้ไขกฎหมายของญี่ปุ่นในการรับรู้กำไรขาดทุนของ crypto ทำให้บริษัทสามารถที่จะถือ bitcoin และ crypto ได้ง่ายขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามีการแก้กฎหมายไปแล้วสองครั้ง ภายในสองปี ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีของวงการ blockchain ของญี่ปุ่น เป็น session ที่ฟังแล้วรู้สึกว่าอยากให้แยกกฎหมายเกี่ยวกับ bitcoin กับ cypto อื่นๆออกจากกันจังเลย
5. “Bitcoin L2 Faceoff” น่าจะเป็น session ที่เดือดสุดของวัน ถึงขนาดที่คนมาดูเต็มห้อง เกิน 50 คน เยอะจนต้องไปยืนรอบๆห้องจนเต็ม เนื้อหาเป็นการจับผู้พัฒนา L2 สามค่ายอย่าง Liquid, RGB, Taproot มาคุยกัน ส่วนเนื้อหาสารภาพเลยว่าความรู้ไม่พอ และที่ช็อคคือเจอคนที่ตอบคำถามสดได้เร็วไฟแลบเหมือนกำลังเปิด YouTube ที่ความเร็ว 2x (Olaoluwa จาก Lightning Labs) ทั้งนี้ผู้บรรยายทั้งสามคนไม่ได้ฟาดฟันกันอย่างที่คนฟังอยากเห็นแต่อย่างใด session ยังได้เจอ Adam Back ที่เป็น bitcoiner OG ด้วย
6. “Lightning Devs AMA” อีกหนึ่ง technical session ที่ความรู้ไม่พอจะสรุปได้
7. “Bitcoin Playbook” เป็นการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ด้าน bitcoin ของ El Salvador กับ director ของ PlanB Network ที่อยู่ในเมืองเมืองหนึ่งในประเทศสวิส ซึ่งสิ่งที่ทั้งสองคนมีเหมือนกันคือ อยู่ในหน่วยงานที่ผลักดันให้การใช้งาน bitcoin เป็นรูปธรรม ซึ่งคนหนึ่งกำลังทำในระดับประเทศ ขณะที่อีกคนทำในระดับเทศบาลเมือง เป็นช่วงที่มีคำคมเด็ดๆ ออกมาหลายคำ อย่าง “Shitcoin brain cancer” (โรคร้ายที่ต้องหลีกเลี่ยง) หรือ “Shitcoin beauty contest” (ความ high-time ที่ต้องแต่งตัวให้สวยที่สุดเพื่อให้ระดมทุนได้เงินมากๆ) เป็น session ที่ต้องการจะแสดงให้เห็นว่า bitcoiner จะนำ Bitcoin ไปขยายผลในระดับชุมชนหรือเมืองได้อย่างไร
สรุปแล้ว เนื้อหาในวันแรกน่าจะมีสามเรื่องหลักคือ 1) ภาพ ecosystem ของ bitcoin ในญี่ปุ่น 2) technical ของ L2 และ 3) Bitcoin Strategy ซึ่งพอดูหัวข้อวันอาทิตย์แล้ว ของวันแรกดูเหมือนเป็นแค่การอุ่นเครื่อง ไว้มาดูกันว่าวันที่สองจะเป็นยังไงบ้าง
มางานแบบนี้ในต่างประเทศแล้วก็รู้สึกภูมิใจว่างานของไทยก็ดีไม่แพ้ใคร อยากขอขอบคุณทีมจัดงาน TBC2024 และผู้บรรยาย รวมทั้งเพื่อนๆ bitcoiner ที่ทำให้เมืองไทยก็มีงานดีๆแบบนี้เช่นกัน
(ภาพจากชั้น 18 สถานที่จัดงาน)
#siamstr #bitcointokyo2024