คุณ Jimmy Castro ได้พูดคุยกับ อ.พิริยะ บนเวที Thailand Bitcoin Conference 2024 ถึงประสบการณ์ของเขาบนเชียงใหม่ ว่าเขาทำอะไรที่นั่นบ้าง รู้จักกับบิตคอยน์ตอนไหน เรื่องราวของเขาในการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้บิตคอยน์ที่เชียงใหม่ และมุมมองต่อการเติบโตของ Bitcoin ภายในประเทศไทย

ซึ่งสามารถรับชมการสนทนาฉบับเต็มได้ที่: https://www.youtube.com/watch?v=bVYmwMKu9Rc&t=234s

---

ความมหัศจรรย์ของเครือข่ายบิตคอยน์ที่คุณจิมมี่ได้ค้นพบระหว่างการช่วยเหลือชุมชนบนเขาที่เชียงใหม่แห่งหนึ่ง

Jimmy Castro นั้นย้ายเข้ามาอยู่ที่เชียงใหม่เป็นเวลา 2 ปีกับอีก 9 เดือนถ้วนแล้ว และได้จัดตั้งองค์กรไม่แสวงผลกำไรเพื่อที่จะให้การช่วยเหลือชุมชนห่างไกลความเจริญที่นั่น โดยเฉพาะกับชุมชนเด็กกำพร้าบนดอย ด้วยการให้การศึกษาภาษาอังกฤษแก่พวกเขา นอกจากนั้น เขาเองก็มีธุรกิจส่วนตัวที่สหรัฐอเมริกา ในเมืองไมอามีและมาร์กที่ช่วย Support สิ่งที่เขาทำอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน

คุณพิริยะนั้นได้รู้จักกับคุณจิมมี่ประมาณต้นปีแล้วก็ได้สนใจตัวโครงการของเขาที่ได้มีการนำแผงโซลาเซลล์และเครื่องขุด Bitcoin ไปติดตั้งให้ชุมชนบนเขา จึงถามไถ่ว่ามันเป็นมาอย่างไร

คุณจิมมี่เองก็ตอบว่าในตอนแรกนั้น พวกเขามีแค่ครูภาษาอังกฤษที่ตีนเขาใกล้ ๆ กับเมือง ก่อนที่เขาจะเกิดความเห็นอกเห็นใจเด็ก ๆ ที่เดินลงเขามาเรียนจึงได้ขึ้นไปเยี่ยมเยือนและก็พบว่าที่นั่นมีเด็กกว่าร้อยคน แต่กลับไม่มีไฟฟ้าใช้เลย เขารู้ว่าหากไม่มีไฟฟ้าต้องเกิดปัญหาทางโภชนาการแน่เพราะไม่มีตู้เย็น เขาจึงขึ้นไปติดโซล่าเซลล์กำลังผลิตไม่ใหญ่มากที่นั่น เพื่อที่อย่างน้อยเด็ก ๆ และคนที่นั่นจะมีตู้เย็นมาแช่ผักปลาหรือเนื้อสัตว์ได้

ก่อนที่จะพบว่ามีพลังงานเพียง 20% จากแผงโซล่าเท่านั้นที่ถูกเอาไปใช้ ที่เหลือผลิตเกิน เขาเลยปิ๊งว่าน่าจะนำเครื่องขุด Bitcoin ไปติดตั้งบนนั้นเพื่อใช้ประโยชน์จากพลังงานเหลือใช้นี้แล้วก็ได้ลองถามไปทางคุณ Bob ที่ กรุงเทพซึ่งเป็นเจ้าของ Bob Space ว่าเราเอาเครื่องขุดขึ้นไปติดบนนั้นได้ไหม? ทาง Bob Space จึงตกลงและส่งคนของเขาขึ้นไปสำรวจบนเขาที่คุณจิมมี่ติดโซล่าเซลล์อยู่แล้ว แล้วก็ได้คำตอบว่าเราสามารถติดตั้งเครื่องขุด Bitcoin ได้สองเครื่อง

เมื่อได้ยินดังนั้นเขาก็เลยไฟเขียวอย่างไม่ลังเล “เราลงเขาไปเตรียมของแล้วขึ้นมาติดเครื่องขุดกัน!”

