Tung Khempila on Nostr: การปรากฏตัวของความจริง ...
การปรากฏตัวของความจริง ความจริงของเหตุและผล
ต้องเท้าความก่อนว่าผมกำลังนั่งอ่านงานของ Steven Pinker : Rationality
ใช่ครับ ผมพึ่งได้มาและอ่านไปเพียง 28 หน้าเท่านั้น และยอมรับตรงๆ ไม่ชอบครับ 555
มันอดเทียบไม่ได้กับงานอย่าง The Black Swan ของ Nassim Taleb อาจจะพบได้ว่าความมีสหสัมพันธ์(Correlation) ของ Nassim Nicholas Taleb กับนักปรัชญาอย่าง Friedrich Nietzsche นั้นเน้นย้ำธรรมชาติของมนุษย์หรือ ความไม่มีเหตุและผลในบางจุดยืน
ย้อนกลับมาเป้าหมายของผู้เขียนทั้ง Pinker และ Taleb จุดประสงค์ก็ต่างกัน ตรงที่ Pinker จะเน้นไปที่การวิเคราะห์มนุษย์ถึงความมีเหตุและผล และมองว่ามันคือ DNA ดังนั้น เราจะมีความผาสุขในเหตุและผล โดยสิ่งเหล่านั้นนำเราไปสู่คนที่ดีกว่า
ส่วนจุดประสงค์ของ Taleb คือ ระวังสิ่งที่อธิบายไม่ได้จะเกิดขึ้นกับตัวคุณเอง และคุณจะรับมือมันผ่านเหตุและผลอย่างไร ?
ซึ่งจุดเชื่อมของทั้งสองคือ Daniel Kahneman และ Amos Tversky สองนักจิตวิทยาผู้ยิ่งใหญ่ที่พึ่งเสียชีวิตไป ไม่นานมานี้
แต่ที่แตกต่างกันไปคือทฤษฎีที่อธิบายแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ แม้ว่าตัว Economic Behavior จะพึ่งมีมาไม่นานเทียบเท่า Classic Economic (ตรงนี้เราจะไม่ใช้มาร์กซ์นะ ใครเรียกไอ้มาร์กซ์มาปน พ่อมึงตายไอ้ควาย) โดยวิถีการกำกับดูแลหรือ สหสัมพันธ์ (Correlation) ของ Modern Capitalism ที่มากำหนดนโยบายต่างมีที่มาจากสำนัก Chicago หรือ การมองเหตุและผลที่สัมพันธ์กันของมนุษย์ รวมถึงภาครัฐ นั่นคือเหตุและผล ซึ่งไม่ต้องแปลกใจเมื่อคุณไปอ่านประวัติ Pinker จะพบว่าเค้าเป็นผู้สนับสนุนพรรค Democrat อย่างสุดขั้วหัวใจ
ส่วนแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ของ Taleb นั้น Related กับ Fredrich Hayek และ Frederic Bastiat ในการอธิบายความไม่มีเหตุและผลของมนุษย์ซึ่งก่อให้เกิด เหตุและผลของการกระทำ
ตรงจุดนี้เราจะพบว่า ในโลกยุคปัจจุบัน มี ความจริงแบ่งเป็นชุด ให้เราได้เลือกเชื่อและเป็นเหมือนผลลัพธ์ หรือ รากฐานของการกระทำของมนุษย์
ซึ่งแม้แต่ความจริงในบางเวลาก็เปรียบเสมือนข้อมูลเท็จในโลกแห่งหนึ่งเมื่ เวลาผ่านไป
ผมไม่มีบทสรุปให้กับสองแนวคิด แต่เมื่ออ่านให้ลึกซึ้งก็น่าสนใจว่าเราเลือกสิ่งไหน ที่เป็นเหตุและผล จริงๆ ในการประกอบชีวิต
เพราะแม้แต่เรื่องชาวบ้านก็เป็นเรื่องไร้แก่นสารที่เราเอาไว้พูดคุยกัน
