What is Nostr?
maiakee
npub1hge…8hs2
2025-01-20 10:50:22

maiakee on Nostr: ...



ขอขอบคุณ MenDetails.com พี่บิล Bill Prapat ที่ให้เกียรติผมมาเขียนบทความเรื่องการเงินนะครับ 😊
ไม่รู้จะเริ่มเขียนอะไรเป็นอย่างแรก ก็เลยเริ่มด้วยประวัติศาสตร์ของเงิน แล้วก็นิยามของเงินที่ดีควรจะเป็นอย่างไร เนื้อหาด้านใน อ่านเต็มๆได้ที่ https://www.mendetails.com/money/history-money-exchange-to-bitcoin-jan25/

ส่วนใครขี้เกียจเข้าไปดูเดี๋ยวผมแปะเนื้อหาไว้ให้นะครับ 😆

MDs’ MONEY | มาทำความรู้จัก ประวัติศาสตร์ของเงิน : จากการแลกเปลี่ยนถึง Bitcoin
บทความนี้เขียนโดย คุณไม้เอก Maiake Ruangpirakul สมาชิก MenDetails Club ผู้มีความสนใจในเรื่องการเงินและอยากแบ่งปันข้อมูลเพื่อช่วยกันพัฒนาให้เป็นผู้ชายที่ดีขึ้นกว่าเดิม

ทุกคนคงรู้จักเงินในปัจจุบันกันดีอยู่แล้ว มันคือสิ่งที่เราใช้ซื้อของ แลกเปลี่ยน และเก็บความมั่งคั่ง แต่คุณ เคยสงสัยไหมว่าเงินในทุกวันนี้มีจุดเริ่มต้นอย่างไร? วันนี้ MenDetails จะพาไปทําความเข้าใจเรื่องราว ประวัติศาสตร์ของ เงิน ตั้งแต่การแลกเปลี่ยนสินค้าในอดีต จนถึงระบบเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin

💸จุดเริ่มต้นของ ประวัติศาสตร์ของเงิน


ในอดีต เมื่อมนุษย์ยังไม่มี “เงิน” ระบบการแลกเปลี่ยนสินค้า (Barter System) เป็นวิธีการที่ใช้ในการ ซื้อขาย เช่น หากคุณมีข้าวและต้องการเนื้อ คุณต้องหาใครสักคนที่มีเนื้อและต้องการข้าว ปัญหาของระบบนี้คือความยากลําบากในการหาคนที่ต้องการสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ซึ่งเราเรียกว่าปัญหา “ความต้องการที่ตรงกัน” (Double Coincidence of Wants) ตัวอย่างเช่น ชาวนาที่มีข้าว 10 ถุง แต่ต้องการ รองเท้า เขาต้องหาใครสักคนที่มีรองเท้าและต้องการข้าว 10 ถุง ซึ่งอาจใช้เวลานาน ปัญหาของ Barter System ยังรวมถึงความไม่สะดวกในการแลกเปลี่ยนสินค้าและการเก็บรักษามูลค่า เช่น เนื้อหรือผักอาจ เน่าเสียได้

เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ผู้คนเริ่มมองหาสิ่งที่ทุกคนยอมรับและมีมูลค่ากลาง จึงเกิด “เงิน” ขึ้น ซึ่งไม่ได้เกิด จากคําสั่งของรัฐบาล แต่จากกระบวนการทางตลาด สิ่งที่ถูกเลือกเป็นเงินในยุคแรกเริ่ม เช่น หิน เปลือก หอย หรือโลหะที่หาได้ยาก เพราะสิ่งเหล่านี้มีคุณสมบัติที่เหมาะสม ได้แก่ ความหายาก (Scarcity) ซึ่ง ทําให้มีมูลค่า ความทนทาน (Durability) ที่ช่วยป้องกันความเสียหาย และความสะดวกในการพกพา (Portability) ที่ทําให้สามารถขนย้ายได้ง่าย

💸มาตรฐานทองคํา


เมื่อเวลาผ่านไป ทองคํากลายเป็นสิ่งที่ถูกเลือกให้เป็นมาตรฐานของเงิน (Gold Standard) เนื่องจาก ทองคํามีคุณสมบัติที่เหนือกว่าสิ่งอื่น ๆ เช่น เก็บมูลค่าได้ดี ใช้กําหนดราคาสินค้า และสามารถใช้ แลกเปลี่ยนได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ทองคําก็มีข้อจํากัด เช่น ขนส่งลําบากและแบ่งหน่วยย่อยยาก เช่น การ ตัดทองคําเป็นชิ้นเล็ก ๆ