ทว่าในขณะนั้นเป็นช่วงที่ฝนตกหนักมาก ทำให้การขับรถขึ้นเขาระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร นั้นแทนเป็นไปไม่ได้ พวกเขาจึงรออยู่สามเดือน จึงเมื่อฝนซาแล้ว พวกเขาก็ได้ขึ้นไปดำเนินงานกัน ในตอนแรกนั้นคุณ Jimmy เองก็รู้จักกับบิตคอยน์ในระดับผิวเผินเองเท่านั้น แต่หลังจากที่ทางทีมได้ติดตั้งอินเตอร์เน็ตบนนั้นและเปิดใช้งานเครื่องขุด เขาก็ประหลาดใจ

“นี่คือ…เกิดไรขึ้น?” “เราขุดบิตคอยน์กันอยู่ไง”

ซึ่งเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ตัวเครื่องขุดขุดบิตคอยน์มาได้กว่า 40,000 Sats ต่อเดือน (ในกรณีที่เครื่องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง) ซึ่งตีเป็นเงิน 1000 บาทในอัตราการแลกเปลี่ยน ณ ขณะนั้น แต่นั่นไม่ได้เป็นสิ่งที่เขาสนใจมากที่สุด

ณ ชุมชนบนภูเขากลางป่าที่ ๆ ต้องใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงจากตัวเมืองเชียงใหม่และไม่สามารถเข้าถึงไฟฟ้าของรัฐได้ สามารถเชื่อมต่อกับโลกของบิตคอยน์ได้ นี่เป็นสิ่งที่คุณจิมมี่ทึ่งที่สุด

โดยไม่รอช้า เขาได้โพสเรื่องราวสุดเจ๋งนี้บน X(Twitter) อย่างดีอกดีใจ แล้วคนที่เห็นโพสเขาก็ส่งเงินบริจาคเป็นบิตคอยน์มาที่โครงการบนเขานี่ ชุมชนนี้เชื่อมต่อกับโลกภายนอก ได้รับการช่วยเหลือ โดยไม่ผ่านตัวกลางใด ๆ เพียงเพราะแค่เขามาตั้งเครื่องขุดบนนี้ เขามองว่ามันเป็นสิ่งที่ทรงพลังมาก

อย่างไรก็ดี พอเข้าหน้าฝนพวกเขาก็ขนเครื่องขุดลงมาไว้ที่เมืองอมก๋อยแล้วใช้ไฟจากการไฟฟ้าขุดแทน ถึงแม้ว่าจะไม่คุ้มค่าไฟขุดก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังขุดต่อ เพราะในขณะนั้นมีคนใจดีมากมายจากทั่วทุกมุมโลกบริจากให้กับเขาเพื่อให้ดำเนินโครงการต่อไป ทำให้มันพอชดเชยต้นทุนค่าขุดได้บ้าง ด้วยเหตุนั้นเขาจึงยังคงเดินโครงการต่อและให้การสนับสนุนชุมชนบนเขากว่า 40 หมู่บ้าน

จนกระทั่งวันหนึ่ง เหมือนว่าจะมีหัวหน้าชุมชนตั้งคำถามกับโครงการขุดบิตคอยน์ที่คุณจิมมี่ทำอยู่ว่ามันดูดีเกินกว่าที่จะเป็นจริงได้ เขาจะมาต้มตุ๋นเราหรือเปล่า เขาที่ไม่อยากขัดแย้งอะไรกับทางชุมชนจึงได้พับโครงการขุดไปและกลับไป Focus กับการสอนหนังสือพวกเขาอย่างเดียว

คุณพิริยะให้ความเห็นว่าพวกเขาอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคย ว่านี้เป็นน้ำใจปกติของชาวบิตคอยน์ เพราะว่ามันเป็นเหมือนกับที่คุณ Tucker บอกเอาไว้ในการบรรยายของเขาว่าเงินที่แข็งแกร่งทำให้่คนมีน้ำใจมากขึ้น นั่นทำให้เราเห็นโครงการทำนองนี้กับ Bitcoiner ผุดขึ้นมามากมาย

ข่าวดีก็คือคุณจิมมี่ยังจะผลักดันโครงการนี้ต่อไป

ปัจจุบันเขาวางแผนว่าจะนำโครงการนี้ไปช่วยเหลือชุมชนห่างไกลอีกชุมชนหนึ่ง ชื่อชุมชนอมก๋อย ที่โดนรัฐสร้างเขื่อนไล่ที่จนพวกเขาสูญเสียปศุสัตว์และที่อยู่อาศัย ดังนั้นเขาจึงวางแผนว่าจะนำโครงการนี้ไปต่อยอดที่นั้น ให้พวกเขาไม่ต้องพึ่งไฟรัฐ แล้ววางแผนว่าจะขยาย Scale ของโครงการให้ใหญ่ขึ้นอีก ซึ่งเขาได้ประมาณการไว้ว่าจะติดตัังโซล่าเซลล์กำลังผลิตราว ๆ 50 ถึง 70 กิโลวัตต์

