What is Nostr?
maiakee
npub1hge…8hs2
2025-02-24 03:45:54

maiakee on Nostr: ...



🪷สนทนาธรรมระหว่างตถาคตกับสาวก: อริยสัจสี่และปฏิจจสมุปบาท


พระพุทธองค์ตรัสรู้และสั่งสอน อริยสัจสี่ (Four Noble Truths) อันเป็นหัวใจของพระธรรม เพื่อให้สัตว์ทั้งหลายพ้นจากทุกข์ บทสนทนาต่อไปนี้เป็นการอรรถาธิบายธรรมโดยอาศัยพุทธพจน์และการสนทนาระหว่าง พระตถาคต และ เหล่าสาวก

๑. ทุกข์: ชีวิตคือทุกข์

สาวก: ข้าแต่พระองค์ สิ่งใดเป็นทุกข์?

ตถาคต: ภิกษุทั้งหลาย!

“ชาติปิ ทุกฺขา ชราปิ ทุกฺขา มรณมฺปิ ทุกฺขํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสูปายาสาปิ ทุกฺขา” (ทุกข์คือ ความเกิด ความแก่ ความตาย ความโศกเศร้า ความร้องไห้ ความทุกข์ใจ ความคับแค้นใจ) (นิทาน ส. ๑๖/๔๘/๑๕๓)

๒. สมุทัย: เหตุแห่งทุกข์

สาวก: เหตุใดสัตว์โลกจึงต้องเวียนว่ายในทุกข์ พระองค์?

ตถาคต:

“ยนฺติ โลกสฺมิ งฺฆาเตน นิโยชนฺติ ตณฺหาย นโร สายํ ปสฺส พนฺธนา มจฺฉสฺส วุธฺราภิ” (สัตว์โลกถูกมัดไว้ด้วยตัณหา ถูกตัณหาพันธนาการ เหมือนปลาที่ติดอวน) (ขุททกนิกาย ธัมมปทะ ๓๔๒)

๓. นิโรธ: ความดับทุกข์เป็นไปได้

สาวก: หากทุกข์มีเหตุเกิด แล้วการดับทุกข์เป็นไปได้หรือไม่ พระองค์?

ตถาคต:

“โย สนฺตํ น ธมฺมํ อวิชฺชาย ปริยุฏฺฐิโต วิคาหติ ตํ ปุราณํ ทุกฺขํ อุทปฺปติ” (ผู้ที่หลงอยู่ในอวิชชา ย่อมดื่มด่ำในทุกข์เก่า แต่หากละอวิชชาได้ ทุกข์ก็ย่อมดับไป) (ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ ๙๑)

๔. มรรค: หนทางดับทุกข์

สาวก: พระองค์ หนทางดับทุกข์คือสิ่งใด?

ตถาคต:

“อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา” (ทางอันประเสริฐมีองค์แปด เป็นหนทางไปสู่ความดับทุกข์) (สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค ๑๖.๑๒.๒)

๕. ปฏิจจสมุปบาท: วงจรแห่งทุกข์

สาวก: พระองค์ ทุกข์เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?

ตถาคต:

“อิมสฺมึ สติ อิทํ โหติ อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชติ” (เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น) (สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ๑๒.๒)

๖. เหตุแห่งทุกข์: อวิชชา

สาวก: อะไรเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ พระองค์?

ตถาคต:

“อวิชฺชา ปจฺจยา สงฺขารา” (อวิชชาเป็นปัจจัยให้เกิดสังขาร) (สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ๑๒.๑)

๗. อนิจจัง: ความไม่เที่ยงของสังขาร

สาวก: ขันธ์ห้านี้เป็นของเราหรือไม่ พระองค์?

ตถาคต:

“รูปํ อนิจฺจํ เวทนา อนิจฺจา สญฺญา อนิจฺจา สงฺขารา อนิจฺจา วิญฺญาณํ อนิจฺจํ” (รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ล้วนเป็นอนิจจัง) (สังยุตตนิกาย ขันธวรรค ๒๒.๕๙)

๘. อนัตตา: ไม่มีสิ่งใดเป็นเรา

สาวก: สิ่งใดเป็นตัวตนของเรา พระองค์?

ตถาคต:

“น เม โส อตฺตา” (นั่นไม่ใช่ตัวเรา) (สังยุตตนิกาย ขันธวรรค ๒๒.๕๙)

๙. ทุกข์เกิดจากตัณหา

สาวก: ตัณหาทำให้เกิดทุกข์อย่างไร พระองค์?

