anon fish on Nostr: ต่อ.. Wrap BTC เนี่ย ถ้าเกิดหลงเอา BTC ...
ต่อ..
Wrap BTC เนี่ย ถ้าเกิดหลงเอา BTC ไปแลกไว้ หรือจงใจแลก fiat เพื่อมาเก็บเป็น WBTC ตอนที่รู้ตัวแล้วว่ามันไม่ใช้ BTC จริง ๆ ไหวตัวทันก็ยังแลกกลับมาเป็น BTC ได้นะ
แต่ ETF ที่เป็นตลาดมโน อุปโลกน์สตอรี่ว่าอิงมูลค่ามาจากบิตตอยน์เพราะว่ากองทุนที่ออกหน่วยลงทุนมาให้ลูกค้าเทรดกัน มีบิตคอยน์เก็บอยู่จริง ๆ เวลาที่ลูกค้าต้องการแลกหน่วยลงทุนในกอง ETF ไปเป็น BTC เนี่ย บางเจ้ามีนโยบายยอมให้แลกหน่วยลงทุนเป็นบิตคอยน์ได้ แต่ก็กำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ที่มีความยุ่งยาก เช่น ต้องถือหน่วยลงทุนขั้นต่ำที่ 100 หน่วยลงทุนถึงจะแลกเป็นบิตคอยน์ได้ อาจจะต้องเสียค่าทำเนียมในการแลก 0.5% หรือมากกว่านั้น หรืออาจจะกำหนดว่าเมื่อมีคำสั่งขอแลกหน่วยลงทุนเป็นบิตคอยน์จะต้องรอดำเนินการ 5 - 10 วันทำการเพื่อรอการปลดล็อค บางเจ้าอาจจะไม่มีนโยบายในการให้แลกหน่วยลงทุนเป็นบิตคอยน์จริง ๆ เพื่อเสถียรภาพของตัวกองทุน
แล้วยิ่งหนักเข้าไปอีก เมื่อมีตัวกลางอย่างผู้ดำเนินการถือหน่วยลงทุน (ตัวแทน) พวกแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่เปิดให้ลูกค้าเทรดกองทุน ETF ผ่านแอพพลิเคชั่นของพวกเขา เป็นการซ้อนในซ้อนที่ไม่ได้มีความใกล้เคียงอะไรกับการถือบิตคอยน์ด้วยตัวเองจริง ๆ แม้แต่น้อย
สิ่งที่ดำเนินการอยู่นี้มันคือ fiat แลก fiat บนสตอรี่ของบิตคอยน์ พวกเขาแค่มโนกันไปเองว่ากำลังเทรดสินทรัพย์ที่มีชื่อว่าบิตคอยน์ พวกเขาจะสนใจทำไมว่าบิตคอยน์คืออะไร พวกเขาสนก็แค่ว่าพวกเขาจะรวยขึ้นได้ยังไง
หลายคนที่คาดหวังว่าราคาของบิตคอยน์จะพุ่งกระฉูดขึ้นไปสู่ราคา all time high หลังจากที่ BTC Spot ETF ได้รับการอนุมัติ ถ้าลองคิดในอีกแง่หนึ่ง ราคาของบิตคอยน์ในกระดานเทรดจะมีราคาที่พุ่งขึ้นแบบนั้นทันทีได้ยังไงหลังการอนุมัติ ในเมื่อกองทุนที่ขอการอนุมัติมีการเก็บบิตคอยน์กันไปก่อนหน้านี้แล้ว และเมื่อยังไม่มีลูกค้าหน้าใหม่ ๆ ที่เข้ามาถือหน่วยลงทุนเพิ่ม ก็ยังไม่มีเหตุผลอะไรที่กองทุนจะลงทุนซื้อบิตคอยน์เพิ่มเพื่อการขยายหน่วยลงทุน มันอาจจะเป็น sell on news หรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ ที่ทำให้อารมณ์ของตลาดดูจืดสนิท แต่ไม่แน่ในเร็ว ๆ นี้ก็อาจจะมีอิมแพคบางอย่างที่ทำให้ตลาดดูคึกคักขึ้น ช่างมันเถอะ
ในมุมหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ จะมีทางไหนบ้างบนการมาของ ETF ที่ให้ผู้คนหันมาสนใจบิตคอยน์ไม่ใช่ในแง่ของการลงทุน แต่เป็นในแง่ของการตั้งคำถามกับระบบการเงิน เกมการเงินเดิม ๆ และจะใส่ใจกับการเก็บรักษาพลังงาน วันเวลา ความเป็นส่วนตัว และอำนาจ ไว้ในมือของตนเอง โดยที่จะไม่ยอมยกมันให้กับตัวกลางอย่างกองทุน ผู้กำกับนโนบาย นักการเมือง หรือรัฐ พวกที่ทำให้ผู้คนหันเหไปจากความจริงที่อยู่ตรงหน้า ว่าเจ้าของที่แท้จริงที่เป็นเจ้าของพลังงาน วันเวลา ความเป็นส่วนตัว และอำนาจ มันเป็นของตัวของเขาเอง และเลิกเอาสิ่งเหล่านี้ไปฝากเอาไว้ที่คนอื่นสักที
