ช.ชรา ศิลป์สมุทร on Nostr: การเก็บออมด้วยการปลูกต้นไม้ ...
การเก็บออมด้วยการปลูกต้นไม้
#ให้ต้นไม้ทำงานแทนเรา
ผมชอบคำกล่าวของผู้หลักผู้ใหญ่ท่านนึงมาก
เขาบอกว่า….
“ให้ที่ดินเป็นเหมือนธนาคาร
ให้ต้นไม้เป็นเหมือนเงินฝาก”
คิดดูแล้วก็คงเหมือนการฝากเงินออมทรัพย์
ฝากสะสมทรัพย์นั่นแหละมั้ง
แน่นอน….ต้นไม้ทุกชนิดจ่ายดอกเบี้ย
ผลตอบแทนให้เราได้ด้วย
บางชนิดจ่ายดอกเบี้ยเป็นเห็ด
บางชนิดจากดอกเบี้ยเป็นกิ่งก้านร่วงหล่นเป็นไม้ฟืน บางชนิดจ่ายดอกเบี้ยเป็นใบร่วงหล่นมาเป็นปุ๋ย บางชนิดจ่ายดอกเบี้ยเป็นหมากเป็นผล
บางชนิดจ่ายดอกเบี้ยเป็นความร่มรื่นเย็นสบาย
บางชนิดจ่ายดอกเบี้ยเป็น….
โอ๊ยย…..เยอะ แปดวันก็อธิบายไม่หมด
แต่การปลูกต้นไม้นั้นไม่ใช่แค่การสะสมทรัพย์หรือออมทรัพย์ธรรมดาๆ แต่มันคือการสะสมทรัพยากร คือการออมทรัพยากร และเป็นทรัพยากรที่เราสามารถสร้างได้ด้วยสองมือของเรา
มีป่าเท่ากับมีทรัพยากร
มีทรัพยากรก็เท่ากับมีความมั่งคั่ง
ทรัพยากรอย่างป่านั้นไม่ได้ให้ความมั่งคั่ง
เพียงแค่ในแง่ของเงินทอง
เพราะป่าเป็นได้มากมายหลายสิ่งอย่าง
มากมายเสียจนเราอาจจะจิตนาการไปไม่ถึง
ป่าเป็นโรงอาหารก็ได้
ป่าเป็นโรงเรียนก็ได้
ป่าเป็นโรงแรมก็ได้
ป่าเป็นโรงพยาบาลก็ได้
ป่าเป็นสวนสัตว์ก็ได้
ป่าเป็นโรงงานก็ได้
ในป่านั้นไม่ได้มีแค่ต้นไม้ชนิดเดียว
ใต้ต้นไม้ก็ไม่ได้มีแค่ผืนดิน
พืชพันธุ์มากมายสรรพสัตว์หลากหลาย
ต่างพึ่งพิงพึ่งพาอาศัยกันจนกลายเป็น
ระบบนิเวศป่า
พืชที่ปลูกร่วมสวนป่ามีได้มากมายหลายชนิด
ปศุสัตว์ที่ทำร่วมสวนป่าได้ก็มีมากมายหลายชนิด กิจกรรมกิจการที่ทำต่อยอดจากสวนป่าก็มีได้มากมายหลายชนิด สุดแท้แต่ความชอบ ความถนัด ความรู้ความสามารถ บริบทของพื้นที่และภูมิสังคม
มีป่าก็เหมือนมีที่ดินแปลงงามกลางใจเมือง
ไม่จำเป็นต้องขายก็ได้ หาแค่วิธีเก็บดอกผล
ก็เพียงพอแล้ว
แต่ถ้าวันนึงยามแก่ชราหรือยามขัดสนจนตรอกจริงๆ อยากจะตัดไม้ขายหรือขุดล้อมต้นไม้ออกขายมันก็ทำได้ มันก็เหมือนเรามีบำนาญมีหลักประกันยามแก่เฒ่าได้ด้วย (แต่สภาพคล่องมันอาจจะน้อยหน่อย)
แน่นอน…..แม้เราไม่ตัดขายไม่ขุดขาย
ต้นไม้มันก็จะยังจ่ายดอกเบี้ยให้เราเช่นเดิม
และมูลค่าของมันก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ตามขนาดตราบใดที่ต้นไม้นั้นยังเติบโต
แดดออกมันก็โต
ฝนตกมันก็โต
กลางวันมันก็โต
กลางคืนเรานอนหลับอยู่มันก็โต
เสาร์อาทิตย์มันก็โต
มันเติบโตได้ด้วยตัวของมันเอง
เราได้ดูแลหน่อยแค่ 4-5 ปีแรก
* ในภาพ ต้นสัก ต้นพะยูง ต้นแดง ต้นมะฮอกกานี และต้นมะค้าโมง อายุ 10 ปี
ไม้เหล่านี้ล้วนเป็นไม้ที่มีเนื้อไม้คุณภาพดี
ใช้สร้างบ้านเรือนได้ ทำเฟอร์นิเจอร์ได้
ทำเครื่องเรือนของใช้ทั้งเครื่องดนตรีได้
ถือเป็นไม้ที่มีมูลค่า
มีราคาค่างวดพอสมควร
ไม้อายุ 10 ปี ไซต์ขนาดนี้
ถ้าตีราคาค่างวดแค่ตัดเผาถ่าน
ต้นนึงได้เกิน 3 กระสอบ 600 บาท
ถ้าตีราคาค่างวดเป็นไม้ขุดล้อม
ต้นนึงไม่น่าจะต่ำกว่า 1000 บาท
แต่ถ้าปล่อยให้มันเติบโตอีก 20-30 ปี
ถ้าแปรรูปเป็นไม้แผ่นขาย
ต้นนึงได้เกิน 10,000 บาทแน่นอน
แต่ถ้าเราแปรรูปเป็นเฟอ์นิเจอร์
เป็นของใช้ต่างๆตามคุณสมบัติของไม้นั้นๆ
แต่ละต้นจะมีราคาค่างวดเท่าไหร่ ?