ตถาคต:

“ตณฺหาย ชายเต โสโก ตณฺหาย ชายเต ภยํ” (เพราะตัณหา ความโศกจึงเกิดขึ้น เพราะตัณหา ความกลัวย่อมเกิดขึ้น) (ขุททกนิกาย ธัมมปทะ ๒๑๖)

๑๐. วิปัสสนา: การเห็นแจ้งทุกข์

สาวก: ข้าพเจ้าจะหลุดพ้นจากทุกข์ได้อย่างไร พระองค์?

ตถาคต:

“สมฺมาทิฏฺฐิ ปุพฺพงฺคมา สมฺมาสงฺกปฺโป” (ความเห็นชอบเป็นเบื้องต้นของทางพ้นทุกข์) (องฺคุตตรนิกาย นวกนิบาต ๙.๑)

๑๑. ปฏิจจสมุปบาทสายดับ

สาวก: เมื่อทุกข์เกิดจากเหตุปัจจัย หากดับเหตุปัจจัย ทุกข์จะดับหรือไม่ พระองค์?

ตถาคต:

“อิมสฺมึ อสติ อิทํ น โหติ อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌติ” (เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย่อมไม่มี เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้ย่อมดับไป) (สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ๑๒.๒)

๑๒. สัทธา: ศรัทธานำพาสู่ทางแห่งธรรม

สาวก: ข้าพเจ้าจะเริ่มต้นเดินตามทางของพระองค์ได้อย่างไร?

ตถาคต:

“สทฺธาหิ กุสโล โหติ ปญฺญาย จ วินุชฺชติ” (ศรัทธาทำให้เกิดปัญญา ปัญญาทำให้เห็นแจ้ง) (ขุททกนิกาย ชาตก ๒๕.๒๐)

สรุป(ครึ่งแรก)

พระพุทธองค์ทรงชี้ให้เห็นว่า ทุกข์มีเหตุปัจจัย เมื่อเข้าใจเหตุปัจจัยนั้น ทุกข์ก็สามารถดับได้ด้วยมรรคมีองค์แปด

ตถาคต: ภิกษุทั้งหลาย! เมื่อรู้เท่าทันทุกข์ เข้าใจเหตุแห่งทุกข์ เห็นทางดับทุกข์ และปฏิบัติตามอริยมรรค สัตว์ทั้งหลายย่อมถึงความพ้นทุกข์โดยแท้

สาวก: น้อมกราบพระองค์ ข้าพเจ้าจะตั้งใจปฏิบัติตามทางนี้


๑๓. สมุทัย: การเกิดขึ้นของทุกข์โดยละเอียด

สาวก: ข้าแต่พระองค์ เมื่อกล่าวถึงสมุทัย พระองค์ตรัสว่าตัณหาเป็นเหตุแห่งทุกข์ แต่ตัณหาเกิดขึ้นมาได้อย่างไร?

ตถาคต: ภิกษุทั้งหลาย! ทุกข์มิใช่เกิดขึ้นลอยๆ หากแต่อาศัยเหตุปัจจัย

“ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ อุปาทานปจฺจยา ภโว ภวปจฺจยา ชาติ”
(เพราะตัณหาเป็นปัจจัย อุปาทานจึงเกิดขึ้น เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ภพจึงเกิดขึ้น เพราะภพเป็นปัจจัย ชาติจึงเกิดขึ้น)
(สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ๑๒.๑)

ตัณหาย่อมเกิดขึ้นจาก เวทนา (ความรู้สึกพอใจ-ไม่พอใจ) เมื่อมีผัสสะกระทบอายตนะทั้งหก สัตว์โลกย่อมยึดมั่นถือมั่นสิ่งที่เป็นสุข และผลักไสสิ่งที่เป็นทุกข์

“เวทนาปจฺจยา ตณฺหา”
(เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงเกิดขึ้น)
(สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ๑๒.๑)

๑๔. ปฏิจจสมุปบาทสายเกิดโดยละเอียด

สาวก: พระองค์ ทุกข์ดำเนินไปในลักษณะเช่นไร?

ตถาคต: ภิกษุทั้งหลาย! ทุกข์เกิดขึ้นเป็นสายธารอาศัยเหตุปัจจัย ดังนี้
1. เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร (อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา)
2. เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ (สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณํ)
3. เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป (วิญฺญาณปจฺจยา นามรูปํ)
4. เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ (นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ)
5. เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ (สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส)
6. เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา (ผสฺสปจฺจยา เวทนา)
7. เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา (เวทนาปจฺจยา ตณฺหา)
8. เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน (ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ)
9. เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ (อุปาทานปจฺจยา ภโว)
10. เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ (ภวปจฺจยา ชาติ)
11. เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะ และความทุกข์ทั้งหลายจึงเกิดขึ้น (ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสูปายาสา สมุทโย โหติ)

(สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ๑๒.๑)

ภิกษุทั้งหลาย! เมื่อเป็นเช่นนี้ กองทุกข์ทั้งสิ้นจึงดำเนินไปอย่างมิรู้จบ

๑๕. นิโรธ: ปฏิจจสมุปบาทสายดับโดยละเอียด

สาวก: พระองค์ หากทุกข์เกิดขึ้นเป็นเหตุปัจจัย เช่นนั้น เมื่อดับเหตุปัจจัย ทุกข์จะดับลงหรือไม่?

