STAMP on Nostr: โพสนี้เมื่อ 1 ปีที่แล้วใน Mainstream ...
โพสนี้เมื่อ 1 ปีที่แล้วใน Mainstream
Espresso ที่ยังกดช็อตยังไม่ค่อยสวย วางคู่กับหนังสือ The Bitcoin Standard ฉบับภาษาไทยแล้วนำไปขอลายเซ็นกับ อ.พิริยะ 😅
ขอถือโอกาสเล่าเลยละกัน ผมเริ่มรู้จักและได้ซื้อ Bitcoin ครั้งแรกตอนนั้นผมเรียนอยู่ชั้นปี 2-3 ซื้อที่ www.bx.in.th ที่ราคาประมาณ 3 แสนบาท
ซื้อด้วยเงิน 300 บาทถ้วน ถือได้ไม่นาน
ผมก็ขายด้วยมูลค่าประมาณ 700 กว่าบาท
ผมซื้อเหมือนลุ้นหวย ไม่มีความเชื่อมั่นเพราะยังยึดติดกับความรู้เดิมๆว่า สิ่งใดจะมีค่าได้ก็ต้องมีหลักประกันอะไรสักอย่างค้ำหลังไว้
พอมาถึงช่วงปลายปี 2020 (กำลังทำงานจะครบ 1 ปีด้วย) ผมกลับมาสนใจ Bitcoin อีกรอบ ด้วยบรรยากาศอันยั่วยวน ราคา Bitcoin ดีดขึ้นเรื่อยๆ แต่การกลับมาของผมในรอบนี้ ผมไปซื้อเหรียญ Ca daa nooooo ~(ลากเสียงแบบลุงนิค ต้องเรียกพี่นิคนะครับ แหะๆ)
จริงๆผมก็เริ่มศึกษา Bitcoin ผ่านคลิปของ อ.พิริยะ ไปด้วย แล้วผมก็มีความย้อนแย้งในตัวเองเกิดขึ้น เพราะผมกำลังถือเหรียญ ADA ที่ผู้สร้างนั้นเขาชอบเที่ยวขี่อูฐ
และผมก็ติดตาม Nick Ragan แกก็พูดถึง Bitcoin ได้ดีอยู่นะ แต่กับ ADA แกเล่นเดิมพันลูกกระโปกซ้ายของแก มันเร้าใจผมมากสำหรับตอนนั้น
ผมได้กำไรทิพย์ประมาณ 100% พอดี แล้วราคาก็เริ่มไหลไม่หยุด จนผมตัดสินใจขายออกมาโดยได้กำไรอยู่ประมาณ 10%
หลังจากนั้นผมก็ไปลุยต่อกับ Game-Fi De-Fi ไปๆมาๆจนเหมือนกลับเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
ถึงมันจะกลับมาที่จุดเดิม จนแอบคิดไปว่า ถ้าเราอยู่เฉยๆ ไม่ไปแตะมันก็คงอยู่สบายๆ มีความสุขดี
จริงๆมันก็ไม่แย่นะ เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นตัวเองที่อยู่กับความโลภ ความกลัว ความสุขสุดๆ และความว่างเปล่าเวลาที่โดน Rug pull
ถึงยังไงผมก็ยังขิงคนอื่นได้นะ ว่าเหรียญแรกที่ผมซื้อในชีวิตก็ยังเป็น Bitcoin อยู่ 🤣
ผมได้อ่าน Note ที่เล่าถึงการเริ่มรู้จัก Bitcoin ของแต่ละคน ผมก็ยังแอบตกใจว่า บางคนเข้ามาเพียง 2 ปี แต่สามารถถ่ายทอดความรู้ต่างๆได้ดีจนนึกว่าเขาผ่านตลาดมาหลาย Cycles
มันเลยไม่สำคัญหรอกว่าใครจะมาก่อนหรือมาหลัง หรือเคยถือเหรียญอะไรมาก่อน สุดท้ายแล้วการที่จะเข้าใจ Bitcoin ของแต่ละคนนั้น ต่างคนต่างใช้เวลาไม่เท่ากัน
ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มักจะมีคนฉวยโอกาสสร้างความน่าเชื่อถือปลอมๆ ประมาณว่า ฉันน่ะเคยซื้อ Bitcoin ตั้งแต่ราคาไม่กี่บาท ฉันเข้าใจมันดี อยากรู้จักมันมากขึ้นมั้ยล่ะ มาสิฉันจะสอนเธอเอง (สุดท้ายพวกเขาก็หายไป)
และวันนี้ก็เป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับที่ผมทำ E-Book ให้ความรู้เกี่ยวกับ Bitcoin ปัจจุบันก็ครบ 1 ปีนิดๆ
จุดประสงค์คือ อยากให้คนในครอบครัวและคนที่รู้จักเรา ทั้งเพื่อนและที่ทำงานได้รับความรู้แบบที่ง่ายและเป็นกันเองมากที่สุด
เพราะถ้าผมส่งวิดีโอของ อ.พิริยะ ให้เขาดู
ถึงเนื้อหาจะดีแค่ไหน ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะดูจนจบ
แต่ด้วยความพยายามทำให้มันง่าย และผมที่เข้าใจ Bitcoin มากขึ้น(ณ ตอนนี้) พอได้กลับมาอ่านก็รู้สึกว่ามันมีเนื้อหาที่ผิดอยู่ ไม่ถึงกับทำให้คนอ่านเข้าใจไปคนละแบบ แต่มันขาดรายละเอียดไปหน่อย
พยายามพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน
เทียบกับ Bitcoin ที่จะมาแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง
แค่อยากให้คนในครอบครัวรับทราบว่า ผมกำลังทำอะไรอยู่ ถ้าเขาอยากรู้ เห็นว่าสำคัญหรือว่าพร้อมศึกษาเพิ่ม เดี๋ยวเขาก็คงจะเข้าหาเราเอง 😅
#stayhunble
#stacksats
#siamstr
Espresso ที่ยังกดช็อตยังไม่ค่อยสวย วางคู่กับหนังสือ The Bitcoin Standard ฉบับภาษาไทยแล้วนำไปขอลายเซ็นกับ อ.พิริยะ 😅
ขอถือโอกาสเล่าเลยละกัน ผมเริ่มรู้จักและได้ซื้อ Bitcoin ครั้งแรกตอนนั้นผมเรียนอยู่ชั้นปี 2-3 ซื้อที่ www.bx.in.th ที่ราคาประมาณ 3 แสนบาท
ซื้อด้วยเงิน 300 บาทถ้วน ถือได้ไม่นาน
ผมก็ขายด้วยมูลค่าประมาณ 700 กว่าบาท
ผมซื้อเหมือนลุ้นหวย ไม่มีความเชื่อมั่นเพราะยังยึดติดกับความรู้เดิมๆว่า สิ่งใดจะมีค่าได้ก็ต้องมีหลักประกันอะไรสักอย่างค้ำหลังไว้
พอมาถึงช่วงปลายปี 2020 (กำลังทำงานจะครบ 1 ปีด้วย) ผมกลับมาสนใจ Bitcoin อีกรอบ ด้วยบรรยากาศอันยั่วยวน ราคา Bitcoin ดีดขึ้นเรื่อยๆ แต่การกลับมาของผมในรอบนี้ ผมไปซื้อเหรียญ Ca daa nooooo ~(ลากเสียงแบบลุงนิค ต้องเรียกพี่นิคนะครับ แหะๆ)
จริงๆผมก็เริ่มศึกษา Bitcoin ผ่านคลิปของ อ.พิริยะ ไปด้วย แล้วผมก็มีความย้อนแย้งในตัวเองเกิดขึ้น เพราะผมกำลังถือเหรียญ ADA ที่ผู้สร้างนั้นเขาชอบเที่ยวขี่อูฐ
และผมก็ติดตาม Nick Ragan แกก็พูดถึง Bitcoin ได้ดีอยู่นะ แต่กับ ADA แกเล่นเดิมพันลูกกระโปกซ้ายของแก มันเร้าใจผมมากสำหรับตอนนั้น