ระบบมาตรฐานทองคํา (Gold Standard) เริ่มต้นขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยรัฐบาลใช้ทองคําเป็นตัว อ้างอิงมูลค่าเงิน ระบบนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบเงินที่ยั่งยืนที่สุดในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม มัน สิ้นสุดลงในปี 1971 เมื่อประธานาธิบดี Nixon ของสหรัฐอเมริกายกเลิกการผูกเงินดอลลาร์กับทองคําใน เหตุการณ์ Nixon Shock เนื่องจากรัฐบาลต้องการพิมพ์เงินเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

💸ยุคเงินกระดาษ


หลังจากสิ้นสุดระบบมาตรฐานทองคํา โลกก็เปลี่ยนมาใช้ “เงินกระดาษ” หรือ Fiat Money ซึ่งมูลค่าไม่ได้อิงกับทองคําอีกต่อไป แต่มาจากความเชื่อมั่นในรัฐบาล แม้จะดูสะดวกสบาย แต่ระบบเงินกระดาษก็มี ปัญหา เช่น การเกิดเงินเฟ้อ (Inflation) เพราะรัฐบาลสามารถพิมพ์เงินเพิ่มได้อย่างไม่จํากัด ซึ่งทําให้มูลค่าของเงินลดลง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือในอังกฤษและอเมริกา ที่การพิมพ์เงินมากเกินไปทําให้เงินของประชาชนสูญเสียมูลค่า

💸ยุคต่อไปของเงิน

ในมุมมองของเศรษฐศาสตร์สายออสเตรีย (Austrian Economics) เงินที่ดีควรเป็น Sound Money ซึ่งหมายถึงเงินที่มั่นคงและรักษามูลค่าได้ในระยะยาว Sound Money ควรมีคุณสมบัติสําคัญสามประการ ได้แก่ ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนได้ง่าย (Medium of Exchange) ใช้กําหนดราคาสินค้าได้ชัดเจน (Unit of Account) และสามารถเก็บรักษามูลค่าได้ในระยะยาว (Store of Value) นอกจากนี้ เงิน ที่ดีควรมีคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น ความหายาก (Scarcity) ความทนทาน (Durability) การแบ่งหน่วยย่อยได้ (Divisibility) และการพกพาได้สะดวก (Portability) การผลิตเงินที่ดีควรมีต้นทุน เช่น การขุดทองคํา หรือ การขุด Bitcoin ที่ใช้พลังงานสูง เพื่อป้องกันการสร้างเงินเกิน

เมื่อพูดถึง Bitcoin มันถูกมองว่าเป็นเงินที่ดีในยุคดิจิทัล เพราะมีคุณสมบัติที่เข้ากับแนวคิด Sound Money อย่างสมบูรณ์ Bitcoin มีอุปทานจํากัดที่ 21 ล้านเหรียญ จึงมีความหายากสูง นอกจากนี้ Bitcoin ยังไม่สึกกร่อนเพราะเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถแบ่งเป็นหน่วยย่อยได้ เช่น 1 Bitcoin สามารถแบ่งเป็น 100 ล้านซาโตชิ (Satoshi) และโอนย้ายได้อย่างรวดเร็วทั่วโลก อัตราส่วน Stock-to-Flow (S2F) ของ Bitcoin ยังแสดงถึงความหายาก ซึ่งในอนาคตจะสูงกว่าทองคําเนื่องจากกระบวนการ Halving ที่ลดการ ผลิต Bitcoin ลงทุก 4 ปี

สรุปแล้ว เงินในอดีตเริ่มต้นจากการแลกเปลี่ยนสินค้า พัฒนาสู่ระบบทองคํา และถูกแทนที่ด้วยเงินกระดาษที่รัฐบาลควบคุม ปัญหาของเงินกระดาษคือความไม่มั่นคงและเงินเฟ้อ ในมุมมองเศรษฐศาสตร์ สายออสเตรีย Bitcoin จึงเป็นเงินในอุดมคติที่สอดคล้องกับหลัก Sound Money เพราะมั่นคง หายาก และโปร่งใส ทําให้มันอาจเป็นระบบเงินที่จะเปลี่ยนแปลงโลกการเงินในอนาคต

#Siamstr #nostr #บิทคอยน์ #bitcoin #btc #economics #ประวัติศาสตร์ #การเงินธุรกิจ
Author Public Key
npub1hge4uuggdfspu0wmffxqs9vj38m55238q3z2jzd907e8qnjmlsyql78hs2