โครงการนี้ ทางคุณจิมมี่เองก็กล่าวว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีทางทีมของ Bob Space มาช่วย และบอกขอบคุณถึงความร่วมมือที่พวกเขาให้อย่างสุดซึ้ง

อีกทัังหลังจากมางานแล้วได้รู้จักกับ Nostr เขาก็คิดว่านี่แหละอาจจะช่วยให้เด็ก ๆ บนดอยเข้าถึงความช่วยเหลือจากคนทั่วโลกได้ง่ายขึ้นไปอีก เพราะคนที่เห็นเด็ก ๆ ผ่าน Nostr ก็สามารถบริจาคตรงเข้า Profile ของพวกเขาได้เลย

“we’re going to go up there and really mind sats!”

Jimmy Castro กับ Bitcoin Learning Center ที่เชียงใหม่ของเขาและคณะ

หลังจากที่พวกเขาพูดคุยเรื่องโครงการขุดเสร็จไป พวกเขาก็มาคุยกันเกี่ยวกับ Bitcoin Learning Center ที่ทางคุณจิมมี่และทีมของเขาได้ดำเนินอยู่ ซึ่งพึ่งตั้งได้ 2 ปี 9 เดือน เขาเล่าย้อนกลับไปในปี 2016 ที่เขาได้เข้ามาอยู่ที่เชียงใหม่และได้พบกับงาน Bitcoin มากมายที่นั่นที่จัดโดยคุณสตีฟ ซึ่งเขาเป็นคนมีความอดทนและเปิดรับฟังผู้อื่น เป็นบุคคลที่เขาเคารพ อย่างไรก็ดี เขานั้นต้องการอะไรซักอย่างที่ Focus ที่ตัว Bitcoin มากกว่านี้ ซึ่งงานของคุณสตีฟ ไม่ได้ตอบโจทย์พอ ด้วยความต้องการข้างต้น รวมกับที่เขาเคยไปอยู่ใน El Salvador แล้วเห็น Bitcoin Adoption ที่นั่น ทำให้เขาตระหนักได้ถึงความสำคัญของคอมมูนิตี้ที่ได้ชนไหล่กันจริง ๆ หลังจากวันนั้นเขาจึงบินไปบินมาอยู่หลายครั้งจากเชียงใหม่ไปกรุงเทพเพื่อไป Bitcoin Meetup ที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว

ณ จุดนั้นเองทำให้เขาคิดว่า เขาควรตั้ง Bitcoin hub ที่เชียงใหม่ได้แล้ว มันสมเหตุสมผลที่เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศจะมี Bitcoin Hub เหมือนที่กรุงเทพมีบ้าง (และถ้าบินไปบินกลับงี้ตลอดเขาอาจจะถังแตกเอาได้)

เขา และภรรยา ร่วมกับเพื่อนอีกคน ร่วมกันรีโนเวทตึกเก่า 40 ปีใหม่ให้เป็นฐานที่มั่นของเขา แต่เผอิญว่าช่วงเวลาที่กำลังจะทำ Office ก็ไปปะกับช่วงที่ FTX ล่มพอดี เราเลยหยุดโครงการเอาไว้ก่อนเพื่อรอให้เรื่องเย็นลง ก่อนที่เมื่อประมาณปีก่อน พวกเขาก็ลงมือลงแรงไปอย่างมากเพื่อที่จะก่อร่างสร้าง Bitcoin Learning Center นี้จนได้มีงาน Grand Opening เมื่อสัปดาห์ก่อน

เขาตกใจมากที่มี Bitcoiner ในเชียงใหม่มาร่วมงานกว่าร้อยคน หรือกว่า 10 หรือ 15 ครอบครัว เป็นสิ่งที่เกินคาด เขาได้แสดงความดีอกดีใจอย่างเปิดเผย

ซึ่งเขาได้กล่าวว่าหนึ่งในจุดประสงค์สำคัญของ Bitcoin Learning Center ที่เชียงใหม่นี้ คือการมอบการศึกษาเกี่ยวกับ Bitcoin เป็นภาษาไทยบ้าน ๆ เพราะเขาเข้าใจดีว่าไม่ใช่ทุกคนที่เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเขาเองก็จะจัด Bitcoin 101 Meetup ที่เชียงใหม่ภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อที่จะได้พูดคุยกันในเรื่องต่าง ๆ เช่นอะไรคือเงิน Bitcoin คืออะไรแล้วเราจะเอามันไปใช้ทำอะไรได้บ้าง อีกทั้งเพื่อที่จะเก็บ Feedback ที่เราอาจจะจำเป็นเพื่อที่จะพัฒนาวงการ Bitcoiner ต่อไป

