kafka on Nostr: ประเด็น ไทย ส่งช้าง ออกไปเป็น ...
ประเด็น ไทย
ส่งช้าง ออกไปเป็น ทูตสันถวไมตรี ในหลายประเทศ
2 ทศวรรษ 2540‘s + 2550’s
ไทยส่งช้าง~20เชือก
ไปเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ชะตากรรม/ชีวิต ของช้างเหล่านั้น มีทั้งสุขและทุกข์ทรมาน
ช้างฮานาโกะ ที่ญี่ปุ่น
ช้างที่ศรีลังกา ที่ไม่ได้รับการดูแลที่ดี… จนไม่นานมานี้ ชาวไทยหลายคนช่วยส่งตัวกลับมาไทย
ช้างที่ถูกขายต่อ?
ช้างที่ออสเตรเลีย
ช้างที่ชื่อ ซากุระ ถูกขายต่อ
ช้าง พังHappy ที่ Bronx, NYC นิวยอร์ค
.
จนถึงการแสดงโชว์ กอริลล่า ชื่อ “บัวน้อย”
ที่สวนสัตว์ในห้าง “พาต้า” ตั้งแต่ ปี 2535
ซึ่งหลายคนบอกว่า พื้นที่ใหญ่ มีกิจกรรมให้กอริลล่าทำเยอะ อาหารพร้อม มีคนดูแลดี (อันนี้ดี ขอชม)
แต่! ประเด็น confinement ในที่จำกัด ไม่ว่าที่นั้นๆ จะใหญ่แค่ไหนก็ตาม
“หากเป็นคุณ ที่เป็น homo sapiens คนเราจะสามารถอยู่ในบ้านตัวเอง 20-30 ปี ห้ามออกนอกบ้าน” ได้มั๊ย?
คุณทำได้มั๊ย? บ้านใหญ่ 10 ไร่ อยู่ 20 ปีห้ามออก
คอนโด 400 ตรม ทองหล่อ ชิดลม อาหารพร้อม อยู่ 20 ปี ห้ามออก
คุณทำไม่ได้!
.
ในอดีตช่วง 1850-1950 มีคณะละครสัตว์มากมายทั่วโลก
ทำร้ายสัตว์ และ คนแปลก/คนประหลาด มากมาย
ขัง ทรมาน / ตี ทำร้าย (not all)
(ก็มีบ้างที่รักจริง แต่ก็ต้องฝึก ต้องฝืน ให้ทำการแสดงโชว์)
จนทั่วโลกเริ่ม ban คณะละครสัตว์ แบบค่อยๆ หายไป gradually
ในอเมริกา/ยุโรป ช่วง ร4 - ร6, มีคณะโชว์ประเภทที่เรียกว่า
“FREAK SHOW”
(คณะละครสัตว์/คณะโชว์ตัวประหลาด)
เช่น คนมีขนทั้งตัวแบบลิง / คนตัวเล็ก / คนสองหัว (Siamese twins / Conjoined twins มีหลายประเภท) etc
[ ตัวอย่างดูได้ใน ซีรีส์ดัง
”American Horror Story: Freak Show ]
.
หนึ่งใน เรื่อง เศร้า คือ ตัวประหลาด หญิง ชาวไทย/สยาม
ที่ถูกซื้อตัวไปโชว์ตัวประหลาด
[ เหตุการณ์ เกิดสมัย ร5 - ร6 ]
ถูกจับ/ถูกซื้อตัว จากหมู่บ้านในภาคเหนือของไทย (ล้านนา) ตั้งแต่สมัย ร5
เธอ คือ คุณ “เครา แฟรินี่” [ KRAO FARINI ]
จนบั้นปลายชีวิต คุณเครา เสียชีวิตโดดเดี่ยว ในห้องเล็กๆ จากโรคปอดบวม ที่ New York City (NYC)
ปัจจุบัน เรารู้ว่า อาการ ขนขึ้นทั่วใบหน้า/ลำตัว/ทั้งตัว เป็น ภาวะทางพันธุกรรม “HYPERTRICHOSIS”
ไม่ใช่เป็นลิง
ไม่ใช่เป็นตัวประหลาด
ไม่ใช่เป็น the missing link ระหว่าง คน/ลิง
ตอนก่อนตาย “เครา Krao Farini” บอกประมาณว่า ไม่อยากให้ใครมาจ้องมาดูร่างเธอ เธอขอให้เผาร่าง (cremated)
ปัจจุบัน การเอาคนประหลาด/คนที่ดูต่างจากคนทั่วไป มาโชว์เหลือน้อยลงแล้ว แต่ยังมีอยู่ (eg งานวัด)
แต่การเอาสัตว์มาโชว์ เพื่อหารายได้ ยังมีอยู่มากมาย
สงสาร/เศร้า/ทุกข์/เจ็บปวด/เครียด/กักขัง/ทรมาน
.
