GaLoM ₿maxi on Nostr: ว่ากันว่า “ถ้าเรียนรู้อดีต ...
ว่ากันว่า “ถ้าเรียนรู้อดีต จะเข้าใจปัจจุบัน และจะแลเห็นอนาคต”
ประโยคนี้เป็นจริงเสมอ เมื่อเรามองย้อนกลับไปในหลายยุคสมัยที่มนุษย์เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ สิ่งใหม่เข้ามาแทนที่สิ่งเก่าที่เคยคุ้นชิน เหมือนกับตอนที่ผู้คนเคยลังเลใจที่จะทิ้งม้าคู่ใจและหันมาใช้รถยนต์ หรือเมื่อครั้งที่อินเทอร์เน็ตเริ่มเข้ามามีบทบาท แต่กลับถูกมองว่าเป็นเพียง "กระแสชั่วคราว" เท่านั้น และทุกครั้งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ผู้คนที่ยังไม่เห็นศักยภาพก็พากันลังเลและต่อต้าน
ลองมองย้อนกลับในยุคนั้น ม้ายังคงเป็นพาหนะสำคัญ คนทั่วไปใช้มันในการเดินทาง การขนส่ง และการทำงาน เมื่อรถยนต์เริ่มเข้ามา ผู้คนต่างตั้งคำถามว่านี่จะเป็นสิ่งที่ดีกว่าจริงหรือ? คุ้มค่ากับการเปลี่ยนแปลงไหม? พ่อค้าขายอานม้าพยายามโน้มน้าวว่าม้าไม่ต้องเติมน้ำมัน ไม่ต้องซ่อมบำรุงเหมือนรถยนต์ และจะพาคุณเดินทางได้ในทุกสภาพอากาศ แต่ในท้ายที่สุด รถยนต์ก็กลายมาเป็นสิ่งจำเป็นของมนุษย์ และเราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงกรอบความคิดครั้งสำคัญหรือ paradigm shift ที่เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล
อีกตัวอย่างหนึ่งคือภาพข่าว นสพ.Daily mail เกี่ยวกับ Internet ในปี 2000 ซึ่งสื่อบางแห่งเชื่อว่า Internet อาจเป็นเพียงเทรนด์ที่มาแล้วก็จะไป พวกเขารายงานว่ามีคนเลิกใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมาก และมองว่านี่อาจเป็น "แฟชั่น" ที่ไม่น่าจะอยู่ได้นาน แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราก็เห็นชัดเจนว่าอินเทอร์เน็ตได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเราทุกคน ไม่มีใครปฏิเสธถึงพลังของมันได้ การสื่อสาร การทำงาน และการดำเนินธุรกิจ ทุกอย่างถูกเชื่อมโยงกันผ่านอินเทอร์เน็ต นี่คือ paradigm shift ที่ใหญ่หลวงอีกครั้ง ซึ่งในเวลานั้นหลายคนยังไม่สามารถมองเห็นอนาคตได้ชัดเจน
และในวันนี้ เรากำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง และครั้งนี้มันคือ บิทคอยน์ ที่เดิมถูกมองเป็นแค่ nerd money แต่ตอนนี้มันกำลังเปลี่ยนแปลงกรอบความคิดเรื่องการเงินในระดับโลก คนจำนวนไม่น้อยยังคงตั้งคำถามว่า "บิทคอยน์จะเป็นเพียงกระแสชั่วคราวเหมือนที่พวกเขาคิดกับอินเทอร์เน็ตในอดีตหรือไม่?" พวกเขายังลังเลใจที่จะยอมรับมัน เพราะมันดูซับซ้อนและห่างไกลจากความคุ้นเคย
แต่ถ้าเรามองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ทุกๆ การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ล้วนเผชิญกับความสงสัย รถยนต์ที่มาแทนม้า อินเทอร์เน็ตที่แทนที่การสื่อสารแบบดั้งเดิม และในวันนี้ บิทคอยน์กำลังท้าทายระบบการเงินที่เราคุ้นเคย มันคือการกระจายศูนย์ที่ไม่ต้องพึ่งพาธนาคาร ไม่ต้องการตัวกลางใดๆ นี่คือการปฏิวัติระบบการเงินที่อาจเปลี่ยนแปลงโลกของเราเหมือนกับที่อินเทอร์เน็ตได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา
ดังนั้น หากเราย้อนมองประวัติศาสตร์ เราจะเห็นได้ว่าทุกๆ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก ล้วนมีช่วงเวลาที่คนยังมองไม่เห็นอนาคต แต่ท้ายที่สุด สิ่งใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการและสร้างประโยชน์ได้ดีกว่า ก็จะถูกยอมรับและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน หรือเป็น ‘ความจริงใหม่’ เหมือนกับรถยนต์ เหมือนกับอินเทอร์เน็ต และบางที อนาคตของบิทคอยน์ก็อาจจะไม่ต่างกัน
paradigm shift กำลังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเรา และคำถามคือ เราจะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนี้หรือไม่?