มุมมองต่อการเติบโตของ Bitcoin ภายในประเทศไทย

*“Bitcoin นั้นช้า แต่มั่นคง” อาจพูดได้ว่าเป็นใจความสำคัญในการสนทนาเกี่ยวกับเรื่องที่ทั้งคุณจิมมี่และอาจารย์พิริยะได้เรียนรู้เมื่อดำเนินโครงการเกี่ยวกับ Bitcoin*

เวลาที่เราจะเริ่มต้นอะไรเกี่ยวกับ Bitcoin มันไม่ได้ใหญ่และฉูดฉาดเหมือนเหรียญ Crypto อื่น ๆ เพราะมันมักจะเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ แต่ค่อย ๆ เติบโตอย่างค่อย ๆ เป็นค่อยไป เพราะสิ่งที่ Bitcoiner ทุกคนมีเหมือนกันคือ เมื่อเป็นแล้ว มันกลับไปเหมือนเดิมไม่ได้ พวกเราจึงมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ

อีกทั้งทั้งสองยังเห็นตรงกันว่ามีคนไทยหลายคนเจ็บไปกับการเกิดและดับของ Shitcoin ต่าง ๆ ในตลาด พวกเขาเห็นอกเห็นใจและอยากให้พวกเขากลับมามอง Bitcoin ใหม่ไม่ใช่ในฐานะเหรียญ ๆ หนึ่ง แต่เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น

โดยในระหว่างที่สนทนากัน คุณจิมมี่เองก็ให้ความสนใจและสำคัญกับสิ่งที่ทางทีมงานของ Right Shift ทำเป็นอย่างมาก ด้วยความสม่ำเสมอของทีมงาน และการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยที่นำพาเขาและทุก ๆ คนในงานมาที่นี่ เขาอยากให้ Right Shift ดำเนินกิจการต่อไปและก็ได้ทิ้งท้ายเอาไว้ว่าหากต้องการความช่วยเหลือหรือต้องการความร่วมมืออะไรกับทาง Bitcoin Learning Center ที่เชียงใหม่แล้วหละก็เขาพร้อมที่จะช่วย

“We’ll do this. We’ll make this happen.”

ทั้งการเติบโตของคอมมูนิตี้ Bitcoin ที่ภูเก็ต พังงา กรุงเทพ และเชียงใหม่ ทำให้ทั้งเขา และ อ.พิริยะ เชื่อว่าซักวัน Bitcoin Adoption จะต้องเติบโตจนหน่วยงานรัฐเล็งเห็น ซึ่งทางคุณจิมมี่ ก็แสดงความยินดีที่จะได้ช่วยเหลือพวกเขาเมื่อเวลามาถึง เพราะเขามองว่าเมืองไทยถือเป็นพี่ใหญ่ในประเทศกลุ่มตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้เรามีศักยภาพในการรุดหน้าเกี่ยวกับ Bitcoin Adoption และการให้การศึกษาเกี่ยวกับ Bitcoin

ดังนั้นแล้ว ขึ้นอยู่กับเวลาว่าเขาจะตื่นรู้ว่า Bitcoin สามารถนำมาพัฒนาประเทศได้เช่น เราสามารถสร้างความมั่นคงทางพลังงานจากมันได้ เราสามารถพัฒรุดหน้าอย่างก้าวกระโดดด้วยมันได้ เมื่อถึงตอนนั้น มาพูดคุยกับเราสิ มาร่วมกันสร้างไปด้วยกัน

และก็ไม่ใช่แค่รัฐบาล วันหนึ่งทุก ๆ ธุรกิจเอกชนก็จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับ Bitcoin เช่นกัน มันจึงสำคัญที่พวกเราในตอนนี้จะต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้ Bitcoin ให้เพียบพร้อมในทุก ๆ ทาง แล้วเมื่อพวกเขาต้องการเรา พวกเขาจะต้องการเรา

“They’re going to need us because we don’t go away. We just keep getting stronger and stronger.”

และในช่วงสุดท้ายของการพูดคุย คุณจิมมี่ก็เชิญชวนทุก ๆ คนให้เข้ามาศึกษาเกี่ยวกับ Bitcoin ซักหน่อย วันละนิดก็ยังดี ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นใคร ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเล็กเช่นร้านตัดผม หรือธุรกิจใหญ่ก็ตาม เขาเชื่อว่ามันจะต้องเป็นประโยชน์กับพวกเราในภายภาคหน้า

“So please, add a little bit of bitcoin into your life”

---

บรรยายโดย Jimmy Castro และ อ.พิริยะ สัมพันธารักษ์ แปลและเรียบเรียงโดย คุณคอฟฟี่