#siamstr #siambookclub
ต้องเท้าความก่อนว่าผมกำลังนั่งอ่านงานของ Steven Pinker : Rationality
ใช่ครับ ผมพึ่งได้มาและอ่านไปเพียง 28 หน้าเท่านั้น และยอมรับตรงๆ ไม่ชอบครับ 555
มันอดเทียบไม่ได้กับงานอย่าง The Black Swan ของ Nassim Taleb อาจจะพบได้ว่าความมีสหสัมพันธ์(Correlation) ของ Nassim Nicholas Taleb กับนักปรัชญาอย่าง Friedrich Nietzsche นั้นเน้นย้ำธรรมชาติของมนุษย์หรือ ความไม่มีเหตุและผลในบางจุดยืน
ย้อนกลับมาเป้าหมายของผู้เขียนทั้ง Pinker และ Taleb จุดประสงค์ก็ต่างกัน ตรงที่ Pinker จะเน้นไปที่การวิเคราะห์มนุษย์ถึงความมีเหตุและผล และมองว่ามันคือ DNA ดังนั้น เราจะมีความผาสุขในเหตุและผล โดยสิ่งเหล่านั้นนำเราไปสู่คนที่ดีกว่า
ส่วนจุดประสงค์ของ Taleb คือ ระวังสิ่งที่อธิบายไม่ได้จะเกิดขึ้นกับตัวคุณเอง และคุณจะรับมือมันผ่านเหตุและผลอย่างไร ?
ซึ่งจุดเชื่อมของทั้งสองคือ Daniel Kahneman และ Amos Tversky สองนักจิตวิทยาผู้ยิ่งใหญ่ที่พึ่งเสียชีวิตไป ไม่นานมานี้
แต่ที่แตกต่างกันไปคือทฤษฎีที่อธิบายแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ แม้ว่าตัว Economic Behavior จะพึ่งมีมาไม่นานเทียบเท่า Classic Economic (ตรงนี้เราจะไม่ใช้มาร์กซ์นะ ใครเรียกไอ้มาร์กซ์มาปน พ่อมึงตายไอ้ควาย) โดยวิถีการกำกับดูแลหรือ สหสัมพันธ์ (Correlation) ของ Modern Capitalism ที่มากำหนดนโยบายต่างมีที่มาจากสำนัก Chicago หรือ การมองเหตุและผลที่สัมพันธ์กันของมนุษย์ รวมถึงภาครัฐ นั่นคือเหตุและผล ซึ่งไม่ต้องแปลกใจเมื่อคุณไปอ่านประวัติ Pinker จะพบว่าเค้าเป็นผู้สนับสนุนพรรค Democrat อย่างสุดขั้วหัวใจ
ส่วนแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ของ Taleb นั้น Related กับ Fredrich Hayek และ Frederic Bastiat ในการอธิบายความไม่มีเหตุและผลของมนุษย์ซึ่งก่อให้เกิด เหตุและผลของการกระทำ
ตรงจุดนี้เราจะพบว่า ในโลกยุคปัจจุบัน มี ความจริงแบ่งเป็นชุด ให้เราได้เลือกเชื่อและเป็นเหมือนผลลัพธ์ หรือ รากฐานของการกระทำของมนุษย์
ซึ่งแม้แต่ความจริงในบางเวลาก็เปรียบเสมือนข้อมูลเท็จในโลกแห่งหนึ่งเมื่ เวลาผ่านไป
ผมไม่มีบทสรุปให้กับสองแนวคิด แต่เมื่ออ่านให้ลึกซึ้งก็น่าสนใจว่าเราเลือกสิ่งไหน ที่เป็นเหตุและผล จริงๆ ในการประกอบชีวิต
เพราะแม้แต่เรื่องชาวบ้านก็เป็นเรื่องไร้แก่นสารที่เราเอาไว้พูดคุยกัน
#siamstr #siambookclub