#Siamstr
#SiamstrOG
#Anon
Wrap BTC เนี่ย ถ้าเกิดหลงเอา BTC ไปแลกไว้ หรือจงใจแลก fiat เพื่อมาเก็บเป็น WBTC ตอนที่รู้ตัวแล้วว่ามันไม่ใช้ BTC จริง ๆ ไหวตัวทันก็ยังแลกกลับมาเป็น BTC ได้นะ
แต่ ETF ที่เป็นตลาดมโน อุปโลกน์สตอรี่ว่าอิงมูลค่ามาจากบิตตอยน์เพราะว่ากองทุนที่ออกหน่วยลงทุนมาให้ลูกค้าเทรดกัน มีบิตคอยน์เก็บอยู่จริง ๆ เวลาที่ลูกค้าต้องการแลกหน่วยลงทุนในกอง ETF ไปเป็น BTC เนี่ย บางเจ้ามีนโยบายยอมให้แลกหน่วยลงทุนเป็นบิตคอยน์ได้ แต่ก็กำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ที่มีความยุ่งยาก เช่น ต้องถือหน่วยลงทุนขั้นต่ำที่ 100 หน่วยลงทุนถึงจะแลกเป็นบิตคอยน์ได้ อาจจะต้องเสียค่าทำเนียมในการแลก 0.5% หรือมากกว่านั้น หรืออาจจะกำหนดว่าเมื่อมีคำสั่งขอแลกหน่วยลงทุนเป็นบิตคอยน์จะต้องรอดำเนินการ 5 - 10 วันทำการเพื่อรอการปลดล็อค บางเจ้าอาจจะไม่มีนโยบายในการให้แลกหน่วยลงทุนเป็นบิตคอยน์จริง ๆ เพื่อเสถียรภาพของตัวกองทุน
แล้วยิ่งหนักเข้าไปอีก เมื่อมีตัวกลางอย่างผู้ดำเนินการถือหน่วยลงทุน (ตัวแทน) พวกแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่เปิดให้ลูกค้าเทรดกองทุน ETF ผ่านแอพพลิเคชั่นของพวกเขา เป็นการซ้อนในซ้อนที่ไม่ได้มีความใกล้เคียงอะไรกับการถือบิตคอยน์ด้วยตัวเองจริง ๆ แม้แต่น้อย
สิ่งที่ดำเนินการอยู่นี้มันคือ fiat แลก fiat บนสตอรี่ของบิตคอยน์ พวกเขาแค่มโนกันไปเองว่ากำลังเทรดสินทรัพย์ที่มีชื่อว่าบิตคอยน์ พวกเขาจะสนใจทำไมว่าบิตคอยน์คืออะไร พวกเขาสนก็แค่ว่าพวกเขาจะรวยขึ้นได้ยังไง
หลายคนที่คาดหวังว่าราคาของบิตคอยน์จะพุ่งกระฉูดขึ้นไปสู่ราคา all time high หลังจากที่ BTC Spot ETF ได้รับการอนุมัติ ถ้าลองคิดในอีกแง่หนึ่ง ราคาของบิตคอยน์ในกระดานเทรดจะมีราคาที่พุ่งขึ้นแบบนั้นทันทีได้ยังไงหลังการอนุมัติ ในเมื่อกองทุนที่ขอการอนุมัติมีการเก็บบิตคอยน์กันไปก่อนหน้านี้แล้ว และเมื่อยังไม่มีลูกค้าหน้าใหม่ ๆ ที่เข้ามาถือหน่วยลงทุนเพิ่ม ก็ยังไม่มีเหตุผลอะไรที่กองทุนจะลงทุนซื้อบิตคอยน์เพิ่มเพื่อการขยายหน่วยลงทุน มันอาจจะเป็น sell on news หรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ ที่ทำให้อารมณ์ของตลาดดูจืดสนิท แต่ไม่แน่ในเร็ว ๆ นี้ก็อาจจะมีอิมแพคบางอย่างที่ทำให้ตลาดดูคึกคักขึ้น ช่างมันเถอะ
ในมุมหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ จะมีทางไหนบ้างบนการมาของ ETF ที่ให้ผู้คนหันมาสนใจบิตคอยน์ไม่ใช่ในแง่ของการลงทุน แต่เป็นในแง่ของการตั้งคำถามกับระบบการเงิน เกมการเงินเดิม ๆ และจะใส่ใจกับการเก็บรักษาพลังงาน วันเวลา ความเป็นส่วนตัว และอำนาจ ไว้ในมือของตนเอง โดยที่จะไม่ยอมยกมันให้กับตัวกลางอย่างกองทุน ผู้กำกับนโนบาย นักการเมือง หรือรัฐ พวกที่ทำให้ผู้คนหันเหไปจากความจริงที่อยู่ตรงหน้า ว่าเจ้าของที่แท้จริงที่เป็นเจ้าของพลังงาน วันเวลา ความเป็นส่วนตัว และอำนาจ มันเป็นของตัวของเขาเอง และเลิกเอาสิ่งเหล่านี้ไปฝากเอาไว้ที่คนอื่นสักที
#Siamstr
#SiamstrOG
#Anon