*วนเกษตร ไม่ใช่แค่การปลูกต้นไม้ที่ใช้เนื้อไม้อย่างเดียว มันปลูกร่วมกับผลไม้ได้ปลูกร่วมกับไม้เศรษฐกิจอื่นๆได้ ปลูกร่วมกับการเลี้ยงปศุสัตว์ได้
ปลูกรอบสวนรอบไร่เป็นแนวรั้วก็ได้
ปลูกตามคันนาก็ได้ ริบสระน้ำริมห้วยน้ำก็ได้
แทนที่จะมีแค่สวนผลไม้ เชิงเดี่ยว
มีแค่ไม้เศรษฐกิจ(สวนยาง) เชิงเดี่ยว
มีแค่ฝูงปศุสัตว์ เชิงเดียว
แต่เราปลูกต้นไม้เหล่านี้เพื่อเป็นการออมทรัพย์
สะสมทรัพย์ไปด้วย
20-30 ปีผ่านไป….
ถ้ามี 100 ต้น มันจะมูลค่าเท่าไหร่
ถ้ามี 500 ต้น มันจะมูลค่าเท่าไหร่
ถ้ามี 1,000 ต้น มันจะมูลค่าเท่าไหร่
การเก็บออมด้วยการปลูกต้นไม้
#ให้ต้นไม้ทำงานแทนเรา
#วนเกษตร
#ป่าสามอย่างประโยชน์สี่อย่าง
#ป่าเจ็ดระดับ
#เกษตรเชิงนิเวศ
#เกษตรกรรมธรรมชาติ
#siamstr
#ให้ต้นไม้ทำงานแทนเรา
ผมชอบคำกล่าวของผู้หลักผู้ใหญ่ท่านนึงมาก
เขาบอกว่า….
“ให้ที่ดินเป็นเหมือนธนาคาร
ให้ต้นไม้เป็นเหมือนเงินฝาก”
คิดดูแล้วก็คงเหมือนการฝากเงินออมทรัพย์
ฝากสะสมทรัพย์นั่นแหละมั้ง
แน่นอน….ต้นไม้ทุกชนิดจ่ายดอกเบี้ย
ผลตอบแทนให้เราได้ด้วย
บางชนิดจ่ายดอกเบี้ยเป็นเห็ด
บางชนิดจากดอกเบี้ยเป็นกิ่งก้านร่วงหล่นเป็นไม้ฟืน บางชนิดจ่ายดอกเบี้ยเป็นใบร่วงหล่นมาเป็นปุ๋ย บางชนิดจ่ายดอกเบี้ยเป็นหมากเป็นผล
บางชนิดจ่ายดอกเบี้ยเป็นความร่มรื่นเย็นสบาย
บางชนิดจ่ายดอกเบี้ยเป็น….