ปัจจุบัน ยังมีโลมาโชว์, โชว์เสือ, โชว์สัตว์แปลก ในโลก
ความเจ็บปวดทรมาน
ความทุกข์
ความสิ้นหวัง
จากการแสดงโชว์ คน/สัตว์ ควรค่อยๆ หมดไปจากโลกนี้ gradually
เหลือไว้แต่เพียง “Wildlife Sanctuary”
[ no zoo / no circus ]
[ ไม่ต้องมีสวนสัตว์/ไม่ต้องมีแสดงโชว์สัตว์ ]
[ ปล่อยให้สัตว์บก/ทะเล/โลมา/เสือ/ช้าง/สัตว์ต่างๆ อยู่ในธรรมชาติ เกิด/เจ็บ/ตาย>>>ในระบบนิเวศน์เท่านั้นที่ดีที่สุด ไม่ควรมีสวนสัตว์ ]
“Wildlife Sanctuary” คือ สถานที่รักษาสัตว์ (ไม่แสวงหารายได้/การบริจาค/เงินทอง จากสัตว์)
“Wildlife Sanctuary” รักษาสัตว์ที่เราเจอตอนที่เค้าป่วยเจ็บ จากอุบัติเหตุ/โรค ในถิ่นที่อยู่ธรรมชาติ (ส่วนที่เราไม่เจอ จนเค้าตายไปเองตามธรรมชาติ ก็ดีอยู่แล้ว = วิถีธรรมชาติ)
ถ้า เจ้าหน้าที่ ไปเจอสัตว์เจ็บ/สัตว์ป่วย ก็พาเค้ามารักษาดูแล จนหายก็ปล่อยกลับธรรมชาติไป
ส่งช้าง ออกไปเป็น ทูตสันถวไมตรี ในหลายประเทศ
2 ทศวรรษ 2540‘s + 2550’s
ไทยส่งช้าง~20เชือก
ไปเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ชะตากรรม/ชีวิต ของช้างเหล่านั้น มีทั้งสุขและทุกข์ทรมาน
ช้างฮานาโกะ ที่ญี่ปุ่น
ช้างที่ศรีลังกา ที่ไม่ได้รับการดูแลที่ดี… จนไม่นานมานี้ ชาวไทยหลายคนช่วยส่งตัวกลับมาไทย
ช้างที่ถูกขายต่อ?
ช้างที่ออสเตรเลีย
ช้างที่ชื่อ ซากุระ ถูกขายต่อ
ช้าง พังHappy ที่ Bronx, NYC นิวยอร์ค
.
จนถึงการแสดงโชว์ กอริลล่า ชื่อ “บัวน้อย”
ที่สวนสัตว์ในห้าง “พาต้า” ตั้งแต่ ปี 2535
ซึ่งหลายคนบอกว่า พื้นที่ใหญ่ มีกิจกรรมให้กอริลล่าทำเยอะ อาหารพร้อม มีคนดูแลดี (อันนี้ดี ขอชม)
แต่! ประเด็น confinement ในที่จำกัด ไม่ว่าที่นั้นๆ จะใหญ่แค่ไหนก็ตาม
“หากเป็นคุณ ที่เป็น homo sapiens คนเราจะสามารถอยู่ในบ้านตัวเอง 20-30 ปี ห้ามออกนอกบ้าน” ได้มั๊ย?
คุณทำได้มั๊ย? บ้านใหญ่ 10 ไร่ อยู่ 20 ปีห้ามออก
คอนโด 400 ตรม ทองหล่อ ชิดลม อาหารพร้อม อยู่ 20 ปี ห้ามออก
คุณทำไม่ได้!
.