ตถาคต: ถูกต้องแล้ว ภิกษุทั้งหลาย! ทุกข์ดับได้โดยอาศัยสายธารของเหตุปัจจัยดังนี้
1. เพราะอวิชชาดับ สังขารจึงดับ (อวิชฺชาย ตถาคเต ปริยุฏฺฐานา สงฺขารา นิรุชฺฌนฺติ)
2. เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ (สงฺขาร นิรุธา วิญฺญาณํ นิรุชฺฌติ)
3. เพราะวิญญาณดับ นามรูปจึงดับ (วิญฺญาณ นิรุธา นามรูปํ นิรุชฺฌติ)
4. เพราะนามรูปดับ สฬายตนะจึงดับ (นามรูป นิรุธา สฬายตนํ นิรุชฺฌติ)
5. เพราะสฬายตนะดับ ผัสสะจึงดับ (สฬายตน นิรุธา ผสฺโส นิรุชฺฌติ)
6. เพราะผัสสะดับ เวทนาจึงดับ (ผสฺส นิรุธา เวทนา นิรุชฺฌติ)
7. เพราะเวทนาดับ ตัณหาจึงดับ (เวทนา นิรุธา ตณฺหา นิรุชฺฌติ)
8. เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ (ตณฺหา นิรุธา อุปาทานํ นิรุชฺฌติ)
9. เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ (อุปาทาน นิรุธา ภโว นิรุชฺฌติ)
10. เพราะภพดับ ชาติจึงดับ (ภว นิรุธา ชาติ นิรุชฺฌติ)
11. เพราะชาติดับ ชรามรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส ทั้งหมดจึงดับสิ้น (ชาติ นิรุธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสูปายาสา นิรุชฺฌนฺติ)

(สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ๑๒.๑)

ภิกษุทั้งหลาย! นี่คือการดับแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้น

๑๖. ทุกข์ในขันธ์ห้าโดยละเอียด

สาวก: พระองค์ ขันธ์ห้าเกี่ยวข้องกับทุกข์อย่างไร?

ตถาคต: ภิกษุทั้งหลาย!

“รูปํ ทุกฺขํ เวทนา ทุกฺขา สญฺญา ทุกฺขา สงฺขารา ทุกฺขา วิญฺญาณํ ทุกฺขํ”
(รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ล้วนเป็นทุกข์)
(สังยุตตนิกาย ขันธวรรค ๒๒.๒๒)

ขันธ์ทั้งห้าประกอบไปด้วยสิ่งที่ไม่เที่ยง ย่อมตกอยู่ในไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

๑๗. มรรคมีองค์แปดโดยละเอียด

สาวก: ข้าแต่พระองค์ ข้าพเจ้าจะเดินทางออกจากทุกข์ได้อย่างไร?

ตถาคต: ภิกษุทั้งหลาย! พวกเธอจงเดินตาม อริยมรรคมีองค์แปด ดังนี้
1. สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ)
2. สัมมาสังกัปปะ (ความดำริชอบ)
3. สัมมาวาจา (วาจาชอบ)
4. สัมมากัมมันตะ (การกระทำชอบ)
5. สัมมาอาชีวะ (อาชีพชอบ)
6. สัมมาวายามะ (ความเพียรชอบ)
7. สัมมาสติ (สติชอบ)
8. สัมมาสมาธิ (สมาธิชอบ)

(มหาวารวรรค ส.๑๖.๑๒.๒)

ตถาคต: ภิกษุทั้งหลาย! เมื่อตถาคตได้แสดงธรรมเช่นนี้ พวกเธอจงเพียรปฏิบัติเพื่อความดับไม่เหลือแห่งทุกข์

สาวก: น้อมกราบพระองค์ พวกข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามทางนี้โดยแท้

#Siamstr #nostr #พุทธวจน #พุทธศาสนา #ธรรมะ
Author Public Key
npub1hge4uuggdfspu0wmffxqs9vj38m55238q3z2jzd907e8qnjmlsyql78hs2