โอ๊ยย…..เยอะ แปดวันก็อธิบายไม่หมด
แต่การปลูกต้นไม้นั้นไม่ใช่แค่การสะสมทรัพย์หรือออมทรัพย์ธรรมดาๆ แต่มันคือการสะสมทรัพยากร คือการออมทรัพยากร และเป็นทรัพยากรที่เราสามารถสร้างได้ด้วยสองมือของเรา
มีป่าเท่ากับมีทรัพยากร
มีทรัพยากรก็เท่ากับมีความมั่งคั่ง
ทรัพยากรอย่างป่านั้นไม่ได้ให้ความมั่งคั่ง
เพียงแค่ในแง่ของเงินทอง
เพราะป่าเป็นได้มากมายหลายสิ่งอย่าง
มากมายเสียจนเราอาจจะจิตนาการไปไม่ถึง
ป่าเป็นโรงอาหารก็ได้
ป่าเป็นโรงเรียนก็ได้
ป่าเป็นโรงแรมก็ได้
ป่าเป็นโรงพยาบาลก็ได้
ป่าเป็นสวนสัตว์ก็ได้
ป่าเป็นโรงงานก็ได้
ในป่านั้นไม่ได้มีแค่ต้นไม้ชนิดเดียว
ใต้ต้นไม้ก็ไม่ได้มีแค่ผืนดิน
พืชพันธุ์มากมายสรรพสัตว์หลากหลาย
ต่างพึ่งพิงพึ่งพาอาศัยกันจนกลายเป็น
ระบบนิเวศป่า
พืชที่ปลูกร่วมสวนป่ามีได้มากมายหลายชนิด
ปศุสัตว์ที่ทำร่วมสวนป่าได้ก็มีมากมายหลายชนิด กิจกรรมกิจการที่ทำต่อยอดจากสวนป่าก็มีได้มากมายหลายชนิด สุดแท้แต่ความชอบ ความถนัด ความรู้ความสามารถ บริบทของพื้นที่และภูมิสังคม
มีป่าก็เหมือนมีที่ดินแปลงงามกลางใจเมือง
ไม่จำเป็นต้องขายก็ได้ หาแค่วิธีเก็บดอกผล
ก็เพียงพอแล้ว
แต่ถ้าวันนึงยามแก่ชราหรือยามขัดสนจนตรอกจริงๆ อยากจะตัดไม้ขายหรือขุดล้อมต้นไม้ออกขายมันก็ทำได้ มันก็เหมือนเรามีบำนาญมีหลักประกันยามแก่เฒ่าได้ด้วย (แต่สภาพคล่องมันอาจจะน้อยหน่อย)
แน่นอน…..แม้เราไม่ตัดขายไม่ขุดขาย
ต้นไม้มันก็จะยังจ่ายดอกเบี้ยให้เราเช่นเดิม
และมูลค่าของมันก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ตามขนาดตราบใดที่ต้นไม้นั้นยังเติบโต
แดดออกมันก็โต
ฝนตกมันก็โต
กลางวันมันก็โต
กลางคืนเรานอนหลับอยู่มันก็โต
เสาร์อาทิตย์มันก็โต
มันเติบโตได้ด้วยตัวของมันเอง
เราได้ดูแลหน่อยแค่ 4-5 ปีแรก
* ในภาพ ต้นสัก ต้นพะยูง ต้นแดง ต้นมะฮอกกานี และต้นมะค้าโมง อายุ 10 ปี
ไม้เหล่านี้ล้วนเป็นไม้ที่มีเนื้อไม้คุณภาพดี
ใช้สร้างบ้านเรือนได้ ทำเฟอร์นิเจอร์ได้
ทำเครื่องเรือนของใช้ทั้งเครื่องดนตรีได้
ถือเป็นไม้ที่มีมูลค่า
มีราคาค่างวดพอสมควร
ไม้อายุ 10 ปี ไซต์ขนาดนี้
ถ้าตีราคาค่างวดแค่ตัดเผาถ่าน
ต้นนึงได้เกิน 3 กระสอบ 600 บาท
ถ้าตีราคาค่างวดเป็นไม้ขุดล้อม
ต้นนึงไม่น่าจะต่ำกว่า 1000 บาท
แต่ถ้าปล่อยให้มันเติบโตอีก 20-30 ปี
ถ้าแปรรูปเป็นไม้แผ่นขาย
ต้นนึงได้เกิน 10,000 บาทแน่นอน
แต่ถ้าเราแปรรูปเป็นเฟอ์นิเจอร์
เป็นของใช้ต่างๆตามคุณสมบัติของไม้นั้นๆ
แต่ละต้นจะมีราคาค่างวดเท่าไหร่ ?
*วนเกษตร ไม่ใช่แค่การปลูกต้นไม้ที่ใช้เนื้อไม้อย่างเดียว มันปลูกร่วมกับผลไม้ได้ปลูกร่วมกับไม้เศรษฐกิจอื่นๆได้ ปลูกร่วมกับการเลี้ยงปศุสัตว์ได้
ปลูกรอบสวนรอบไร่เป็นแนวรั้วก็ได้
ปลูกตามคันนาก็ได้ ริบสระน้ำริมห้วยน้ำก็ได้
แทนที่จะมีแค่สวนผลไม้ เชิงเดี่ยว
มีแค่ไม้เศรษฐกิจ(สวนยาง) เชิงเดี่ยว
มีแค่ฝูงปศุสัตว์ เชิงเดียว
แต่เราปลูกต้นไม้เหล่านี้เพื่อเป็นการออมทรัพย์
สะสมทรัพย์ไปด้วย
20-30 ปีผ่านไป….
ถ้ามี 100 ต้น มันจะมูลค่าเท่าไหร่
ถ้ามี 500 ต้น มันจะมูลค่าเท่าไหร่
ถ้ามี 1,000 ต้น มันจะมูลค่าเท่าไหร่
การเก็บออมด้วยการปลูกต้นไม้
#ให้ต้นไม้ทำงานแทนเรา
#วนเกษตร
#ป่าสามอย่างประโยชน์สี่อย่าง
#ป่าเจ็ดระดับ
#เกษตรเชิงนิเวศ
#เกษตรกรรมธรรมชาติ
#siamstr