Heisenberg on Nostr: “Why does lowering your time preferences sometimes fail?” ...
“Why does lowering your time preferences sometimes fail?”
“หากเราต้องรอนานจนเกินไปสมองส่วนเดียวกันกับเวลาที่เราบาดเจ็บจะถูกกระตุ้น แปลว่ายิ่งนาน ยิ่งเจ็บ”
ค้นพบหนังสือเล่มหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับ Marketing และ Neuroscience ที่น่าสนใจ “สมองสั่งซื้อ” เขียนโดย นพ.อุเทน บุญอรณะ เป็นเรื่องราวที่ผสมผสานศาสตร์ทางด้านประสาทวิทยาและการตลาดได้อย่างลงตัว แม้ว่าคำศัพท์เฉพาะทางอาจจะเยอะไปหน่อย แต่เชื่อว่าพอทำความเข้าใจได้แล้วก็จะไปได้ไว สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในหนังสือก็คือเรื่องราวของ Temporal Discounting
Temporal Discounting เป็นกลไกในสมองที่จะรักษาความสมดุลระหว่าง สิ่งที่จะได้ในอนาคต vs ระยะเวลาที่เราต้องรอถึงจะได้ หมายความว่า การที่เราต้องลงทุนไปก่อน ชำระเงินไปก่อน รอไปก่อน เดี๋ยวมันจะได้ผลดีในภายหลังจะส่งผลให้สมองประเมินผิดพลาดและทำให้มีโอกาสพ่ายแพ้จากความสุข ณ ปัจจุบันสูง
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น การออกกำลังกายที่ถือว่าเป็นการสร้าง PoW อย่างหนึ่ง คนเราจะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง หรือ ต้องการลดน้ำหนักเพื่อให้เห็นผลลัพธ์นั้นต้องอาศัยเวลาทุ่มเทและลงแรงอย่างเหนื่อยยาก แต่ในขณะเดียวกันความสุขจากการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะ ของหวาน นั้นเห็นผลได้ในทันที มีหลายคนเลยทีเดียวที่ล้มเลิกการออกกำลังกายไปกลางคันกันเสียก่อน หลาย ๆ ครั้งเป็นเพราะพ่ายแพ้ต่อโดนัทที่ล่อตาล่อใจอยู่ตรงหน้า แม้การออกกำลังกายกับการรับประทานอาหารจะเป็นคนละเรื่องกัน แต่**สมองของเราประเมินความสุขจากสิ่งล่อใจ ณ ปัจจุบันกับสิ่งที่สร้างความพอใจในอนาคตไว้เป็นเรื่องเดียวกัน** ทำให้ความสุข ณ ปัจจุบันเอาชนะไปอย่างง่ายดาย
สาเหตุที่เราพ่ายแพ้เป็นเพราะเมื่อเกิดการรอคอย หากเราต้องรอนานจนเกินไปสมองในส่วน Insular ซึ่งเป็นส่วนเดียวกันกับเวลาที่เราเกิดอาการบาดเจ็บจะถูกกระตุ้น แปลว่าการรอคอยที่ยิ่งนาน ก็ยิ่งเจ็บ และจากตัวอย่างข้างต้นเรื่องของการออกกำลังกาย เราไม่สามารถตอบคำถามหรือระบุเวลาได้แน่ชัดว่าจะเห็นผล Sixpack จะมาเมื่อไหร่ น้ำหนักจะลดลงตามเป้าหมายหรือไม่ การออกกำลังกายนอกจากจะทำให้บาดเจ็บกล้ามเนื้อแล้ว หากต้องรอคอยเพื่อผลลัพธ์ที่คาดหวังอันแสนเนิ่นนานยังกระตุ้นให้เจ็บช้ำขึ้นไปอีก
ย้อนกลับมาที่เรื่องของเรา ไม่แปลกใจเลยที่ ทำไมการลด time preference ลง ถึงได้ล้มเหลว เพราะ การอดออมเงินเพื่อเพิ่มอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยในอนาคต เทียบกับการนำเงินมาใช้เลย สมองคิดว่าทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวกัน โดยเฉพาะหากอดออมในเงินที่เสื่อมมูลค่าลงเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้การลด time preference ลง ยิ่งทำได้ยากขึ้นไปอีก