Choice is yours.
#siamstr
ประโยคนี้เป็นจริงเสมอ เมื่อเรามองย้อนกลับไปในหลายยุคสมัยที่มนุษย์เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ สิ่งใหม่เข้ามาแทนที่สิ่งเก่าที่เคยคุ้นชิน เหมือนกับตอนที่ผู้คนเคยลังเลใจที่จะทิ้งม้าคู่ใจและหันมาใช้รถยนต์ หรือเมื่อครั้งที่อินเทอร์เน็ตเริ่มเข้ามามีบทบาท แต่กลับถูกมองว่าเป็นเพียง "กระแสชั่วคราว" เท่านั้น และทุกครั้งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ผู้คนที่ยังไม่เห็นศักยภาพก็พากันลังเลและต่อต้าน
ลองมองย้อนกลับในยุคนั้น ม้ายังคงเป็นพาหนะสำคัญ คนทั่วไปใช้มันในการเดินทาง การขนส่ง และการทำงาน เมื่อรถยนต์เริ่มเข้ามา ผู้คนต่างตั้งคำถามว่านี่จะเป็นสิ่งที่ดีกว่าจริงหรือ? คุ้มค่ากับการเปลี่ยนแปลงไหม? พ่อค้าขายอานม้าพยายามโน้มน้าวว่าม้าไม่ต้องเติมน้ำมัน ไม่ต้องซ่อมบำรุงเหมือนรถยนต์ และจะพาคุณเดินทางได้ในทุกสภาพอากาศ แต่ในท้ายที่สุด รถยนต์ก็กลายมาเป็นสิ่งจำเป็นของมนุษย์ และเราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงกรอบความคิดครั้งสำคัญหรือ paradigm shift ที่เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล
อีกตัวอย่างหนึ่งคือภาพข่าว นสพ.Daily mail เกี่ยวกับ Internet ในปี 2000 ซึ่งสื่อบางแห่งเชื่อว่า Internet อาจเป็นเพียงเทรนด์ที่มาแล้วก็จะไป พวกเขารายงานว่ามีคนเลิกใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมาก และมองว่านี่อาจเป็น "แฟชั่น" ที่ไม่น่าจะอยู่ได้นาน แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราก็เห็นชัดเจนว่าอินเทอร์เน็ตได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเราทุกคน ไม่มีใครปฏิเสธถึงพลังของมันได้ การสื่อสาร การทำงาน และการดำเนินธุรกิจ ทุกอย่างถูกเชื่อมโยงกันผ่านอินเทอร์เน็ต นี่คือ paradigm shift ที่ใหญ่หลวงอีกครั้ง ซึ่งในเวลานั้นหลายคนยังไม่สามารถมองเห็นอนาคตได้ชัดเจน
และในวันนี้ เรากำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง และครั้งนี้มันคือ บิทคอยน์ ที่เดิมถูกมองเป็นแค่ nerd money แต่ตอนนี้มันกำลังเปลี่ยนแปลงกรอบความคิดเรื่องการเงินในระดับโลก คนจำนวนไม่น้อยยังคงตั้งคำถามว่า "บิทคอยน์จะเป็นเพียงกระแสชั่วคราวเหมือนที่พวกเขาคิดกับอินเทอร์เน็ตในอดีตหรือไม่?" พวกเขายังลังเลใจที่จะยอมรับมัน เพราะมันดูซับซ้อนและห่างไกลจากความคุ้นเคย
แต่ถ้าเรามองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ทุกๆ การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ล้วนเผชิญกับความสงสัย รถยนต์ที่มาแทนม้า อินเทอร์เน็ตที่แทนที่การสื่อสารแบบดั้งเดิม และในวันนี้ บิทคอยน์กำลังท้าทายระบบการเงินที่เราคุ้นเคย มันคือการกระจายศูนย์ที่ไม่ต้องพึ่งพาธนาคาร ไม่ต้องการตัวกลางใดๆ นี่คือการปฏิวัติระบบการเงินที่อาจเปลี่ยนแปลงโลกของเราเหมือนกับที่อินเทอร์เน็ตได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา
ดังนั้น หากเราย้อนมองประวัติศาสตร์ เราจะเห็นได้ว่าทุกๆ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก ล้วนมีช่วงเวลาที่คนยังมองไม่เห็นอนาคต แต่ท้ายที่สุด สิ่งใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการและสร้างประโยชน์ได้ดีกว่า ก็จะถูกยอมรับและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน หรือเป็น ‘ความจริงใหม่’ เหมือนกับรถยนต์ เหมือนกับอินเทอร์เน็ต และบางที อนาคตของบิทคอยน์ก็อาจจะไม่ต่างกัน
paradigm shift กำลังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเรา และคำถามคือ เราจะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนี้หรือไม่?
Choice is yours.
#siamstr