ผมได้กำไรทิพย์ประมาณ 100% พอดี แล้วราคาก็เริ่มไหลไม่หยุด จนผมตัดสินใจขายออกมาโดยได้กำไรอยู่ประมาณ 10%
หลังจากนั้นผมก็ไปลุยต่อกับ Game-Fi De-Fi ไปๆมาๆจนเหมือนกลับเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
ถึงมันจะกลับมาที่จุดเดิม จนแอบคิดไปว่า ถ้าเราอยู่เฉยๆ ไม่ไปแตะมันก็คงอยู่สบายๆ มีความสุขดี
จริงๆมันก็ไม่แย่นะ เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นตัวเองที่อยู่กับความโลภ ความกลัว ความสุขสุดๆ และความว่างเปล่าเวลาที่โดน Rug pull
ถึงยังไงผมก็ยังขิงคนอื่นได้นะ ว่าเหรียญแรกที่ผมซื้อในชีวิตก็ยังเป็น Bitcoin อยู่ 🤣
ผมได้อ่าน Note ที่เล่าถึงการเริ่มรู้จัก Bitcoin ของแต่ละคน ผมก็ยังแอบตกใจว่า บางคนเข้ามาเพียง 2 ปี แต่สามารถถ่ายทอดความรู้ต่างๆได้ดีจนนึกว่าเขาผ่านตลาดมาหลาย Cycles
มันเลยไม่สำคัญหรอกว่าใครจะมาก่อนหรือมาหลัง หรือเคยถือเหรียญอะไรมาก่อน สุดท้ายแล้วการที่จะเข้าใจ Bitcoin ของแต่ละคนนั้น ต่างคนต่างใช้เวลาไม่เท่ากัน
ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มักจะมีคนฉวยโอกาสสร้างความน่าเชื่อถือปลอมๆ ประมาณว่า ฉันน่ะเคยซื้อ Bitcoin ตั้งแต่ราคาไม่กี่บาท ฉันเข้าใจมันดี อยากรู้จักมันมากขึ้นมั้ยล่ะ มาสิฉันจะสอนเธอเอง (สุดท้ายพวกเขาก็หายไป)
และวันนี้ก็เป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับที่ผมทำ E-Book ให้ความรู้เกี่ยวกับ Bitcoin ปัจจุบันก็ครบ 1 ปีนิดๆ
จุดประสงค์คือ อยากให้คนในครอบครัวและคนที่รู้จักเรา ทั้งเพื่อนและที่ทำงานได้รับความรู้แบบที่ง่ายและเป็นกันเองมากที่สุด
เพราะถ้าผมส่งวิดีโอของ อ.พิริยะ ให้เขาดู
ถึงเนื้อหาจะดีแค่ไหน ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะดูจนจบ
แต่ด้วยความพยายามทำให้มันง่าย และผมที่เข้าใจ Bitcoin มากขึ้น(ณ ตอนนี้) พอได้กลับมาอ่านก็รู้สึกว่ามันมีเนื้อหาที่ผิดอยู่ ไม่ถึงกับทำให้คนอ่านเข้าใจไปคนละแบบ แต่มันขาดรายละเอียดไปหน่อย
พยายามพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน
เทียบกับ Bitcoin ที่จะมาแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง
แค่อยากให้คนในครอบครัวรับทราบว่า ผมกำลังทำอะไรอยู่ ถ้าเขาอยากรู้ เห็นว่าสำคัญหรือว่าพร้อมศึกษาเพิ่ม เดี๋ยวเขาก็คงจะเข้าหาเราเอง 😅
#stayhunble
#stacksats
#siamstr