ข่าวดีคือการศึกษา Bitcoin สามารถลดผลของ Temporal discounting ได้ ด้วยการอาศัยพฤติกรรมการสะสมเป็นสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในรากฐานวิวัฒนาการของมนุษย์ สมองส่วน Insular เจ้าเก่าอีกตามเคยจะคำนวณความเจ็บใจว่า “ถ้าในอนาคต เราไม่มีสิ่งนี้(แต่คนอื่นมี) เราจะรู้สึกไม่ดีขนาดไหน?” ทำให้เราเกิดความกลัวที่จะไม่มีสิ่งนี้
โดยพื้นฐานที่จะทำให้มนุษย์หันมาสะสม bitcoin หรือที่เรียกกันว่า Stack sats ได้นั้น ต้องผ่านการศึกษาทำความเข้าใจถึงคุณสมบัติ Store of value ของ bitcoin ได้อย่างลึกซึ้ง เช่น Limited supply ที่จำนวน bitcoin ทั้งหมดมีเพียงแค่ 21 ล้านเหรียญ ยิ่งนานวันมูลค่าของ Bitcoin ยิ่งสูงขึ้น ยิ่งหาได้ยากขึ้น จำนวน bitcoin ที่จะสะสมได้ก็มีจำนวนน้อยลง ๆ ไปเรื่อย ๆ เป็นความเจ็บปวดที่คิดว่า ใคร ๆ ก็มีแต่เราไม่มี ทำให้เราแสดงพฤติกรรมในการ Stack sats นั่นเอง
ในทางกลับกัน หากผู้ที่ถือ bitcoin ไม่ได้เข้าใจมันอย่างแท้จริง ยกตัวอย่างเหตุการณ์ในช่วง Bull run กลไก Temporal discounting จะเสียสมดุล ทำให้ผู้คนเหล่านั้นจะขาย bitcoin แปลงเป็นเงิน fiat เพื่อตอบสนองต่อความสุข ณ ปัจจุบันจากการที่มีเงิน fiat เพิ่มมากขึ้น โดยไม่ได้คำนึงถึงคุณสมบัติความเป็น Store of value ที่ดีหรือหากคนที่ยังไม่มี bitcoin พฤติกรรมการสะสม ก็จะทำให้ผู้คนหันมาสนใจและ stack sats กันมากขึ้น แม้ราคาจะสูงมากก็ตาม โดยคนเหล่านั้นมองว่า ถ้าคนอื่นมีแล้วเราไม่มีมันน่าเสียดาย จนเมื่อตลาด crash เข้าสู่ช่วง Bear market เพื่อเป็นการบรรเทาความเจ็บปวด คนที่ไม่เข้าใจ ก็จะมองว่า Bitcoin ตายแล้ว Bitcoin เป็น scam เป็นแชร์ลูกโซ่ ก็จะขายขาดทุน แทนที่จะมองว่าช่วง bear market นี้เป็นโอกาสในการ stack sats ได้จำนวนที่เยอะขึ้นในหน่วยเงิน fiat เท่าเดิม สุดท้ายจึงพลาดโอกาสที่จะสะสม bitcoin เมื่อถึงคราวที่ราคากลับมา bull run อีกครั้งก็เกิดเป็นวงจรความเจ็บใจและเสียโอกาสไปนั่นเอง
ดังนั้นการเข้าใจ Bitcoin อย่างลึกซึ้ง ทำให้เราเกิดพฤติกรรมการสะสม ซึ่งมีผลต่อความเจ็บใจที่ไม่ได้ครอบครอง เอาชนะความสุข ณ ปัจจุบัน และเป็นตัวช่วยให้เรารักษาสมดุลของกลไก Temporal discounting เอาไว้ได้ Bitcoin ช่วยให้มองเห็นอนาคตที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเปรียบดั่งการเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ในฐานะที่เป็น Store of value ถึงแม้ว่าจะยังไม่เห็นปลายทางเสียทีว่าอนาคตจะต้องมี bitcoin มากน้อยแค่ไหน แต่การศึกษาและเข้าใจ Bitcoin ก็เป็นกำลังใจที่ดีในการก้าวเดินเพื่อลด time preference ลงได้
หากสนใจลองหาหนังสือมาอ่านกันได้ ในเล่มยังมีเนื้อหาอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย
#siamstr #writingpow
“หากเราต้องรอนานจนเกินไปสมองส่วนเดียวกันกับเวลาที่เราบาดเจ็บจะถูกกระตุ้น แปลว่ายิ่งนาน ยิ่งเจ็บ”
ค้นพบหนังสือเล่มหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับ Marketing และ Neuroscience ที่น่าสนใจ “สมองสั่งซื้อ” เขียนโดย นพ.อุเทน บุญอรณะ เป็นเรื่องราวที่ผสมผสานศาสตร์ทางด้านประสาทวิทยาและการตลาดได้อย่างลงตัว แม้ว่าคำศัพท์เฉพาะทางอาจจะเยอะไปหน่อย แต่เชื่อว่าพอทำความเข้าใจได้แล้วก็จะไปได้ไว สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในหนังสือก็คือเรื่องราวของ Temporal Discounting
Temporal Discounting เป็นกลไกในสมองที่จะรักษาความสมดุลระหว่าง สิ่งที่จะได้ในอนาคต vs ระยะเวลาที่เราต้องรอถึงจะได้ หมายความว่า การที่เราต้องลงทุนไปก่อน ชำระเงินไปก่อน รอไปก่อน เดี๋ยวมันจะได้ผลดีในภายหลังจะส่งผลให้สมองประเมินผิดพลาดและทำให้มีโอกาสพ่ายแพ้จากความสุข ณ ปัจจุบันสูง
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น การออกกำลังกายที่ถือว่าเป็นการสร้าง PoW อย่างหนึ่ง คนเราจะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง หรือ ต้องการลดน้ำหนักเพื่อให้เห็นผลลัพธ์นั้นต้องอาศัยเวลาทุ่มเทและลงแรงอย่างเหนื่อยยาก แต่ในขณะเดียวกันความสุขจากการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะ ของหวาน นั้นเห็นผลได้ในทันที มีหลายคนเลยทีเดียวที่ล้มเลิกการออกกำลังกายไปกลางคันกันเสียก่อน หลาย ๆ ครั้งเป็นเพราะพ่ายแพ้ต่อโดนัทที่ล่อตาล่อใจอยู่ตรงหน้า แม้การออกกำลังกายกับการรับประทานอาหารจะเป็นคนละเรื่องกัน แต่**สมองของเราประเมินความสุขจากสิ่งล่อใจ ณ ปัจจุบันกับสิ่งที่สร้างความพอใจในอนาคตไว้เป็นเรื่องเดียวกัน** ทำให้ความสุข ณ ปัจจุบันเอาชนะไปอย่างง่ายดาย
สาเหตุที่เราพ่ายแพ้เป็นเพราะเมื่อเกิดการรอคอย หากเราต้องรอนานจนเกินไปสมองในส่วน Insular ซึ่งเป็นส่วนเดียวกันกับเวลาที่เราเกิดอาการบาดเจ็บจะถูกกระตุ้น แปลว่าการรอคอยที่ยิ่งนาน ก็ยิ่งเจ็บ และจากตัวอย่างข้างต้นเรื่องของการออกกำลังกาย เราไม่สามารถตอบคำถามหรือระบุเวลาได้แน่ชัดว่าจะเห็นผล Sixpack จะมาเมื่อไหร่ น้ำหนักจะลดลงตามเป้าหมายหรือไม่ การออกกำลังกายนอกจากจะทำให้บาดเจ็บกล้ามเนื้อแล้ว หากต้องรอคอยเพื่อผลลัพธ์ที่คาดหวังอันแสนเนิ่นนานยังกระตุ้นให้เจ็บช้ำขึ้นไปอีก
ย้อนกลับมาที่เรื่องของเรา ไม่แปลกใจเลยที่ ทำไมการลด time preference ลง ถึงได้ล้มเหลว เพราะ การอดออมเงินเพื่อเพิ่มอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยในอนาคต เทียบกับการนำเงินมาใช้เลย สมองคิดว่าทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวกัน โดยเฉพาะหากอดออมในเงินที่เสื่อมมูลค่าลงเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้การลด time preference ลง ยิ่งทำได้ยากขึ้นไปอีก
