Somnuke on Nostr: ...
ประชาชนบุกปล้นธนาคารเพราะต้องการนำเงินเก็บในบัญชี "ตัวเอง" คืนกลับมา ฟังดูน่าเหลือเชื่อ ไม่น่าจะเป็นไปได้ในปัจจุบัน แต่มันเกิดขึ้นจริงแล้วบนโลกใบนี้ที่ เลบานอน
นับเป็นเวลา 5-6 ปี ที่เลบานอนต้องเจอกับโคตรมหาวิกฤตที่ทำลายล้างทุกอย่าง ค่าเงินเสื่อสลาย เศรษฐกิจพังทลาย
จาก 1 ดอลลาร์เคยแลกได้ราวๆ 1,500 ปอนด์เลบานอนในปี 2018 มาสู่ 2024 ที่ 1 ดอล แลกได้ 90,000!! ปอนด์เลบานอน ไม่กี่ปีสกุลเงินของเลบานอนมันเสื่อมค่าแตะหลัก 6,000% เข้าไปแล้วเมื่อเทียบกับดอลลาร์
อาหารขาดแคลนอย่างหนักแถมราคาพุ่งขึ้นไปไกลหลายสิบเท่า นำมาซึ่งความอดอยากแร้นแค้นและยากจนของประชาชน ปัญหาความรุนแรง อาชญากรรม การประท้วงที่ตามมาอีกนับไม่ถ้วน เราที่ไม่ได้อยู่ที่นั่นคงจินตนาการภาพไม่ออกว่ามันเลวร้ายขนาดไหน
ท่ามกลางวิกฤตนี้ นอกจากเงินเก็บทั้งชีวิตของประชาชนจะฉิบหายไม่เหลือค่าแล้ว รัฐบาลยังมีคำสั่งให้ทุกธนาคารในประเทศ "จำกัดและระงับการถอนเงิน" ยาวนานเป็นปีๆ เงินที่แทบจะเอาไปซื้ออะไรไม่ได้อยู่แล้ว ยังถูกบังคับไม่ให้ถอนซ้ำเติมเข้าไปอีก
สุดท้ายความอดทนของประชาชนส่วนใหญ่ก็หมดลง เกิดเป็นความโกรธแค้นลุกฮือบุกปล้นธนาคารเพื่อชิงเงินตัวเองกลับคืนมา
ตัวอย่างบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
- ธันวาคม 2019: ชายคนหนึ่งบุกธนาคารในกรุงเบรุต ยิงปืนขึ้นฟ้าและขู่ว่าจะเผาตัวเอง หากธนาคารไม่ยอมเงินฝากของตัวเอง
- กุมภาพันธ์ 2020: หญิงคนหนึ่งทุบกระจกธนาคารในเมืองไซดอน และนำเงินสด 13,000 ดอลลาร์ของตัวเองคืน เพื่อนำไปรักษาพยาบาลลูกชาย
- เมษายน 2020: ชายคนหนึ่งบุกธนาคารในเมืองทริโปลี และยึดธนาคารไว้เป็นเวลาหลายชั่วโมง เรียกร้องให้ธนาคารคืนเงินฝากตัวเองมา
- พฤษภาคม 2023: หญิงสาวอายุ 28 ปี พกปืนปลอมบุกปล้นธนาคารกรุงเบรุต เพื่อนำเงินเก็บของครอบครัวไปรักษาพี่สาวที่ป่วยเป็นมะเร็ง
- กรกฎาคม 2023: ชายวัย 40 ปี ยิงลูกซองขึ้นฟ้าขู่พนักงานธนาคาร Credit Libanais ให้คืนเงิน 50,000 ดอลมาและหลบหนีไป
เคสเหล่านี้เป็นตัวอย่างแค่เสี้ยวเดียวของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับร้อยๆ ครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา ถ้าไม่มีการใช้ความรุนแรงส่วนใหญ่จะไม่ถูกตั้งข้อหาและได้เงินคืน พร้อมถูกยกให้เป็นฮีโร่เป็นตัวแทนของการต่อสู้กับความอยุติธรรม
เมื่อทำแล้วได้เงินคืนมันจึงมันสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วประเทศ จนเกิดกระแสการชุมนุมประท้วงหน้าธนาคารเพื่อเรียกร้องเงินคืนของประชาชนตามมาอีกนับไม่ถ้วนจนถึงปัจจุบัน และสถานการณ์ของเลบานอนในปี 2024 นี้ ก็ยังไม่มีที่ท่าที่จะฟื้น กลับเลวร้ายลงยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ
คนที่มีส่วนร่วมกับการกระทำชั่วร้ายที่สร้างความเสียหายใหญ่หลวงนี้แทบไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ยังคงลอยหน้าลอยตาชี้นิ้วอยู่บนหอคอย พร้อมจะแก้ไขความมักง่ายที่ตัวเองก่อด้วยนโยบายที่มักง่ายกว่าเดิม แก้วิกฤตด้วยวิกฤตที่หนักกว่าเดิม
และผู้ที่ต้องจ่ายราคาความผิดพลาดทุกบาททุกสตางค์ คือ ประชาชน
หวังว่ามันจะไม่เกิดกับเรานะครับ เพราะลำพังแค่การต่อสู้กับเงินที่เสื่อมค่าลงครึ่งนึงทุกๆ 10 ปีของเงินบาท ประชาชนส่วนใหญ่ก็แทบไม่เหลืออนาคตกันหมดแล้ว