ในอดีตช่วง 1850-1950 มีคณะละครสัตว์มากมายทั่วโลก
ทำร้ายสัตว์ และ คนแปลก/คนประหลาด มากมาย
ขัง ทรมาน / ตี ทำร้าย (not all)
(ก็มีบ้างที่รักจริง แต่ก็ต้องฝึก ต้องฝืน ให้ทำการแสดงโชว์)
จนทั่วโลกเริ่ม ban คณะละครสัตว์ แบบค่อยๆ หายไป gradually
ในอเมริกา/ยุโรป ช่วง ร4 - ร6, มีคณะโชว์ประเภทที่เรียกว่า
“FREAK SHOW”
(คณะละครสัตว์/คณะโชว์ตัวประหลาด)
เช่น คนมีขนทั้งตัวแบบลิง / คนตัวเล็ก / คนสองหัว (Siamese twins / Conjoined twins มีหลายประเภท) etc
[ ตัวอย่างดูได้ใน ซีรีส์ดัง
”American Horror Story: Freak Show ]
.
หนึ่งใน เรื่อง เศร้า คือ ตัวประหลาด หญิง ชาวไทย/สยาม
ที่ถูกซื้อตัวไปโชว์ตัวประหลาด
[ เหตุการณ์ เกิดสมัย ร5 - ร6 ]
ถูกจับ/ถูกซื้อตัว จากหมู่บ้านในภาคเหนือของไทย (ล้านนา) ตั้งแต่สมัย ร5
เธอ คือ คุณ “เครา แฟรินี่” [ KRAO FARINI ]
จนบั้นปลายชีวิต คุณเครา เสียชีวิตโดดเดี่ยว ในห้องเล็กๆ จากโรคปอดบวม ที่ New York City (NYC)
ปัจจุบัน เรารู้ว่า อาการ ขนขึ้นทั่วใบหน้า/ลำตัว/ทั้งตัว เป็น ภาวะทางพันธุกรรม “HYPERTRICHOSIS”
ไม่ใช่เป็นลิง
ไม่ใช่เป็นตัวประหลาด
ไม่ใช่เป็น the missing link ระหว่าง คน/ลิง
ตอนก่อนตาย “เครา Krao Farini” บอกประมาณว่า ไม่อยากให้ใครมาจ้องมาดูร่างเธอ เธอขอให้เผาร่าง (cremated)
ปัจจุบัน การเอาคนประหลาด/คนที่ดูต่างจากคนทั่วไป มาโชว์เหลือน้อยลงแล้ว แต่ยังมีอยู่ (eg งานวัด)
แต่การเอาสัตว์มาโชว์ เพื่อหารายได้ ยังมีอยู่มากมาย
สงสาร/เศร้า/ทุกข์/เจ็บปวด/เครียด/กักขัง/ทรมาน
.
ปัจจุบัน ยังมีโลมาโชว์, โชว์เสือ, โชว์สัตว์แปลก ในโลก
ความเจ็บปวดทรมาน
ความทุกข์
ความสิ้นหวัง
จากการแสดงโชว์ คน/สัตว์ ควรค่อยๆ หมดไปจากโลกนี้ gradually
เหลือไว้แต่เพียง “Wildlife Sanctuary”
[ no zoo / no circus ]
[ ไม่ต้องมีสวนสัตว์/ไม่ต้องมีแสดงโชว์สัตว์ ]
[ ปล่อยให้สัตว์บก/ทะเล/โลมา/เสือ/ช้าง/สัตว์ต่างๆ อยู่ในธรรมชาติ เกิด/เจ็บ/ตาย>>>ในระบบนิเวศน์เท่านั้นที่ดีที่สุด ไม่ควรมีสวนสัตว์ ]
“Wildlife Sanctuary” คือ สถานที่รักษาสัตว์ (ไม่แสวงหารายได้/การบริจาค/เงินทอง จากสัตว์)
“Wildlife Sanctuary” รักษาสัตว์ที่เราเจอตอนที่เค้าป่วยเจ็บ จากอุบัติเหตุ/โรค ในถิ่นที่อยู่ธรรมชาติ (ส่วนที่เราไม่เจอ จนเค้าตายไปเองตามธรรมชาติ ก็ดีอยู่แล้ว = วิถีธรรมชาติ)
ถ้า เจ้าหน้าที่ ไปเจอสัตว์เจ็บ/สัตว์ป่วย ก็พาเค้ามารักษาดูแล จนหายก็ปล่อยกลับธรรมชาติไป