layman_economics on Nostr: ...
เวลาที่เจ้าหน้าที่รัฐออกมาตรการนู่นนี่นั่นเพื่อ “คุ้มครองนักลงทุน”
ผมมักจะสงสัยอยู่ในใจนะครับว่า “ทำไมต้องคุ้มครองด้วย?”
โอเคแหละครับ ทางฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐก็จะชอบพูดว่า “เราเป็นห่วงนักลงทุน เราอยากจะป้องกันไม่ให้นักลงทุนเจ็บตัว”
แต่ผมมองว่า ธรรมชาติของการลงทุนนั้น มันมาพร้อมกับความเสี่ยงอยู่แล้ว
ทุกคนที่ลงทุนรู้ดีว่าตัวเองกำลังแบกรับความเสี่ยง
มันใช่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐหรือที่จะเข้ามาห้ามว่า พวกเราแต่ละคนแบกรับความเสี่ยงอะไรได้ หรือแบกรับความเสี่ยงอะไรไม่ได้?
มันเหมาะสมหรือที่เจ้าหน้าที่รัฐจะเอาภาษี (ซึ่งเก็บมาจากทุกคนในประเทศ) มาใช้จ่ายเพื่อออกมาตรการปกป้องนักลงทุน (ซึ่งเป็นคนกลุ่มเดียวในประเทศ)?
มันดูไม่ยุติธรรมเอาซะเลย
ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐมีแนวโน้มที่จะเป็นคนไม่กล้าเสี่ยง (ไม่อย่างนั้น พวกเขาคงเป็นนักลงทุน หรือนักธุรกิจไปแล้ว พวกเขาคงไม่ได้มาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรอกครับ) เจ้าหน้าที่รัฐจึงมีแนวโน้มที่จะ block โอกาสในการลงทุนเยอะไปหมด
ส่งผลให้นักลงทุนต้องออกแรงเยอะ กว่าจะพาตัวเองไปหาโอกาสการลงทุนได้
นอกจากนี้ สมมติว่านักลงทุนพาตัวเองไปหาโอกาสลงทุนได้ และเกิดการลงทุนประสบความสำเร็จขึ้นมา
เราก็จะเห็นเจ้าหน้าที่รัฐที่โผล่หน้ามาเก็บภาษีจากผลการลงทุนนั้นอีก
เรียกได้ว่า รัฐทั้งปฏิบัติตนเป็น “จระเข้ขวางคลอง” ไม่ให้การลงทุนเกิดขึ้นโดยสะดวก (ในนามของการปกป้องนักลงทุน) และพอนักลงทุนเกิดพาตัวเองก้าวข้ามอุปสรรคของรัฐไปลงทุนและประสบความสำเร็จขึ้นมา รัฐก็จะเข้ามาไถเงินอีก
มันเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจมากๆเลยครับ
#siamstr
ผมมักจะสงสัยอยู่ในใจนะครับว่า “ทำไมต้องคุ้มครองด้วย?”
โอเคแหละครับ ทางฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐก็จะชอบพูดว่า “เราเป็นห่วงนักลงทุน เราอยากจะป้องกันไม่ให้นักลงทุนเจ็บตัว”
แต่ผมมองว่า ธรรมชาติของการลงทุนนั้น มันมาพร้อมกับความเสี่ยงอยู่แล้ว
ทุกคนที่ลงทุนรู้ดีว่าตัวเองกำลังแบกรับความเสี่ยง
มันใช่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐหรือที่จะเข้ามาห้ามว่า พวกเราแต่ละคนแบกรับความเสี่ยงอะไรได้ หรือแบกรับความเสี่ยงอะไรไม่ได้?
มันเหมาะสมหรือที่เจ้าหน้าที่รัฐจะเอาภาษี (ซึ่งเก็บมาจากทุกคนในประเทศ) มาใช้จ่ายเพื่อออกมาตรการปกป้องนักลงทุน (ซึ่งเป็นคนกลุ่มเดียวในประเทศ)?
มันดูไม่ยุติธรรมเอาซะเลย
ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐมีแนวโน้มที่จะเป็นคนไม่กล้าเสี่ยง (ไม่อย่างนั้น พวกเขาคงเป็นนักลงทุน หรือนักธุรกิจไปแล้ว พวกเขาคงไม่ได้มาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรอกครับ) เจ้าหน้าที่รัฐจึงมีแนวโน้มที่จะ block โอกาสในการลงทุนเยอะไปหมด
ส่งผลให้นักลงทุนต้องออกแรงเยอะ กว่าจะพาตัวเองไปหาโอกาสการลงทุนได้
นอกจากนี้ สมมติว่านักลงทุนพาตัวเองไปหาโอกาสลงทุนได้ และเกิดการลงทุนประสบความสำเร็จขึ้นมา
เราก็จะเห็นเจ้าหน้าที่รัฐที่โผล่หน้ามาเก็บภาษีจากผลการลงทุนนั้นอีก
เรียกได้ว่า รัฐทั้งปฏิบัติตนเป็น “จระเข้ขวางคลอง” ไม่ให้การลงทุนเกิดขึ้นโดยสะดวก (ในนามของการปกป้องนักลงทุน) และพอนักลงทุนเกิดพาตัวเองก้าวข้ามอุปสรรคของรัฐไปลงทุนและประสบความสำเร็จขึ้นมา รัฐก็จะเข้ามาไถเงินอีก
มันเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจมากๆเลยครับ
#siamstr