Northster on Nostr: สมการความชิบหาย ...
สมการความชิบหาย
quoting nevent1q…xtuw"ท่านสุลต่านสมนึกนี่ร่ำรวยสุด ๆ ไปเลยนะครับ ใช้จ่ายเดือน 2-3 แสน"
.
"อ๋อ รายได้กู 20,000 ที่เหลือกู้มาอ่ะ พอดีเอาที่ดินที่พ่อแม่หามาอย่างยากลำบากไปค้ำ แล้วแบงก์ก็ดันให้กู้เฉย โชคดีจังเล้ย 555+ คือของมันต้องมีน่ะหนุ่ม เสียเงินไม่ว่าต้องแอคหล่อซักท่าให้ได้"
.
นี่คือการวัดความมั่งคั่งสมนึกโดยตามหลัก GDP
GDP โตสูงมากไม่ได้หมายความว่าประเทศเจริญรุ่งเรืองมาก แต่มันหมายถึงการสร้างภาระค่าใช้จ่ายมาก ซึ่งต้องมานั่งดูว่า เศรษฐกิจเติบโตสอดคล้องกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ หรือเป็นเพียงการใช้จ่ายเกินตัว สุรุ่ยสุร่าย ไร้ประโยชน์ เป็นแค่เบี้ยหัวแตกที่ทำให้ตัวเลขดูดีได้แค่สั้นๆ และสร้างความฉิบหายระยะยาว
สมการ GDP ของเคนเซี่ยน เท่ากับ
C+I+G+(x-m)
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
1. C = การบริโภค - ยิ่งใช้มากยิ่งดี รัฐกระตุ้นประชาชนใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินตัว หาเงินได้เท่าไรใช้เกินกว่านั้น
ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่หมดไปกับสิ่งที่ฉาบฉวย ตอบสนองความฟินระยะสั้นและไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ
.
2. I = การลงทุกภาคเอกชน - รัฐอัดฉีดเม็ดเงินสร้างง่ายมห้เอาไปใล้จ่ายทิ้งๆ ขว้างๆ ธุรกิจเอกชนลงทุนผิดพลาด เม็ดเงินที่ใช้จ่ายไปไร้ผลตอบแทน เหลือทิ้งไว้แค่หนี้ก้อนโตที่ต้องที่ต้องผ่อนจ่าย
.
3. G = การลงทุนภาครัฐ - ภาครัฐใช้จ่ายเลอะเทอะ (อย่างที่เป็นอยู่) เงินไม่พอใช้ก็ไปกู้มาโดยเอาประเทศและเงินประชาชนค้ำประกัน
อะไรควรใช้ไม่ใช้ อะไรไม่ควรก็ใช้จัง โยนทิ้งเม็ดเงินภาษีที่ขูดรีดมาจากประชาชนในแบบที่ประชาชนแทยไม่ได้รับประโยชน์กลับมา กว่าครึ่งใช้ไปกับค่าจ้างให้กับระบบการทำงานที่ล้มเหลว รวมถึงเงินก้อนมโหฬารอีกส่วนก็ทำสูญหายจากการทุจริตทุกหย่อมหญ้า เอาไปเพิ่มอัตราการจ้างงานปลอมๆ เพื่อกดตัวเลขการว่างให้ต่ำแบบปลอม ๆ ไร้ประโยชน์ต่อประเทศชาติสิ้นดี หวังผลระยะสั้นเพราะระยะยาวเดี๋ยวคนจะไม่เห็น เดี๋ยวเลือกตั้งครั้งหน้าคนไม่เลือก
.
4. x = การส่งออก - โดนล่อผลประโยชน์จากชาติยักษ์ใหญ่จนโงหัวไม่ขึ้น โดนล่อให้มุ่งเน้นการผลิตสินค้าที่มหาอำนาจต้องการในราคาแสนเหี้ย ปล่อยให้เขาเข้ามาสูบทรัพยากรอันล้ำค่าของประเทศแบบหน้าตาเฉย ลดการผลิตเพื่อการบริโภคภายในประเทศเพื่อการส่งออกให้มากที่สุด เกษตรกรและแรงงานจนเหมือนเดิม มีแต่มึงและพวกพ้องนั่นแหละที่ได้ประโยชน์ คนทั้งชาติเสียหาย แต่รัฐกลับประกาศอย่างภาคภูมิใจว่าเราประสบผลสำเร็จ เศรษฐกิจเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
.
5. m = การนำเข้า - เมื่อถูกชักจูงให้สินค้าส่วนใหญ่ที่ผลิตในประเทศคือการผลิตเพื่อส่งออก สินค้าที่ผู้คนต้องกินต้องใช้ก็ขาดแคลน จำต้องซื้อสินค้าจากประเทศอื่นเข้ามาเพื่อให้เพียงพอต่อการบริโภค (โดยที่ประเทศร่ำรวยซื้อปัจจัยการผลิตจากเราถูก ๆ เอาไปผลิตและส่งกลับมาขายเราแพง ๆ นี่แหละ) และรัฐก็ประกาศอย่างมั่นหน้ามั่นโหนกว่าตัวเลขการนำเข้าพุ่งสูงขึ้นทำให้ GDP เติบโต สะท้อนว่าประชาชนอยู่ดีกินดี แฮปปี้ซู๊ด ๆ
.
ลูปสันดานนรกชาติชั่วนี้ส่งผลให้เมื่อเวลาผ่านไปประเทศด้อยพัฒนาก็เข้าสู่สถานะไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้โดยสมบูรณ์ ไม่อนุญาตให้เกิดอุบัติเหตุหรือภาวะฉุกเฉินใด ๆ เพราะเมื่อชักหน้าไม่ถึงหลัง ประเทศขาดสภาพคล่อง ก็จะไม่มีเงินไปนำเข้าสินค้าและจ่ายต้นจ่ายดอกจากหนี้ที่ก่อไว้
.
ประชาชนจึงตกอยู่ในสถานะอดอยากปากแห้งไม่มีจะแดก และขาดสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิต
แบบ " ฉับพลัน" สินค้าส่วนนึงที่ไหลเข้ามาในประเทศก็จะถูกแย่งกินแย่งใช้จนราคาพุ่งสูงไปไกล สถานะของสกุลเงินชาติก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ
.
สมการเหล่านี้ ไม่มีการให้ความสำคัญกับ "รายได้" เลยแม้แต่นิด การวัดความร่ำรวยมั่งคั่งด้วยการดูว่าใช้จ่ายเงินไปเท่าไร สร้างประโยชน์มั้ยหรือใช้ฟุ่มเฟือยทิ้งขว้างไปวัน ๆ โดยที่รายได้ "ติดลบ" มโหฬาร และดูเหมือนจะติดลบมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าประเทศเปรียบเป็นสถานะคนๆ นึง คิดว่ามันจะรอดมั้ยล่ะครับ?
นี่ละครับเรื่องตลกของวันนี้ ขำน้ำตาไหล
#Siamstr #SiamesBicoiners