Fix the money fix the world
#Siamstr
นับเป็นเวลา 5-6 ปี ที่เลบานอนต้องเจอกับโคตรมหาวิกฤตที่ทำลายล้างทุกอย่าง ค่าเงินเสื่อสลาย เศรษฐกิจพังทลาย
จาก 1 ดอลลาร์เคยแลกได้ราวๆ 1,500 ปอนด์เลบานอนในปี 2018 มาสู่ 2024 ที่ 1 ดอล แลกได้ 90,000!! ปอนด์เลบานอน ไม่กี่ปีสกุลเงินของเลบานอนมันเสื่อมค่าแตะหลัก 6,000% เข้าไปแล้วเมื่อเทียบกับดอลลาร์
อาหารขาดแคลนอย่างหนักแถมราคาพุ่งขึ้นไปไกลหลายสิบเท่า นำมาซึ่งความอดอยากแร้นแค้นและยากจนของประชาชน ปัญหาความรุนแรง อาชญากรรม การประท้วงที่ตามมาอีกนับไม่ถ้วน เราที่ไม่ได้อยู่ที่นั่นคงจินตนาการภาพไม่ออกว่ามันเลวร้ายขนาดไหน
ท่ามกลางวิกฤตนี้ นอกจากเงินเก็บทั้งชีวิตของประชาชนจะฉิบหายไม่เหลือค่าแล้ว รัฐบาลยังมีคำสั่งให้ทุกธนาคารในประเทศ "จำกัดและระงับการถอนเงิน" ยาวนานเป็นปีๆ เงินที่แทบจะเอาไปซื้ออะไรไม่ได้อยู่แล้ว ยังถูกบังคับไม่ให้ถอนซ้ำเติมเข้าไปอีก
สุดท้ายความอดทนของประชาชนส่วนใหญ่ก็หมดลง เกิดเป็นความโกรธแค้นลุกฮือบุกปล้นธนาคารเพื่อชิงเงินตัวเองกลับคืนมา
ตัวอย่างบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
- ธันวาคม 2019: ชายคนหนึ่งบุกธนาคารในกรุงเบรุต ยิงปืนขึ้นฟ้าและขู่ว่าจะเผาตัวเอง หากธนาคารไม่ยอมเงินฝากของตัวเอง
- กุมภาพันธ์ 2020: หญิงคนหนึ่งทุบกระจกธนาคารในเมืองไซดอน และนำเงินสด 13,000 ดอลลาร์ของตัวเองคืน เพื่อนำไปรักษาพยาบาลลูกชาย
- เมษายน 2020: ชายคนหนึ่งบุกธนาคารในเมืองทริโปลี และยึดธนาคารไว้เป็นเวลาหลายชั่วโมง เรียกร้องให้ธนาคารคืนเงินฝากตัวเองมา
- พฤษภาคม 2023: หญิงสาวอายุ 28 ปี พกปืนปลอมบุกปล้นธนาคารกรุงเบรุต เพื่อนำเงินเก็บของครอบครัวไปรักษาพี่สาวที่ป่วยเป็นมะเร็ง
- กรกฎาคม 2023: ชายวัย 40 ปี ยิงลูกซองขึ้นฟ้าขู่พนักงานธนาคาร Credit Libanais ให้คืนเงิน 50,000 ดอลมาและหลบหนีไป
เคสเหล่านี้เป็นตัวอย่างแค่เสี้ยวเดียวของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับร้อยๆ ครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา ถ้าไม่มีการใช้ความรุนแรงส่วนใหญ่จะไม่ถูกตั้งข้อหาและได้เงินคืน พร้อมถูกยกให้เป็นฮีโร่เป็นตัวแทนของการต่อสู้กับความอยุติธรรม
เมื่อทำแล้วได้เงินคืนมันจึงมันสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วประเทศ จนเกิดกระแสการชุมนุมประท้วงหน้าธนาคารเพื่อเรียกร้องเงินคืนของประชาชนตามมาอีกนับไม่ถ้วนจนถึงปัจจุบัน และสถานการณ์ของเลบานอนในปี 2024 นี้ ก็ยังไม่มีที่ท่าที่จะฟื้น กลับเลวร้ายลงยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ
คนที่มีส่วนร่วมกับการกระทำชั่วร้ายที่สร้างความเสียหายใหญ่หลวงนี้แทบไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ยังคงลอยหน้าลอยตาชี้นิ้วอยู่บนหอคอย พร้อมจะแก้ไขความมักง่ายที่ตัวเองก่อด้วยนโยบายที่มักง่ายกว่าเดิม แก้วิกฤตด้วยวิกฤตที่หนักกว่าเดิม
และผู้ที่ต้องจ่ายราคาความผิดพลาดทุกบาททุกสตางค์ คือ ประชาชน
หวังว่ามันจะไม่เกิดกับเรานะครับ เพราะลำพังแค่การต่อสู้กับเงินที่เสื่อมค่าลงครึ่งนึงทุกๆ 10 ปีของเงินบาท ประชาชนส่วนใหญ่ก็แทบไม่เหลืออนาคตกันหมดแล้ว
Fix the money fix the world
#Siamstr