ข่าวดีคือการศึกษา Bitcoin สามารถลดผลของ Temporal discounting ได้ ด้วยการอาศัยพฤติกรรมการสะสมเป็นสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในรากฐานวิวัฒนาการของมนุษย์ สมองส่วน Insular เจ้าเก่าอีกตามเคยจะคำนวณความเจ็บใจว่า “ถ้าในอนาคต เราไม่มีสิ่งนี้(แต่คนอื่นมี) เราจะรู้สึกไม่ดีขนาดไหน?” ทำให้เราเกิดความกลัวที่จะไม่มีสิ่งนี้
โดยพื้นฐานที่จะทำให้มนุษย์หันมาสะสม bitcoin หรือที่เรียกกันว่า Stack sats ได้นั้น ต้องผ่านการศึกษาทำความเข้าใจถึงคุณสมบัติ Store of value ของ bitcoin ได้อย่างลึกซึ้ง เช่น Limited supply ที่จำนวน bitcoin ทั้งหมดมีเพียงแค่ 21 ล้านเหรียญ ยิ่งนานวันมูลค่าของ Bitcoin ยิ่งสูงขึ้น ยิ่งหาได้ยากขึ้น จำนวน bitcoin ที่จะสะสมได้ก็มีจำนวนน้อยลง ๆ ไปเรื่อย ๆ เป็นความเจ็บปวดที่คิดว่า ใคร ๆ ก็มีแต่เราไม่มี ทำให้เราแสดงพฤติกรรมในการ Stack sats นั่นเอง
ในทางกลับกัน หากผู้ที่ถือ bitcoin ไม่ได้เข้าใจมันอย่างแท้จริง ยกตัวอย่างเหตุการณ์ในช่วง Bull run กลไก Temporal discounting จะเสียสมดุล ทำให้ผู้คนเหล่านั้นจะขาย bitcoin แปลงเป็นเงิน fiat เพื่อตอบสนองต่อความสุข ณ ปัจจุบันจากการที่มีเงิน fiat เพิ่มมากขึ้น โดยไม่ได้คำนึงถึงคุณสมบัติความเป็น Store of value ที่ดีหรือหากคนที่ยังไม่มี bitcoin พฤติกรรมการสะสม ก็จะทำให้ผู้คนหันมาสนใจและ stack sats กันมากขึ้น แม้ราคาจะสูงมากก็ตาม โดยคนเหล่านั้นมองว่า ถ้าคนอื่นมีแล้วเราไม่มีมันน่าเสียดาย จนเมื่อตลาด crash เข้าสู่ช่วง Bear market เพื่อเป็นการบรรเทาความเจ็บปวด คนที่ไม่เข้าใจ ก็จะมองว่า Bitcoin ตายแล้ว Bitcoin เป็น scam เป็นแชร์ลูกโซ่ ก็จะขายขาดทุน แทนที่จะมองว่าช่วง bear market นี้เป็นโอกาสในการ stack sats ได้จำนวนที่เยอะขึ้นในหน่วยเงิน fiat เท่าเดิม สุดท้ายจึงพลาดโอกาสที่จะสะสม bitcoin เมื่อถึงคราวที่ราคากลับมา bull run อีกครั้งก็เกิดเป็นวงจรความเจ็บใจและเสียโอกาสไปนั่นเอง
ดังนั้นการเข้าใจ Bitcoin อย่างลึกซึ้ง ทำให้เราเกิดพฤติกรรมการสะสม ซึ่งมีผลต่อความเจ็บใจที่ไม่ได้ครอบครอง เอาชนะความสุข ณ ปัจจุบัน และเป็นตัวช่วยให้เรารักษาสมดุลของกลไก Temporal discounting เอาไว้ได้ Bitcoin ช่วยให้มองเห็นอนาคตที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเปรียบดั่งการเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ในฐานะที่เป็น Store of value ถึงแม้ว่าจะยังไม่เห็นปลายทางเสียทีว่าอนาคตจะต้องมี bitcoin มากน้อยแค่ไหน แต่การศึกษาและเข้าใจ Bitcoin ก็เป็นกำลังใจที่ดีในการก้าวเดินเพื่อลด time preference ลงได้
หากสนใจลองหาหนังสือมาอ่านกันได้ ในเล่มยังมีเนื้อหาอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย
#siamstr #writingpow